Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 กันยายน 2548
แกรมมี่ฮุบมติชน-โพสต์             
 


   
www resources

โฮมเพจ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
โฮมเพจ มติชน จำกัด (มหาชน)

   
search resources

จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, บมจ.
โพสต์ พับลิชชิง,บมจ
จีเอ็มเอ็ม มีเดีย, บมจ.
ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม
Printing & Publishing
มติชน, บมจ.




อากู๋-แกรมมี่ เขย่าวงการหนังสือพิมพ์ เทคโอเวอร์มติชน กวาดหุ้น 32.23% เตรียมรับซื้อราย่อย อีกไม่เกิน 42.78% ราคาหุ้นละ 11.10 บาท คาดถือหุ้นเกินครึ่งแน่ ในขณะที่กำหุ้นบางกอกโพสต์ไว้แล้ว 23.60% ใช้เงินกู้ 2,000 ล้านจากไทยพาณิชย์ กองบก.มติชน หวั่น ทิศทางข่าวไม่เหมือนเดิม ขณะที่ คนข่าวโพสต์ปักใจเชื่อ มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง ด้านค่ายเนชั่น กลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้นใหญเฉียด 25% ส่งตัวแทนนั่งบอร์ดแล้ว

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ GMMM รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ ถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า ที่ประชุม อนุมัติการลงทุนของบริษัทฯ ในธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ ในระหว่างวันที่ 12-13 ก.ย.โดยจะเข้าซื้อหุ้นสามัญ บริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) จากผู้ถือหุ้นเดิมชาวต่างประเทศบางรายจำนวนทั้งสิ้น 65,961,100 หุ้น คิดเป็นประมาณ 32.18% ของทุนที่ชำระแล้ว 205 ล้านบาท ของบริษัท ซึ่งเมื่อรวมกับจำนวนหุ้นสามัญของมติชน ที่บริษัทฯ ได้มาก่อนหน้านี้จำนวน116,000 หุ้น เป็นผลให้บริษัทฯ ถือหุ้นสามัญของ MATI เป็นจำนวนทั้งสิ้น 66,077,100 หุ้น คิดเป็นประมาณ 32.23% ของทุนที่ชำระแล้ว

นอกจากนี้จะเข้าซื้อหุ้นสามัญ บริษัทโพสต์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) จากผู้ถือหุ้นเดิมบางรายจำนวนทั้งสิ้น 116,277,830 หุ้น คิดเป็นประมาณ 23.26% ของทุนที่ชำระแล้วของบริษัท ซึ่งเมื่อรวมกับจำนวนหุ้นสามัญของโพสต์ที่บริษัทฯ ได้มาก่อนหน้านี้จำนวน 1,722,170 หุ้น เป็นผลให้บริษัทฯ ถือหุ้นสามัญของ โพสต์ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 118,000,000 หุ้น คิดเป็นประมาณ 23.60% ของทุนที่ชำระแล้ว 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภายหลังจากการซื้อหุ้นมติชน จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จะต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดของบริษัทดังกล่าวจากประชาชนเป็นการทั่วไป (Tender Offer) โดย จะร่วมกับนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรมในการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือของ มติชน ไม่เกิน 87,693,400 หุ้น หรือคิดเป็นประมาณไม่เกิน 42.78% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทดังกล่าว ในราคาหุ้นละ 11.10 บาท หรือ คิดเป็นราคาซื้อโดยประมาณทั้งสิ้นไม่เกิน 973.40 ล้านบาทและในกรณีที่มีผู้เสนอขายเป็นจำนวนเกินกว่า 87,693,400 หุ้น นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม จะซื้อหุ้นสามัญจำนวนที่เกินกว่าดังกล่าวนั้น ในราคาหุ้นละ 11.10 บาท

ดังนั้น มูลค่าการลงทุนใน MATI และ POST ของบริษัทฯรวมผลที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทำ Tender Offer รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,678.90 ล้านบาท

