ปตท.ยืนยันหนักแน่น สั่งบ้านใร่กาแฟต้องรื้อร้านในปั๊มปตท.สาขาคลอง 7 ออกด้านบ้านใร่หมดหนทางสู้ ยอมรื้อถอนยุติสัมพันธ์ ยันยังเหนียวแน่น กับปั๊มเจ็ท ย้ำประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอย แน่ เปิดบริษัทลูกลุยธุรกิจต่อยอด

นายอัศวิน ไขรัศมี ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจ บริษัท ออกแบบไร่นา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านกาแฟ "บ้านใร่กาแฟ" กล่าวว่า จากกรณีที่ทางปั๊มน้ำมันของการปิโตร เลียมแห่งประเทศไทยหรือปตท.จะปรับภาพลักษณ์และปรับปรุงพื้นที่ สถานีบริการปตท. คลอง 7 ถนน รังสิต-องครักษ์ใหม่ เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯซึ่งมีผลทำให้ร้านบ้านใร่กาแฟที่เปิดบริการอยู่ในพื้นที่ของปั๊มต้องถูกรื้อถอนออกไปด้วย เพื่อทางปตท.จะได้ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด

แตกหักกับปตท. รื้อร้านตำนาน

ล่าสุดทางบริษัทฯได้พบปะเจรจากับทางผู้บริหารของปตท. ซึ่งได้ส่งตัวแทนคือนายจักรกฤษณ์ จารุจินดา ผู้จัดการส่วนค้าปลีก เข้าประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งข้อสรุปคือไม่สามารถตกลงกันได้ โดยที่ทางตัวแทนของปตท.ยังยืนยันที่จะให้บริษัทฯรื้อถอนร้านบ้านใร่กาแฟออกไป พร้อมกับกล่าวว่า เข้าใจดีแต่เนื่องจากเป็นนโยบายของทางบริษัทฯจึงต้องดำเนินการ ซึ่งบริษัทฯเองคงต้องทำการรื้อถอนในที่สุดและจะทำให้บริษัทฯไม่มีการเปิดร้านบ้านใร่กาแฟในปั๊มปตท.อีกแล้ว

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้พยายามเจรจารวมทั้งตอกย้ำถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่า ต้องการที่จะให้ร้านนี้เปิดบริการอยู่ ให้เป็นเสมือนอาคารตัวอย่างดั้งเดิมของทางร้าน โดยไม่ใช้ชื่อบ้านใร่กาแฟก็ได้ ยอมเปลี่ยนชื่อใหม่ ตามที่ปตท.อนุมัติมา เพื่อจะให้เป็นพิพิธภัณฑ์ต้นแบบร้าน กาแฟในปั๊ม โดยจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เยี่ยมชมการ ดำเนินงานของบ้านใร่กาแฟตั้งแต่เริ่มแรก มีการแสดง โขน ศิลปวัฒนธรรมไทย กิจกรรมต่างๆ เพื่อสะท้อนความเป็นไทย รวมทั้งจะไม่ดำเนินในเชิงธุรกิจแล้ว ซึ่งที่ผ่านมีรายได้ประมาณ 30,000-35,000 บาทต่อเดือน โดยหลังจากนี้รายได้ทั้งหมดจะบริจาคโดยไม่หักค่าใช้จ่าย นำรายได้เข้ามอบโครงการ "บวก1บวก2บวก3บวก5" มีวัตถุประสงค์คือ มอบทุนแด่ผู้ขาดโอกาสแบบสังคมไทย เช่น จัดเป็นทุนการศึกษา บริจาคต่อมูลนิธิสังคมต่างๆ ที่ผ่านมาได้มอบเงินโครงการนี้ให้กับผู้ด้อยโอกาสไปแล้ว 135 ราย เป็นเงิน 336,145 บาท

สำหรับสาขาในปั๊มปตท.คลอง 7 นี้ เป็นสาขาแรกของบ้านใร่กาแฟที่เปิดบริการตั้งแต่ปี 2540 และถือเป็นต้นแบบของร้านกาแฟที่เปิดในปั๊มต่อมาอีกหลายแห่ง ซึ่งก่อนหน้านั้นทางบ้านใร่กาแฟก็ได้ปิดสาขาในปั๊มปตท.ตั้งอยู่ที่ถนนวิภาวดีรังสิตใกล้กับสำนักงานใหญ่ อีซูซุไปแล้ว ซึ่งยังเป็นสาขาที่สองที่เปิดในปั๊มปตท.และเป็น สาขาที่ 27 ของบ้านใร่กาแฟ ซึ่งมียอดขายเฉลี่ย 3 แสนบาทต่อเดือน

ปตท.ชูอะเมซอนคาเฟ่แข่งแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุหนึ่งที่ปตท.จะทำ การปรับภาพลักษณ์ของปั๊มน้ำมัน เนื่องจากว่า ปัจจุบันปั๊มน้ำมันมีการแข่งขันที่รุนแรง และค่าการตลาดก็ต่ำลง แม้ว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นมากเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ก็ตาม แต่ก็พยายามที่จะหารายได้ในส่วนอื่นที่เป็นค้าปลีกเพิ่มขึ้น เช่น การปรับปรุงพื้นที่เพื่อเปิดบริการค้าปลีก ต่างๆ ทั้งคอนวีเนียนสโตร์ให้ดีขึ้น หรือให้ร้านค้าอื่นเข้ามาเช่าพื้นที่มากขึ้น

