Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 กันยายน 2548
ครม.ไฟเขียวบูมบ้านมือ2โบรกเกอร์ฯคาดหนุนยอดขายเพิ่ม20%             
 


   
www resources

โฮมเพจ กระทรวงการคลัง

   
search resources

กระทรวงการคลัง
Real Estate
ไชยยศ สะสมทรัพย์




ครม.ผ่านมาตรการส่งเสริมตลาดบ้านมือสอง ยกเว้นอากรแสตมป์สำหรับผู้ขายบ้านที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปี คาดสูญเสียรายได้ภาษี 100 ล้านบาทต่อปี และมีผลบังคับใช้ภายในเดือน ก.ย.นี้ ด้านผู้ประกอบการ นายหน้าเชื่อยอดขายบ้านมือ2 พุ่ง 10-20% หลังประกาศใช้มาตรการ คาดผู้บริโภคแห่โอนก่อนดอกเบี้ยปรับขึ้นเดือน ต.ค.

วานนี้ (13 ก.ย.) นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมตลาดบ้านมือสองของกระทรวงการคลัง ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)เสนอ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างทั่วถึงและเหมาะสมกับสถานะของผู้อยู่อาศัย โดยมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย 6 แนวทางคือ

ด้านภาษี และค่าธรรมเนียมให้ยกเว้นอากรแสตมป์ให้แก่ผู้ขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งผู้ขายได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎรไม่น้อยกว่า 1 ปีและภายในกำหนดเวลา 1 ปีก่อน หรือ นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาซื้อขายอสังหาฯดังกล่าว โดยให้มีผลบังคับใช้หลังจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกินภายในเดือนกันยายนนี้ เพราะเป็นมาตรการเร่งด่วน ซึ่งในส่วนของอากรแสตมป์ที่ยกเว้นนั้น จะทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้ภาษีประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี

ในส่วนของค่าธรรมเนียม ให้ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับอสังหาริมทรัพย์ซึ่งบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ทั้งนี้ กำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550

ทั้งนี้ คาดว่าการลดหย่อนภาษี และค่าธรรมเนียมจะทำให้ต้นทุนในการซื้อขายบ้านมือสองลดลง นอกจากนี้การลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนจำนอง เป็นการลดภาระต้นทุนการกู้ยืมของประชาชนผู้มีเงินได้น้อย ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย เพิ่มเติมจากกฎหมายปัจจุบันที่บุคคลธรรมดาสามารถหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อ หรือเช่าซื้อที่อยู่อาศัยโดยจำนองอาคารที่ซื้อนั้นเป็นหลักประกันในการกู้ยืมได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท

ด้านฐานข้อมูล ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้จัดทำฐานข้อมูลบ้านมือสองแห่งชาติ (Multiple Listing Service -MLS) ผ่านเว็บไซต์ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ www.resalehomethai.com ที่แสดงรายละเอียดอย่างครบถ้วน, ด้านสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยเสนอ package สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้ขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านมือสอง โดยเฉพาะในงานมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9-11 ก.ย.ที่ผ่านมา

ด้านมาตรการกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ได้ให้กรมธนารักษ์จัดตั้งศูนย์ข้อมูลนายหน้าอสังหาฯภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง เพื่อดำเนินการจัดทำบัญชีรายชื่อบริษัทตัวแทนและนายหน้า รวมทั้งดำเนินการยกร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตัวแทนและนายหน้าอสังหาฯ, ด้านการพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพบุคลากร สนับสนุนการฝึกอบรมและการพัฒนาวิชาชีพเกี่ยวกับอาชีพตัวแทนและนายหน้า รวมทั้งผลักดันให้บรรจุวิชาเกี่ยวกับตัวแทนและนายหน้าเป็นหลักสูตรในระดับอุดมศึกษาต่อไป

และสุดท้าย ด้านการตลาด จัดให้มีศูนย์กลาง ซื้อขายบ้านมือสอง เพื่อให้เป็นตลาดนัดบ้านมือสอง เดือนละ 1 ครั้ง โดยจะเริ่มราวปลายปี 2548 ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 ปี ในลักษณะการให้บริการแบบ One Stop Serviceและจัดงานมหกรรมบ้านมือสอง 4 มุมเมือง ระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้

นายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัทเรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับขั้นตอนและการดำเนินงานของทางราชการที่ดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งในช่วงที่ ครม. มีการอนุมัติให้ใช้มาตรการสนับสนุนบ้านมือสอง ต้องพิจารณาในสองส่วน คือ ส่วนแรกต้องมองช่วงระยะเวลาก่อนการประกาศใช้เป็นกฎกระทรวง เพราะผู้บริโภคอาจจะยืดระยะเวลาในการโอนออกไป เพื่อรอผลบังคับใช้ และส่วนที่สองคือกลุ่มผู้บริโภคที่ยังไม่ได้โอน แต่ไม่สามารถรอมาตรการดังกล่าวได้ เพราะถูกบังคับด้วยสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำไว้ และส่วนที่ต้องเร่งโอนก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งหากโอนหลังจากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

"เชื่อว่าหลังจากมาตรการมีผลบังคับใช้คาดหลังเดือนก.ย.ไปถึงสิ้นปีนี้ ยอดการขายบ้านในตลาดบ้านมือสองจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 10-20% โดยเฉพาะในช่วงก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อีก 0.5% ในเดือนตุลาคมนี้ ผู้บริโภคในตลาดจะมีการเร่งซื้อและโอนเพิ่มขึ้น เพราะจะช่วยให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าธรรมเนียมการโอน และค่าจดจำนองได้ ถึงกระนั้นในระยะ 2-3 เดือนข้างหน้าต้องมาพิจารณาว่ามาตรการที่ออกมาจะสนับสนุนการเติบโตของตลาดบ้านมือสองมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าตลาดยังไม่ปรับเปลี่ยนมากนัก ก็เชื่อว่าภาครัฐคงจะมีมาตรการเพิ่มเติมอีก"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us