นางฐิติมา กล่าวอีกว่า บริษัทอนุมัติการขอวงเงินกู้ระยะสั้น (Bridging Loan) กับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 2,200ล้านบาท เพื่อใช้ในการรองรับแผนการลงทุนเพิ่มในธุรกิจสื่อ และสิ่งพิมพ์

หุ้นมติชน -โพสต์ขึ้น ต่อเนื่อง

วานนี้(12 ก.ย.)ราคาหุ้นหมวดการพิมพ์และสิ่งพิมพ์ปรับตัวขึ้นเกือบยกแผง ทำให้ดัชนีกลุ่มปิดที่ 592.91 จุด เพิ่มขึ้น 15.12 จุด (2.62%) เมื่อมีกระแสข่าวนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เจ้าของอาณาจักรธุรกิจบันเทิง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้เข้าซื้อหุ้นสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่เมืองไทยถึง 2 ฉบับพร้อมกัน คือ บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) หรือเจ้าของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และโพสต์ทูเดย์ และบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ, มติชน และข่าวสด

ทั้งนี้เนื่องจากปรากฎรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (BIG LOT) หุ้น POST และ POST-F รวม 20 รายการจำนวน 74,907,740 ล้านหุ้น หรือ 617,962,637.50 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 8.25 บาท และหุ้น MATI-F จำนวน 1 รายการ จำนวน 19,656,300 ล้านหุ้น หรือ 218,184,930 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 11.10 บาท

ส่งผลให้ราคาหุ้น MATI วานนี้พุ่งขึ้นปิดที่ 10.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.15 บาท หรือ 11.79% มูลค่าการซื้อขาย 3.17 ล้านบาท, ขณะที่หุ้น POST ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและปิดที่ 7.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 2.86% มูลค่าการซื้อขาย 72,00 บาท, ทั้งนี้เมื่อพิจารณาราคาหุ้นนับจากต้นเดือนที่ผ่านมาพบว่า ราคาหุ้น MATI ปรับเพิ่มขึ้น 26.01% ขณะที่หุ้น POST เพิ่มขึ้น 18.03%

ซื้อหุ้นโพสต์จาก" จิราธิวัฒน์ - ลูกสาวหมอชัยยุทธ"

แหล่งข่าวจากวงการสื่อสิ่งพิมพ์ เปิดเผยว่า หลังปรากฎรายการบิ๊กล็อตเข้าซื้อหุ้น POST และ MATI ดังกล่าวจึงได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกัน โดยในส่วนของ โพสต์พับลิ่งชิ่ง กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมมี 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่ม เซาท์ไชนน่า มอร์นิ่งโพสต์ และกลุ่มจิราธิวัฒน์ ซึ่งถือหุ้นรวมกัน ทั้งสิ้น 40% ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า สมาชิกตระกูลจิราธิวัฒน์ มีมติให้ขายหุ้นทิ้ง เพราะเกรงผลกระทบต่อธุรกิจ โดยเฉพาะการต่อสัญญาเช่าพื้นที่ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย แต่นายสุทธิเกียรติ ยืนยันว่าไม่ขาย

นอกจากนี้ยังมีหุ้นในส่วนที่นายอดิศร จรณะจิตต์ ซึ่งเสียชีวิตจากเครื่องบินตก และครอบครัว ที่ได้ตัดสินใจขายประมาณ 10% เมื่อรวมกับหุ้นในส่วนของกลุ่มจิราธิวัฒน์ส่วนหนึ่งแล้ว ก็ประเมินว่ากลุ่มนายไพบูลย์ คาดว่าจะเข้ามาถือหุ้นทั้งหมดไม่เกิน 30%

ส่วนด้านมติชน นั้นกลุ่มนายขรรค์ชัย บุนปาน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ประมาณ 30% ส่วนที่เหลือเป็นกองทุนและนักลงทุนต่างประเทศ

