เอเอ็มดีประกาศทำตลาดเชิงรุก ด้วยการดึง "จักรกฤช" ที่มีประสบการณ์ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย นั่งตำแหน่งผู้บริหาร สูงสุดในไทย พร้อม "กิตติณัทธิ์" ดูแลฝ่ายขาย ช่องทางจำหน่าย และมีแผนจะเพิ่มทีมงานอีก 5 คน เร่งสร้างแบรนด์ ขยายช่องทางการขายและการตลาด ผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ขณะเดียวกัน ก็จะโฟกัสตลาดภาครัฐ ภาคการศึกษามากขึ้น

นายไบรอัน โลว์ รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียใต้ บริษัท เอเอ็มดี ฟาร์ อีสต์ กล่าวว่า เอเอ็มดีได้มีการแต่งตั้งนายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ เป็นผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย และถือเป็นตำแหน่งสูงสุดของ เอเอ็มดี (ประเทศไทย) เนื่องจากมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดคอนซูเมอร์เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ทีมงานได้ โดยจะประสานงานกับทีมฝ่ายขายภายในประเทศ

ก่อนหน้านี้ นายจักรกฤชเคยดูแลด้านการขายและการตลาดในกลุ่มเอสวีโอเอ, ดาต้า แมท, ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์, เอแอนด์แอล คอมพิวเตอร์ และโฟร์ ซิสเต็มส์ ซึ่งประสบการณ์ ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับแวดวงไอที นอกจากนี้ ยังเป็นสมาชิกสมาคมผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยด้วย

การที่เอเอ็มดีดึงจักรกฤชร่วมงาน เพราะเชื่อว่าสายสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าและผู้บริโภค เพราะค่อนข้างจะคว่ำหวอดด้านช่องทางการขาย สำหรับความรับผิดชอบในไทยจักรกฤชจะมีหน้าที่ดูแลงานด้านการขาย และการตลาดในไทย และขึ้นตรงกับไบรอัน โลว์

"ผมเป็นคนชวนคุณจักรกฤชมาร่วมงาน เพราะเราต้องการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น จึงต้อง หาคนในท้องถิ่นที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการขาย และการตลาดมาร่วมงาน ซึ่งน่าจะเข้าใจตลาดได้ดีกว่า จึงจะสามารถทำการแข่งขันได้ และตำแหน่งของคุณจักรกฤช ไม่เคยมีในเอเอ็มดี (ประเทศไทย) มาก่อน ซึ่งตำแหน่งนี้ถือเป็นตำแหน่งสูงสุดแล้ว เพราะแต่ละที่จะเรียกตำแหน่งไม่เหมือนกัน"

นอกจากจักรกฤชแล้ว เอเอ็มดียังได้มีการแต่งตั้งนายกิตติณัทธ์ วริทธ์สุวรรณ เป็น ผู้บริหารฝ่ายขาย และช่องทางการจัดจำหน่าย และมีแผนจะเสริมทีมงานในเอเอ็มดี (ประเทศไทย) อีก 5 คน

พร้อมกันนี้ เอเอ็มดียังจะมีการเสริมความแข็งแกร่งเกี่ยวกับคู่ค้ามากขึ้น โดยผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ และโฟกัสตลาดภาครัฐ ภาคการศึกษา และที่จะผลักดันอย่างมากคือ การเสนอให้รัฐทำสเปกการซื้อชิปให้มีความเท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น

แม้การทำตลาดของเอเอ็มดีในช่วงที่ผ่านมา เครื่องสเปกเดียวกัน ถ้าใช้ชิปของเอเอ็มดีแล้ว ราคาจะต่ำกว่าคู่แข่ง ก็ไม่ใช่เป้าหมายหลักในการทำตลาด เพราะสิ่งที่เอเอ็มดีได้วางตำแหน่งหรือโพซิชันตัวเองเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และสร้างกลไกการแข่งขันแบบเสรี "ขอย้ำว่าราคาไม่ใช่เป้าประสงค์หลักของเรา"

ด้านนายจักรกฤชกล่าวว่า การร่วมงานกับเอเอ็มดี ที่เดิมเคยขายเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วมาขายชิป มีส่วนเหมือน และแตกต่างกัน แต่สิ่งที่ได้เปรียบในการขายชิปคือ รู้จักร้านค้า ช่องทางขาย เพราะเคยทำในเรื่องการตลาดและดิสทริบิวชันมาก่อน ส่วนที่เหมือนกันคือการเป็นผู้ค้าที่ต้องขายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายเช่นกัน แต่เมื่อนำประสบการณ์ผสมผสานเข้ากับจุดแข็งในเรื่องของเทคโนโลยีของเอเอ็มดีแล้ว เชื่อว่าจะไปได้ดี

ปัจจุบัน เอเอ็มดีมีดิสทริบิวเตอร์หลัก 3 รายคือ ดี คอมพิวเตอร์, คอม เซเว่น และ เออีที เทคโนโลยี

ตามวิสัยทัศน์ของจักรกฤชมองว่า ตรงไหนที่เป็นจุดแข็งของเอเอ็มดี จะมีการพัฒนาให้มากขึ้น ส่วนไหนที่ยังเข้าไม่ถึงจะโฟกัสมากขึ้น เช่น ตลาดราชการ คอมเมอร์เชียล หรือพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงตลาดต่างจังหวัด ด้วย

"เอเอ็มดีโฟกัสทุกเซกเมนต์ และต้องการสร้างช่องทางขายไปสู่ทุกตลาด"

นายจักรกฤชกล่าวว่า จากนี้ไปเอเอ็มดี จะมีการจัดสร้างช่องทางการขายมากขึ้นมีกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโคโปรแกรมกับพาร์ตเนอร์ ดีลเลอร์ โปรแกรม รวมถึงกิจกรรมที่ทำร่วมกับสื่อที่จะช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ เป็นต้น

"ที่ผ่านมากลุ่มผู้ใช้เอเอ็มดีมี แต่ไม่ได้ข้อมูลข่าวสาร หรือภาพของเอเอ็มดีมากนัก จากนี้ไปเราจะเห็นกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น ทั้งคอร์ปอเรต และแบรนดิ้ง"

สำหรับผลการดำเนินงานในไทยของเอเอ็มดีช่วงที่ผ่านมาจากการศึกษาตลาดของการ์ทเนอร์ระบุว่า ไตรมาส 2 ปีนี้ เอเอ็มดีในไทยมียอดขายที่เป็นไวท์บอกซ์ประมาณ 40% ส่วนไตรมาส 3 อยู่ระหว่างการสรุปตัวเลข แต่ที่ผ่านมาเอเอ็มดีสามารถทำยอดขายโตอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 8 ไตรมาส