เอปสัน ประเทศไทย ปรับเป้าหมายการตลาดสินค้าใหม่ ทั้งลดและเพิ่มไปพร้อมกัน ชี้เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน พร้อมปรับแผนตลาดมุ่งทำตลาดด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะกับสินค้าแต่ละตัว เกาะติดกระแสดิจิตอลคอนเทนต์ ด้วยแนวคิด 3i พัฒนาผลิตภัณฑ์สนองตลาด

นายโนริโอะ นิวะ รองประธาน บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงทิศทางการทำตลาดของเอปสันในปีนี้ว่า จะเกาะติดกับกระแสการเติบโตของดิจิตอลคอนเทนต์ด้วยการผลิตสินค้าและบริการตอบสนองลูกค้าในกลุ่มนี้ให้มากที่สุด โดยจะมุ่งนำเสนอโปรดักส์ภายใต้แนวคิด 3i โดย i ตัวแรกเป็น imaging on paper การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพริ้นเตอร์ i ตัวที่ 2 เป็น imaging on screen เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโปรเจคเตอร์และ i ตัวที่ 3 คือ imaging on glass เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มจอภาพ

“เอปสันจะพัฒนาโปรดักส์ตามแนวทาง 3i เพื่อปรับภาพเอปสันเดิมในด้านพรินเตอร์เพียงอย่างเดียวมาสู่ Epson= Imaging ซึ่งหมายถึงการเป็นผู้นำในธุรกิจภาพ โดยมีพันธกิจใหม่ที่วางไว้คือ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคเหนือความคาดหมาย ( Exceed Your Vision)”

หนึ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของเอปสันคือการพัฒนาโปรดักส์ให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่นการพิมพ์ภาพโดยไม่ต้องผ่าน PC แต่สามารถต่อ USB กับเครื่องพิมพ์ได้เอง นับเป็นการเปิดโลกใหม่ของการพิมพ์ภาพ โดยมุ่งจับตลาดกลุ่มผู้ใช้ตามบ้าน ที่สามารถพิมพ์ได้เอง รวมทั้งมุ่งสู่ความเป็นผู้นำเพื่อให้พรินเตอร์สามารถทำงานได้ในลักษณะออล อินวัน เป็นได้ทั้ง พรินเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร และเครื่องพิมพ์ภาพได้ ในเครื่องเดียวกัน

ล่าสุดเอปสันเตรียมเปิดตัว พรินเตอร์ขนาดเล็กเพื่อตลาดโฮมยูส โดยเฉพาะผู้หญิง ในอีก 2 เดือนหน้าหน้า ชื่อ พิกเจอร์เมส 100 คาดว่าจะทำตลาดในราคาประมาณ 8,000 บาท ด้วยจุดเด่นรูปทรงกะทัดรัด

ภาวะเศรษฐกิจกระทบตลาดไอที

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ General Manager Corporate Business Division เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันโดยเฉพาะการขึ้นของราคาน้ำมัน ส่งผลกระทบกับการทำตลาดรวมสินค้าไอทีบางในบางส่วน จากสัดส่วนตลาดรวมในครึ่งปีแรกจะประมาณ 40% และอีก 60% จะเป็นของตลาดในครึ่งปีหลัง มาในปีนี้คาดว่าตลาดรวมในครึ่งปีแรกจะอยู่ที่สัดส่วน 45% และอีก 55 % เป็นของตลาดในครึ่งปีหลัง ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยตลาดหลักที่จะยังคงอยู่คือ ตลาดการศึกษาและภาคราชการ โดยในส่วนของเอปสัน ทำให้ต้องมีการปรับเป้าหมายการตลาดใหม่

เอปสันปรับเป้าหมายการตลาดพรินเตอร์ลดลงจากเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 3.800 เครื่อง ลดลง 500 เครื่อง เหลือ 3,300 เครื่องขณะเดียวกันก็ปรับเป้าการตลาดโปรเจคเตอร์เพิ่มมากขึ้น อันเนื่องจากได้รับกระแสการตอบรับมากขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถทำตลาดได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้จากเดิม 3,000 ตัว.เป็น 4,000 ตัวในสิ้นปี

นอกจากนี้ เอปสันยังปรับแผนการตลาดสินค้าใหม่หมดจากเดิมที่มุ่งทำตลาดในลักษณะแมส เป็นการทำตลาดโฟกัสที่แต่ละกลุ่มสินค้าด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะกับสินค้าแต่ละตัว ไม่เหมือนกันในแต่ละกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็นพรินเตอร์ โปรเจคเตอร์ที่จะใช้กลยุทธ์ในการทำตลาดแตกต่างกันออกไป

ตลาดคอร์ปอเรเตอร์เป็นตลาดที่เอปสันให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะการทำตลาดโปรเจคเตอร์ โดยมีการแต่งตั้งคอร์ปอเรตรีเซลเลอร์ขึ้นประมาณ 10 รายทำตลาดโดยเฉพาะ รวมทั้งเพิ่มสินค้าใหม่ๆเข้ามาทำตลาดอย่าง TM POS พรินเตอร์ขนาดเล็กเพื่อการพิมพ์สลิป ใบเสร็จ มุ่งตลาดกลุ่มธุรกิจค้าปลีก และภัตตราคาร

“ครึ่งปีหลังตลาดคอร์ปอเรต เอปสันจะมุ่งการทำตลาดโปรเจคเตอร์, ดอทเมตริกพรินเตอร์และให้ความสำคัญกับสลิปพรินเตอร์ซึ่งกำลังเป็นแนวโน้มใหม่ของตลาดที่กำลังได้ได้ความนิยมอย่างมาในหลายประเทศ ทำให้ไม่ต้องพิมพ์ใบเสร็จแผนใหญ่อีกต่อไป รวมทั้งบุกตลาดเลเซอร์พรินเตอร์มากยิ่งขึ้น”

เอปสันตั้งเป้ารายได้ที่มาจากส่วนคอร์ปอเรตไว้ที่ 1,200 ล้านบาทในสิ้นปี โดยคาดว่ารายได้หลักจะมาจากโปรเจคเตอร์ และดอทเมตริกพรินเตอร์ โดยในครึ่งปีแรกทำรายได้ในส่วนนี้แล้วประมาณ 600 ล้านบาท โดยจะชูจุดเด่นของการเป็นผู้มีประสบการณ์ในการเป็นผู้นำเทคโนโลยี LCD โดยเป็นผู้ซัปพลายจอ LCG กว่า 70% ของตลาดทั้งหมด

“ครึ่งปีหลังเอปสันจะเปิดตัวเลเซอร์พรินเตอร์ตัวใหม่ที่สร้างสีสันในวงการได้อย่างมาก เพื่อย้ำจุดยื่นของสินค้าที่มุ่งการนำเสนอเทคโนโลยีเป็นจุดเด่น”

นายพลพงษ์ องค์วรวุฒิ Executive Director Thai Consumer Business Division ของเอปสัน กล่าวว่า ตลาดรวมพรินเตอร์ในปีนี้ประมาณ 9.2 แสนตัว เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 8 แสนตัว โดยเอปสันมีส่วนแบ่งในตลาดพรินเตอร์(รวมเลเซอร์, ดอทเมตริก, และอิงคเจท) และมีส่วนแบ่งในตลาดอิงคเจทประมาณ 32-35%