กองบก.มติชนป่วน

แหล่งข่าวจากกองบรรณาธิการมติชน กล่าวว่า กองบก.หวั่นไหวกับข่าวการเข้ามาซื้อหุ้นของแกรมมี่เป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์ถึงทิศทางข่าวหลังจากนี้ ว่ามีโอกาสสูงที่จะไม่เหมือนเดิม ซึ่งที่ผ่านมามีสัญญาณบางอย่างบ่งบอกคือ ข่าวที่ส่งผลเสียต่อรัฐบาล จะถูกนำเสนอเป็นข่าวเล็กซ่อนไว้ข้างใน หากแกรมมี่ ขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งคาดว่าสัดส่วนของนายไพบูลย์และพันธมิตรจะมีสูงถึง 51% ขณะที่ส่วนของนายขรรค์ บุนปานและครอบครัวรวมกันจะมีแค่ไม่เกิน 30 % การเปลี่ยนแปลงนโยบายข่าวจะต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คนโพสต์เชื่อการเมืองชักใยอากู๋

บรรยากาศที่กองบก.บางกอกโพสต์และโพสต์ทูเดย์วานนี้ พนักงานมีการจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว ขณะที่ผู้บริหารและหัวหน้าข่าวได้กำชับพนักงานและนักข่าวไม่ให้ตื่นตระหนกกับเรื่องดังกล่าวมากเกินไป

พนักงานบริษัทบางกอกโพสต์รายหนึ่งเปิดเผยว่า นายไพบูลย์ น่าจะเป็นตัวแทนนักการเมืองใหญ่ที่ต้องการซื้อสื่อ เพื่อจะได้แทรกแซงการทำงาน เชื่อว่าการเข้ามาฮุบกิจการครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงมิติทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องการเมืองของรัฐบาลที่เข้ามาแอบแฝง โดยใช้นายไพบูลย์เป็นตัวแทน (นอมินี) จึงต้องการเรียกร้องให้สมาคมนักข่าวฯออกมาเรียกร้องหรือแถลงจุดยืนในวิชาชีพ เพราะการเข้ามาฮุบกิจการครั้งนี้ส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนทั้งค่ายบางกอกโพสต์ มติชนและสื่อมวลชนทุกค่าย

"แกรมมี่ซึ่งประกอบธุรกิจบันเทิง ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ในขณะที่อาชีพนักข่าวเป็นวิชาชีพเฉพาะ ต้องมีจรรยาบรรณและจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม จึงเกรงว่าจะมีความขัดแย้งในอาชีพและในที่สุดผู้ถือหุ้นใหญ่อาจบิดเบือนหน้าที่สื่อมวลชนที่ดี"

ด้านนายภัทระ คำพิทักษ์ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพ สมาคมนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับทั้งโพสต์ และ มติชน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ฝ่ายกองบก.หรือ สาธารณชนเองก็อาจจะหวั่นไหวได้แต่เป็นเรื่องปกติของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นที่ใครก็ได้ที่จะเข้ามาซื้อ คนทำสื่อต้องเข้าใจและยอมรับ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่านายทุนคนไหนจะเข้ามาคนทำสื่อก็ต้องตระหนักถึงผลประโยชน์ของสาธารณ ไม่ใช่มุ่งผลประโยชน์ส่วนตัว แกรมมี่ที่มาจากธุรกิจบันเทิงกก็ต้องมีหลักการเช่นกัน

"ตามมาตรา40 ของรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า การทำหน้าที่ของสื่อจะต้องไม่ถูกแทรกแซงจากฝ่ายบริหาร ขณะนี้สมาคมฯเองกำลังให้ฝ่ายกฎหมายศึกษาเพื่อให้คนทำสื่อมีอิสระอย่างเต็มที่ ซึ่งจะจัดสัมมนากันในเรื่องนี้เร็วๆนี้"

"จึงรุ่งเรืองกิจ"ส่งกรรมการนั่งเนชั่น

ด้านบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ NMG เจ้าของหนังสือพิมพ์เครือ เนชั่น และกรุงเทพธุรกิจ ซึ่งมีกลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจ และจุฬางกูร ตระกูลของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าไปถือหุ้นล่าสุดเกือบ 25% (ณ 4 เม.ย.)