ส่วนกรณีของธุรกิจกาแฟนั้น ปัจจุบันทางปตท.เองก็ มีการพัฒนาร้านกาแฟของตัวเองขึ้นมาภายใต้ชื่อ อะเมซอน คาเฟ่ ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจเดียวกันกับ บ้านใร่กาแฟ จึงทำให้ทางปตท.ต้องตัดสินใจให้บ้านใร่กาแฟถอนร้านออกไป ซึ่งสาขาที่ปตท.ที่ใกล้กับตึกอีซูซุนั้นก็มีร้านอะเมซอนคาเฟ่ เปิดแทนบ้านใร่กาแฟแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่สามารถรักษาสาขาดั้งเดิมไว้ได้ ทางบ้านใร่กาแฟก็คงต้องรื้ออาคารเดิมและนำไปประกอบไว้ที่โครงการ "บ้านเกิดกำเนิดตำนาน" ที่สระบุรี ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ เป็นพื้นที่โรงคั่วบดเมล็ดกาแฟเดิมอยู่แล้ว แต่เพิ่งเปิดบริการส่วนของพิพิธภัณฑ์เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา

ยันสัมพันธ์เจ็ทยังปึ้ก

นายอัศวินย้ำด้วยว่า ส่วนความสัมพันธ์กับทางปั๊มเจ็ทนั้นยังมีความเหนียวแน่นอยู่ เพราะทางผู้บริหารของเจ็ทเข้าใจนโยบายของบ้านใร่กาแฟเป็นอย่างดี และล่าสุดเพิ่งต่อสัญญากันไปเมื่อปีที่แล้ว หรือ 3 ปีต่อครั้ง ครอบคลุมทุกสาขาในสัญญาใหม่นี้และคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา

"แม้ว่าเวลานี้จะมีร้านกาแฟแบรนด์อื่นเปิดในปั๊มเจ็ท เพิ่มก็ตาม แต่เรายังมีความมั่นใจและมีสัมพันธภาพที่แนบแน่นกับทางเจ็ท แต่เราก็ไม่ได้เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ เวลานี้เท่าที่ทราบมามีร้านบลูคัพของเครือเอสแอนด์พีเปิดด้วย และยังมีร้านแบล็คแคนยอนเปิดประมาณ 15 สาขาในปั๊มเจ็ททุกสาขาที่มีเราเปิดร้านแต่เชื่อว่าลูกค้าคนละกลุ่มกัน"

ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านบ้านใร่กาแฟที่เปิดบริการรวม สาขาปตท.ที่มีปัญหานี้ด้วย จำนวน 106 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในปั๊มเจ็ทแทบทั้งสิ้น มีไม่กี่สาขาเท่านั้นที่อยู่นอกปั๊มเจ็ท เช่น เทสโก้โลตัสสระบุรี สุขุมวิท 30/1 เอกมัย เลมอนฟาร์มแจ้งวัฒนะ ปั๊มน้ำมันคอสโม วงแหวนตะวันตก และโรงคั่วกาแฟที่สระบุรี และบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอีก 5 แห่ง

ขณะนี้บ้านใร่กาแฟมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่ง คือที่ 1. ถนนศรีนครินทร์เยื้องกับซีคอนสแควร์เป็นแบบสแตนด์อะโลน 2. ในพื้นที่ของราชนาวีสโมสร เป็นรูปแบบใหม่ที่มีขายทั้งกาแฟ สินค้าโอทอป และร้านดอกไม้ ในชื่อว่า "ราชนาวีสโมสร บาย บ้านใร่กาแฟ" ส่วนสาขาที่เอกมัยนั้น ในช่วงปลายปีนี้จะมีการปรับพื้นที่ และเปิดบริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ลงทุนประมาณ 8 แสนบาท การหาทำเลใหม่ๆจากนี้จะมีทั้งการใช้บริการของโบรกเกอร์ เช่น ซีบีริชาร์ดเอลลิส โจนส์แลงฯ เป็นต้น กับการหาทำเลเองโดยฝ่ายจัดหาพื้นที่ของบริษัทฯ

ตั้งบริษัทลูกลุยธุรกิจต่อยอด

ขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะบุกตลาดค้าปลีกเพิ่มขึ้นด้วยการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ 2 แห่งคือ บริษัทที่ทำธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟประเภทอินสแตนต์ ชื่อ "กลับบอร์ก" มี 2 แบบคือ ทองดำและทองส้ม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับค้าปลีกหลายแห่งเพื่อวางจำหน่าย เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ปลายปีนี้ นอกนั้นก็มีวี ชอป เฟรชมาร์ท เทสโก้โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ เป็นต้น

อีกบริษัทคือทำธุรกิจคั่วและจัดจำหน่ายกาแฟไปยังตลาดต่างประเทศ แยกออกจากบริษัทเดิมที่ผลิต และคั่วบดส่งให้กับสาขาของบริษัทฯโดยเฉพาะปัจจุบัน มีพันธมิตรแล้วคือ บริษัท สไปร์ทโรด ของญี่ปุ่นที่มีร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น 24 สาขา จะซื้อผลิตภัณฑ์ไปทำเป็นเมนูเครื่องดื่ม ไทยไอซ์คอฟฟี่ ซึ่งได้ทดลองซื้อไปแล้ว 2 ล็อต เดิมทีมีอยู่แล้ว 2 บริษัท คือ ออกแบบไร่นาฯ ทำธุรกิจร้านบ้านใร่กาแฟ และบริษัท ไทยชง ประเทศไทย จำกัด ทำธุรกิจ ร้านกาแฟโบราณรถเข็น ไทยชงบอร์ก ซึ่งปัจจุบันขายแฟรนไชส์ได้แล้วกว่า 70 ราย

สำหรับผลประกอบการปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายโดยรวมประมาณ 140-145 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% จากปีที่แล้วที่ได้ประมาณ 135 ล้านบาท