"สงกรานต์ อิสสระ"วางอนาคตของบริษัท พุ่งเป้าลงทุนด้วยความระมัดระวังและไม่สร้างหนี้ในระดับที่สูงเกินไป วางแผนลุยโครงการใหม่และเฟสต่อเนื่อง ประเดิมศรีพันวา จ.ภูเก็ต มูลค่า 700 ล้านบาท โครงการ ใหม่ชะอำ-หัวหิน บ้านเดี่ยว คอนโดฯมูลค่า 1,000 ล้านบาท เล็งผุดบ้านเดี่ยวในทำเลพุทธมณฑล-ศรีนครินทร์ ระดับราคา 5 ล้านบาท ส่วนที่ดินใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ รอจังหวะคู่แข่งลงทุนหมดผุดบ้านเดี่ยวระดับ 2 ล้านบาท และแฟลตราคาถูก 4-5 แสนบาท คาดภายในปี 50 รายได้ค่าเช่าขยับ 30%
นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI เปิดเผยถึงนโยบายการลงทุนของบริษัทว่า จากผลพวงวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาทำให้ทิศทางการลงทุนต้อง อยู่บนพื้นฐานของความมั่นคง การควบคุมหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่ให้สูง ซึ่งระดับ 1 เท่าก็เป็นอัตราที่เหมาะสมสำหรับบริษัท การปรับดีไซน์หรือรูปแบบของสินค้าให้มีความหลากหลาย มีการผสมผสานไลฟ์สไตล์เข้าไปในตัวสินค้าจะช่วยสร้างมูลค่าให้แก่โครงการของบริษัทได้ดี เฉลี่ยแล้วสามารถสร้างราคาได้สูง 30-40%
ทั้งนี้ ในแผนครึ่งปีหลังและต่อเนื่องถึงปี 2549 บริษัทยังเพิ่มการลงทุนในโครงการที่มีอยู่ ได้แก่ โครงการศรีพันวา ภูเก็ต ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายในเฟสที่ 2 มูลค่าการขายประมาณ 700 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านเดี่ยวระดับหรู 9 หลัง ซึ่งมียอดขายล่วงหน้าไปแล้ว 1-2 หลัง และโรงแรมสไตล์วิลลา 20 หลัง นอกจากนี้ทางโครงการยังมีบริการพิเศษ รับลูกค้าจากสนามบินภูเก็ตมาลงที่โบ๊ตลากูน และนั่งเรือยอชต์ มาขึ้นที่โครงการศรีพันวา ขณะเดียวกันทางโครงการจะมีข้อตกลงกับลูกค้าที่เข้ามาซื้อ โดยให้บริการดูแลการปล่อยเช่าหากลูกค้าต้องการ โดยแบ่งรายได้ทั้งสองฝ่ายอย่างละครึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว เฉลี่ยแล้วค่าเช่าต่อคืนประมาณ 1 พันเหรียญสหรัฐ
สำหรับโครงการศรีพันวา มีทั้งหมด 3 เฟส เนื้อที่กว่า 80 ไร่ โดยเฟสแรกมียอดขายไปแล้ว 8 หลังจากจำนวน 9 หลัง เฉลี่ยราคาขายหลังละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าขาย 500 ล้านบาท และเฟสที่ 3 กำลังดูจังหวะที่เหมาะสมของการลงทุน โดยจะให้เฟสที่ 2 แล้วเสร็จก่อนเพื่อมิให้ลูกค้าเกิดความสับสน คาดว่าจะเริ่มประมาณกลางปี 2549 ซึ่งจะเป็นรูปแบบของโรงแรมสไตล์วิลลา 38 หลัง มูลค่าขายประมาณ 1,000 ล้านบาท
"ที่ดินตรงนี้หาไม่ได้อีกแล้ว และเป็นทำเลที่มีศักยภาพสามารถเห็นวิวของทะเลได้ทั้งสองฝั่ง ดังนั้นการทำโครงการในรูปแบบวิลลาจะช่วยให้บริษัทมีรายได้ระยะยาว ขณะที่เราคิดว่าวิลลาในจังหวัดภูเก็ต ยังขาดตลาดอยู่ และด้วยตัวสินค้าแล้วทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะให้การตอบรับด้วยดี" นายสงกรานต์กล่าว
