|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ซัปพลายเออร์ ชี้ 3 ปัจจัยหลักของความพร้อมที่โอเปอเรเตอร์ไทยควรพัฒนาสู่ 3G โดยมีเหตุผลหลักอยู่ที่การสร้างลูกเล่นใหม่สร้างแวลูให้แก่ลูกค้าได้มากกว่าแอปพลิเคชั่นเดิมๆ ในปัจจุบัน มองความเหมาะสมของการลงทุนในช่วงแรกที่เมืองไทยมีความพร้อมด้านการใช้งานก่อนขยายให้ครอบคลุมทั้งประเทศ โดยมีต้นแบบอย่างประเทศในยุโรปและใกล้บ้านอย่าง สิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเลเซีย เป็นแบบอย่างการพัฒนาด้านการตลาด
นายธีรพงษ์ สิทธิกุลธร Solution Spacialist Customer Solution Division บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบัน ขณะที่ซัปพลายเออร์มีความพร้อมอย่างมากในการเตรียมระบบเพื่อให้โอเปอเรเตอร์พัฒนาสู่เครือข่ายใหม่ 3G ซึ่งรวมถึงอีริคสันด้วยที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาสู่ 3G มากว่า 10 ปีโดยความถี่ที่เหมาะกับ 3G เป็นได้หลายความถี่ แต่ถูกนำมาใช้แล้วเช่น 850 หรือแม้แต่ 1,700 เมกะเฮิรตซ์ จึงเหลือความถี่ที่เหมาะสมอยู่ที่ความถี่ 2 กิ๊ก ซึ่งปัจจุบันบริษัทไทยโมบายใช้ความถี่นี้อยู่แล้ว 1 ราย จึงเป็นไปได้ว่าจะมีโอเปอเรเตอร์ใหม่ 3G ได้อีก 3 รายรวมเป็น 4 รายทั้งหมด เพราะความถี่ 2 กิ๊ก เป็นช่วง กว้าง 60 เม็กะเฮิรตซ์ สามารถแบ่งการให้บริการได้ 4 ราย ทั้งนี้ คาดว่าประมาณปลายปีนี้ กทช. จะอนุมัติไลเซนส์คลื่นความถี่ 3G ให้โอเปอเรเตอร์ได้
"ที่ผ่านมา 3G แพร่หลายแล้วอย่างมากในยุโรป ส่วนหนึ่งของการส่งเสริมให้เกิดการแพร่หลายคือ ค่าไลเซนส์ที่ไม่สูงนักผู้ประมูลได้ก็ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก ส่งผลให้คิดค่าแอร์ไทม์ไม่แพงตามไปด้วย โดยโอเปอเรเตอร์แต่ละรายก็จะมีวิธีการในการเปิดตัวต่างกันออกไป อย่างสวีเดน มุ่ง 3G เป็นบริการเสริม ขณะที่การใช้งานหลักยังคงเป็นวอยซ์ หรือเสียงอยู่"
ในการลงทุนกับเครือข่ายใหม่ 3G ใน ช่วงแรกหากจะให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ควรเริ่มจากการลงทุนตามเมืองใหญ่ เมืองสำคัญ ก่อนขยายออกรอบนอก อย่างยุโรป เปิดให้บริการ 3G โดยมีเป้าหมายว่า ภายใน 3 ปี จะให้การบริการครอบคลุม 95% ของพื้นที่ ซึ่งก็แล้วแต่กติกาของแต่ละประเทศ
ในส่วนกลุ่มเป้าหมายของ 3G จะมุ่งไปที่กลุ่มลูกค้าที่มองหาบริการใหม่ที่ครอบคลุมการใช้งานได้พร้อมกันคือทั้งโทรศัพท์มือถือ เล่นอินเทอร์เน็ตและดูทีวีได้ด้วย หรือที่เรียกว่าโมบายล์ทริปเปิลเพลย์ (Mobile Triple Play) ที่ใช้บริการได้บนโทรศัพท์มือถือ โดยแอปพลิ-เคชันการใช้งานในเครือข่าย 3G สามารถพัฒนาได้อีกมากแล้วแต่โอเปอเรเตอร์แต่ละรายจะพัฒนาขึ้น
นายธีรพงษ์กล่าวว่า มองในแง่ความพร้อม ของการพัฒนาสู่ 3G ของโอเปอเรเตอร์ของไทยแล้ว จะมีเหตุผลซัปพอร์ตได้ 3 ด้าน คือ
1.3G จะเป็นเครือข่ายที่ทำให้โอเปอเรเตอร์สามารถสร้างสรรค์แอปพลิเคชันใหม่ๆ ให้บริการ รูปแบบใหม่ๆ กับลูกค้าได้อีกมาก ทำการตลาดกับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น อันเนื่องจากเครือข่ายเดิมในปัจจุบัน 2G นับวันจะมีรูปแบบการบริการใหม่ๆ ออกมาได้น้อยลง 2. ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น มีการพัฒนาสู่ 3Gกันแล้ว ขณะที่ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมสู่ 3G และเหตุผลที่สำคัญประการที่ 3 ที่โอเปอเรเตอร์ไทย ควรเร่งพัฒนาสู่ 3G คือ การเปิดเสรีที่ส่งผลให้ต่างชาติเข้ามาแข่งในประเทศที่มาพร้อมกับเงินลงทุนก็จะมาทุ่มตลาดเพื่อแย่งลูกค้าทั้งหมดไป
ทุกวันนี้เรียกได้ว่าตลาดแทบไม่มีอะไรเล่นกันแล้ว กลยุทธ์เรื่องราคาหมดไป ขณะที่แอปพลิเคชันเดิมๆ อย่างโลโก้ ริงโทนก็พัฒนาต่อไม่ได้ โอเปอเรเตอร์จึงควรมองหาแอปพลิ-เคชันใหม่ๆ ที่จะได้จาก 3G ทั้งการลงทุนในปัจจุบันมีความเหมาะสมกว่าอดีตที่ผ่านมามาก เมื่อเทียบกับราคาและความ Stable ของเทคโนโลยี
ในส่วนของอีริคสันมองว่าในบรรดา ซัปพลายเออร์ระบบ 3G ที่มีอยู่หลายรายในปัจจุบัน อีริคสันไม่ได้มุ่งที่การแข่งขันเรื่อง ราคา แต่เน้นที่คุณภาพการใช้งาน และการมีประสบการณ์ในหลายประเทศในยุโรปเป็นจุดแข่งขันมากกว่ารายอื่นที่เน้นที่ราคาถูก ซึ่งหากโอเปอเรเตอร์ที่มุ่งคุณภาพการให้บริการก็ควรจะให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ โดยคาดว่าเมื่อมีการเปิดบริการบนเครือข่าย 3G โอเปอเตอร์ก็จะมีลูกเล่นใหม่ๆ แปลกๆ ออกมาให้เห็นกันอีกมาก
|
|
|
|
|