ครม.อนุมัติลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลขณะเดียวกันยกเว้นภาษีอุปกรณ์สนับสนุนควบคุมการใช้ ก๊าซในรถยนต์และถังแก๊สอีก 3 ปี หวังให้ผู้บริโภคหันมาใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น

นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างประกาศกระทรวงการคลัง ลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทแมททิวเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับปรุงมาตรการภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลให้สอดคล้องกับประกาศของกรมธุรกิจพลังงานฉบับที่ 3/2548ที่กำหนดให้มีน้ำมันดีเซลชนิด ใหม่ ที่เรียกว่าดีเซลหมุนเร็ว บี 5 ซึ่งมีสัดส่วนของน้ำมันดีเซล 95 เปอร์เซ็นต์ขณะที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล 5 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นการปรับภาษีสรรพสามิตเพื่อคิดภาษีเฉพาะเนื้อของน้ำมันดีเซล 95 เปอร์เซ็นต์ และยกเว้นในส่วนของภาษีไบโอดีเซล 5 เปอร์เซ็นต์ เพื่อสนับสนุนมาตรการประหยัดพลังงานและส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซลให้สอดคล้องกันนโยบายของรัฐบาลในเรื่องพลังงานทดแทน

สำหรับเรื่องรายได้จะทำให้สูญเสียรายได้ภาษีสรรพสามิตปี 49 จำนวน 42.56 ล้านบาท แต่จะสามารถทดแทนได้จากการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ได้นำมาใช้ผลิตพลังงานทดแทน ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องอีกด้วย ทั้งนี้ร่างประกาศกระทรวงการคลังดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.นี้เป็นต้นไป

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.มีมติอนุมัติให้ยกเว้นอากรขาเข้าอุปกรณ์ ควบคุมการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ และถังบรรจุก๊าซธรรมชาติ เป็นระยะเวลา 3 ปีจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.51 จากเดิมที่กระทรวงการคลังเสนอให้ยกเว้นอากรขาเข้าเป็นระยะเวลา 5 ปี คือ 31 ธ.ค.53 และหลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.52 เป็นต้นไป เห็นชอบให้ปรับอัตราอากรขาเข้าเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ตามมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมการใช้ก๊าซเอ็นจีวี