ก.ล.ต.สวมบทโหดลงดาบ บลจ.อยุธยาเจเอฟ ฐานซิกแซกลงทุนโดยไม่ได้รับอนุญาต เผยเดือนสิงหาฯ โดนเบี้ยปรับกว่า 1.4 ล้านบาท ขณะที่บลจ.บีโอเอโดนหางเลข "โฆษณา"ไม่บอก โดนปรับไป 30,000 บาท
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการเปรียบเทียบปรับของก.ล.ต. ได้มีการเปรียบเทียบปรับทั้งหมด 21 รายการ มูลค่ารวม 4,379,675 บาท
โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยาเจเอฟ จำกัด (AJF) ถูกเปรียบเทียบปรับมากที่สุดจำนวน 9 รายการ มูลค่ารวม 1,423,312.50 บาท โดยเป็นการถูกเปรียบเทียบปรับเนื่องจากหาดอกผลโดยวิธีอื่นโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน และไม่เป็นไปตามโครงการที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานจำนวน 3 รายการ
นอกจากนี้ บลจ.อยุธยาเจเอฟ ยังถูกเปรียบเทียบปรับ เนื่องจากได้ลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อกองทุนเกินกว่าอัตราส่วนการลงทุนที่กำหนดตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. และไม่เป็นไปตามโครงการที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานจำนวน 5 รายการ และได้มอบหมายให้ผู้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของกองทุนเป็นผู้ตัดสินใจลงทุนให้กับกองทุน ซึ่งไม่เป็นไปตามโครงการที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงาน 1 รายการ ซึ่งเป็นการกระทำผิดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2547
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 101,625 บาท เนื่องจากในฐานะบริษัทจัดการที่รับจัดการกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทยโกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต-ปันผล ได้ลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อกองทุนดังกล่าวเกินกว่าอัตราส่วนการลงทุนตามโครงการที่ได้ รับอนุมัติจากสำนักงาน
รายงานกล่าวว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ถูกปรับจำนวน 40,500 บาท เนื่องจากในฐานะบริษัทที่รับจัดการกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 ได้ลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อกองทุนดังกล่าวเกินกว่าอัตราส่วนการลงทุนที่กำหนดตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. และไม่เป็นไปตามโครงการที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงาน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บีโอเอ จำกัด ปรับจำนวน 30,000 บาท เนื่องจาก ได้โฆษณากองทุนที่บริษัทบริหารจัดการโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน
รายงานข่าวกล่าวว่า คณะกรรมการเปรียบเทียบปรับก.ล.ต.ได้มีการเปรียบเทียบปรับนายสมภาพ เลิศรวีวงศ์ จำนวน 500,000 บาท เนื่องจากได้ร่วมกับบุคคลอื่นซื้อขายหลักทรัพย์บริษัทซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) อันเป็นการอำพรางเพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งหลักทรัพย์นั้นได้มีการซื้อหรือขายกันมาก หรือราคาของหลักทรัพย์นั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอันไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด
นายปอก้วน กิตติศรีไสว จำนวน 500,000 บาท เนื่องจากได้ร่วมกับบุคคลอื่นซื้อขายหลักทรัพย์บริษัทซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) อันเป็นการอำพรางเพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งหลักทรัพย์นั้นได้มีการซื้อหรือขายกันมาก หรือราคาของหลักทรัพย์นั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอันไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด
บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) จำนวน 608,437.50 บาท เนื่องจากมิได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์กำหนด โดยระหว่างวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2548 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2548 บริษัทมิได้บันทึกการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ และการเจรจาตกลงเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ของลูกค้าทางโทรศัพท์หรือทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ครบถ้วน
บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด จำนวน 465,000 บาท เนื่องจากมิได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์กำหนด โดยระหว่างวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2548 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2548 บริษัทมิได้บันทึกการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ และการเจรจาตกลงเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ของลูกค้าทางโทรศัพท์หรือทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ครบถ้วน
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด จำนวน 183,000 บาท เนื่องจากมิได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์กำหนด โดยระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2548 บริษัทมิได้บันทึกการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ และการเจรจาตกลงเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ของลูกค้าทางโทรศัพท์หรือทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ครบถ้วน
ธนาคารไทยธนาคาร จำนวน 115,800 บาท เนื่องจากในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาตให้ ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทจัดการกองทุนส่วนบุคคล มิได้นำทรัพย์สินของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ได้รับมอบหมายให้จัดการไปฝากไว้กับผู้รับฝากทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบภายในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับทรัพย์สินนั้นมา
ธนาคารซิตี้แบงค์ เอ็น เอ สาขากรุงเทพฯ จำนวน 101,500 บาท เนื่องจากในฐานะผู้ดูแล ผลประโยชน์ของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต-ปันผล ไม่ดูแลให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนให้เป็นไปตามโครงการที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงาน
ธนาคารซิตี้แบงค์ เอ็น เอ สาขากรุงเทพฯ จำนวน 97,500 บาท เนื่องจาก ในฐานะผู้ดูแล ผลประโยชน์ของกองทุนเปิดอยุธยาทุนทวี 4 ไม่ดูแลให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนให้เป็นไปตามโครงการที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงาน
บริษัทยีเอส ยัวซ่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 213,000 บาท เนื่องจากได้มาซึ่งหุ้นบริษัทยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ในลักษณะผ่านนิติบุคคลอื่น (Chain Principle) โดยมิได้รายงานการได้มาตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด
|