นายธนะชัย สันติชัยกูล รองประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ NMG เปิดเผยว่า จากการที่มีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งถือหุ้นอันดับ 1 ที่ 14.74% น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ถืออันดับ 15 ที่ 1.58 % นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้นอันดับ 16 ที่ 1.54% นายทวีฉัตร จุฬางกูร ถือหุ้นอันดับที่ 6 ที่ 3.69 % และอันดับที่ 8 ถือ 3.07 % ถือว่าเป็นนักลงทุนคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจของบริษัท

แต่อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก็ได้มีการก็ได้ส่งคน 1 คนเข้ามาเป็นกรรมการของบริษัทฯ

"อย่ามองว่านามสกุล จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ามาถือหุ้นแล้วพูดว่า เป็นกลุ่มนักการเมืองเข้ามาถือไม่ได้ เพราะตัวนายสุริยะไม่ได้เข้ามาถือหุ้นของบริษัท และนางสมพร เองก็มีการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทต่างๆ หลายบริษัท ก็ถือว่าเป็นนักลงทุนธรรมดาคนหนึ่ง"

ส่วนกรณีกลุ่มแกรมมี่เข้าถือหุ้นในบริษัทเจ้าของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และมติชน นั้นโดยส่วนตัวมองว่าหากผู้นำธุรกิจบันเทิงจะไม่ทำให้ภาพรวมของธุรกิจเปลี่ยนไป เช่น ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการขายหุ้น บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด ให้กับ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) GRAMMY ซึ่งก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนโครงสร้างแต่อย่างไร

"การที่ GRAMMY เข้าไปถือหุ้น POST และ MATI นั้น กองบรรณาธิการมีความเข้มแข็ง ซึ่งหากจะปรับโครงสร้างอะไรนั้นก็ไม่ง่าย"

อย่างไรก็ตาม ซึ่งหากเข้ามาเป็นพันธมิตรกันก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะเข้ามาเสริมกัน และทำให้ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์มีการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งประโยชน์ที่ได้ก็จะตกเป็นของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้รับการติดต่อจาก GRAMMY เรื่องจะเข้าซื้อในกระดานก็คงทำไม่ได้ ง่ายเพราะจำนวนหุ้นในกระดานมีไม่เยอะ"

หุ้นสื่อฯเข้าง่ายออกยาก

สำหรับธรรมชาติของหุ้นในกลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์จัดว่าเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องน้อยมากหรือแทบไม่มีเลยก็ว่า ทั้งนี้หากพิจารณาการลงทุนในระยะ 1 ปี (YTD)สิ้นสุด 9 ก.ย. หุ้น NMG ให้ผลตอบแทนจากราคาติดลบ 6.35% ขณะที่หุ้น MATI ติดลบ 86.07% ยกเว้นหุ้น POST ที่ให้ผลตอบแทน 34.62%

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์ถือว่าเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องน้อย แต่เป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง การเข้าซื้อขายในจำนวนที่สูงจึงไม่สามารถซื้อในกระดานปกติได้จึงต้องซื้อบิ๊กล็อต ซึ่งหากพิจารณาการซื้อในหุ้นกลุ่มดังกล่าวน่าจะเป็นการขยายงานที่ต่อเนื่องจากกลุ่มทุนใหม่ที่เข้ามาซื้อ

ทั้งนี้ ธุรกิจในกลุ่มดังกล่าวรายได้ส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าโฆษณา โดยมีการประเมินว่าในปีนี้อัตราการขยายตัวของเม็ดเงินโฆษณาจะไม่สูงมาก ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งคงต้องพิจารณาถึงความคุ้มถึงและเหตุผลในการลงทุนในระยะยาวว่าจะมีทิศทางอย่างไร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us