นอกจากนี้ ยังเตรียมลงทุนในโครงการใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการ บ้านเพลินทะเล ชะอำ-หัวหิน จ.เพชรบุรี ล่าสุดมีความชัดเจนของรูปแบบโครงการ โดยจะเป็นทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ประมาณ 150 ยูนิต มูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนของการขายและให้บริการบริหารค่าเช่าห้องพักให้แก่ลูกค้า เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อห้องพักในย่านชะอำ-หัวหิน เริ่มหันมาปล่อยเช่ามากขึ้น ราคาการปล่อยเช่าในตลาดประมาณ 2,000-5,000 บาทต่อคืน ขึ้นอยู่กับทำเล ซึ่งพิจารณาไปแล้ว รายได้ที่ลูกค้าปล่อยเช่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ลูกค้าต้องเสียให้แก่โครงการ ซึ่งสภาพตลาดเป็นตัวบีบบังคับ ประกอบกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทำให้แนวโน้มของการปล่อยเช่ามีอัตราเติบโตสูง ต่างกับโครงการทั่วไปในกรุงเทพฯที่ค่าเช่าห้องพักจะแพงกว่าราคาขาย
นายสงกรานต์กล่าวถึงแผน การพัฒนาโครงการในกรุงเทพฯว่า นอกจากโครงการบ้านอิสสระ พระราม 9 ที่ขณะนี้มียอดขายไปแล้ว 30 ยูนิตจากทั้งหมด 54 ยูนิต ทางบริษัทเตรียมลงทุนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา 5 ล้าน บาทขึ้นไป บนเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาทำเล อาทิ ทำเลศรีนครินทร์ และพุทธมณฑล โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ ซึ่งถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้เวลาในการพัฒนาประมาณ 2-3 ปี
"ที่ผ่านมาเรายอมรับว่าบริษัทชาญอิสสระทำบ้านคุณภาพระดับสูง และการที่ลงมาทำบ้านระดับกลางไม่ใช่ต้องการเข้ามา ดัมป์ราคา แต่เราจะพัฒนาและทำบ้านที่มีคุณภาพดีเหมือนคอนเซ็ปต์ ของโครงการที่ผ่านมา ส่วนโครงการ คอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า คงต้องพิจารณาให้รอบคอบในภาวะตลาดเช่นนี้ แต่ในความเห็นแล้วทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรจะมีความปลอดภัยดี และตอนนี้อะไรก็ดูหวาดเสียวไปหมด หากทำคอนโด-มิเนียมก็ต้องทำให้เสร็จทั้งหมด ยิ่งภาวะดอกเบี้ยแพงและน้ำมันแพงด้วยแล้วต้องดูให้ดี" นายสงกรานต์กล่าว
สำหรับที่ดินบริเวณใกล้ สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ นายสงกรานต์กล่าวว่า ได้ร่วมทุนกับบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รีซอร์ส ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (IRD) โดยบริษัทถือหุ้น 16% ส่วนที่เหลือจะเป็นกลุ่มทุนจากญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แบ่งขายที่ดินให้แก่กลุ่ม คิงส์ เพาเวอร์ จำนวน 300 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการ คิงส์ เพาเวอร์ สปอร์ต คลับ ซึ่งในส่วนของกลุ่ม ะวางแผนพัฒนาที่ดินส่วนที่เหลือ จะประกอบไปด้วย โครงการบ้านจัดสรร ระดับราคา 2 ล้านบาท 2 ห้องนอน, โครงการโลว์ไรท์ในรูปแบบเป็นตึกแฟลตระดับราคา 4-5 แสนบาท ที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางลงล่าง
"เราคงต้องรอให้คู่แข่งที่กำลังพัฒนาโครงการอยู่ทำให้หมดไปก่อน และสนามบินสุวรรณภูมิ มีการเปิดใช้ได้จริง จึงจะเริ่ม แผนพัฒนาโครงการตามแนวที่วางไว้"
นายสงกรานต์กล่าวว่า จากแผนพัฒนาโครงการของบริษัทที่มีทั้งการขายขาดและปล่อยเช่า จะทำให้ในระยะยาวแล้วรายได้จากค่าเช่าจะขยับขึ้น ซึ่งคาดว่าภายในปี 2550 เพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 15% ขณะที่ในปีนี้คาดว่าบริษัทจะมียอดรับรู้รายได้ตามเป้าที่วางไว้ 800-1,000 ล้านบาท ตามข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ไตรมาส 2 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.773 ล้านบาท และช่วงครึ่งปีมีกำไรสุทธิ 12.433 ล้านบาท
|