IRCP หวังยอดขายหัวเหว่ยปีแรก 400 ล้านบาทหรือ 10% จากตลาดรวมสินค้าเน็ตเวิร์ก ชูจุดเด่นของดีราคาถูก มุ่งลูกค้าหลักหน่วยงานรัฐ จากนโยบายโน้ตบุ๊ก 100 เหรียญ คอมพิวเตอร์ 2.5 แสนเครื่อง e-Logistics ที่จะกระตุ้นให้มูลค่าตลาดรวมเติบโตขึ้น 15%

นายจำรัส สว่างสมุทร ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอที ดิสทริบิวชั่น หนึ่งในกลุ่มธุรกิจของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น หรือ IRCP กล่าวว่า ได้เซ็นสัญญาเป็นดิสทริบิวเตอร์หลักของบริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี โดยสินค้าที่จะนำเข้ามาจำหน่ายช่วงแรกจะเป็นสินค้าด้านเน็ตเวิร์กประเภท LAN Switch ทั้ง Managed และ Unmanaged Switch, HighEnd Switch,HighEnd Router, LowEnd Router,Wireless Router, Broadband Router,SOHO Products, Voice Gateway ซึ่งเป็นสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถแข่งขันได้

"เราคาดว่าภายในปีแรก จะทำตลาด สินค้าด้านเน็ตเวิร์กของหัวเหว่ยได้ประมาณ 10% ของมูลค่าตลาดรวม 4,000 ล้านบาท โดย70% จะมาจากกลุ่มลูกค้าราชการ และที่เหลืออีก 30% จะมาจากเอ็นเตอร์ไพร์ซ SOHO และโฮมยูส"

การมองกลุ่มลูกค้าภาครัฐเป็นหลักเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลกระตุ้นให้เกิดความต้องการใช้สินค้าด้านเน็ตเวิร์กมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นโครงการโน้ตบุ๊ก 100 เหรียญ ซึ่งจะใช้ในโรงเรียนเพื่อการศึกษา หากต้องมีการดาวน์โหลดเพื่อใช้ประโยชน์จากการเป็น e-Book ก็จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในลักษณะ Wi-Fi รวมทั้งโครงการคอมพิวเตอร์ 2.5 แสนเครื่อง โครงการ e-Logistics ที่จะช่วยลดเวลาการส่งออกให้สั้นที่สุด จากการเปลี่ยนแปลงกระบวนการเอกสารที่เป็นกระดาษมาเป็นอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงโครงการเกี่ยวกับ e-Government ทั้งหลาย

นอกจากนี้ เทคโนโลยีเชื่อมต่อแบบไร้สายก็มีราคาถูกลงอย่างการที่อุปกรณ์ Access Point มีราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาท ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต มาใช้งานในลักษณะไร้สายภายในที่ทำงานหรือที่บ้าน ก็มีการเติบโตสูงขึ้น รวมทั้งความมั่นใจของผู้ใช้งานด้านความปลอดภัยที่มากขึ้นด้วย จะเป็นตัวกระตุ้นให้สินค้าด้านเครือข่ายขายดีขึ้น

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักก็จะเป็นหน่วยราชการที่ต้องการปรับปรุงระบบเครือข่ายใหม่ สถาบันการเงิน สถาน ศึกษา ซึ่งโครงการใหญ่ของรัฐคงต้องรองบประมาณปี 2549Ž

นายจำรัสกล่าวว่าแนวทางทำตลาดสินค้าหัวเหว่ยจะขายผ่านดีลเลอร์ 1,500 รายที่มีอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งจุดแข็งด้านวิศวกรทีมงานที่มีเป้าหมายฝึกอบรมให้ได้รับ หัวเหว่ย เซอร์ติฟายด์ เพื่อให้เข้าใจเทคโนโลยีหัวเหว่ยให้ลึกซึ้งเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ นอกจากนั้น ยังใช้วิธีนำสินค้าของหัวเหว่ย ไปทดสอบกับระบบลูกค้าที่ใช้งานอยู่เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานเช่นเดียวกับสินค้าที่รู้จักกันดีอย่างซิสโก้ อัลคาเทล หรือนอร์เทล รวมทั้งยังใช้วิธีเชิญผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานให้เดินทางไปเยี่ยมชมบริษัท หัวเหว่ย ที่เซินเจิ้นประเทศจีน ให้เห็นกับตาถึงการพัฒนาเทคโนโลยี และโปรดักต์ โรดแมปต่างๆ

เรายังเห็นว่าการใช้โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตหรือ VoIP จะเข้ามาแทนที่ระบบตู้สาขาแบบอะนาลอกในปัจจุบัน ซึ่งบริการเหล่านี้ต้องการสินค้าด้านเน็ตเวิร์ก ทำให้ตลาดยังมีการเติบโตต่อไป โดยคาดว่าปีหน้าจะเติบโตประมาณ 15% จากการผลักดันของโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