เอสเอ็มซีส่งฮอตสปอต เกตเวย์ลงตลาด เสริมไลน์กลุ่มไวร์เลส รองรับการสื่อสารไร้สายโต ชูความยืดหยุ่นเป็นจุดขาย หวังเสริมเขี้ยวเล็บให้ธุรกิจรายย่อยประเภทร้านกาแฟ ร้านไอศกรีม เน้นทำเลชุมชนคนทำงานเป็นหลัก ตั้งเป้ายอดขาย 200 ชุดต่อเดือน และรายได้รวมสิ้นปีนี้โตอีก 25%

นายคมเพชร ไม้จัตุรัส ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอส เอ็ม ซี เน็ตเวิร์ค ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายด้านโลคัล แอร์เรีย เน็ตเวิร์ก (LAN) กล่าวว่า เอสเอ็มซีได้นำฮอตสปอต เกตเวย์ ซึ่งเป็นผลิตใหม่ออกสู่ตลาด เพื่อเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไวร์เลส เพราะเชื่อว่าสินค้าสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ หรือผู้ให้บริการในกลุ่มผู้ใช้อุปกรณ์ไร้สายหรือไวร์เลสได้เนื่องจากปัจจุบันตลาดไวร์เลสมีอัตราการโตสูงถึง 100% เมื่อเทียบกับ ปีที่ผ่านมา

การใช้ชีวิตของคนยุคนี้เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ทุกคนสามารถพูดคุย สื่อสารกันได้ง่ายขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านมือถือ แต่การใช้ชีวิตของคนในเรื่องของการสื่อสารต้องการมากกว่าการพูดคุยด้วยเสียงธรรมดา เพราะต้องการทำงานต่างๆ ได้ด้วย เช่น ดูอีเมล การ ใช้ MSN หรือหาข้อมูลจากเว็บไซต์ ทำให้ผู้ใช้อุปกรณ์สื่อสารต้องมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก หรือพีดีเอออกทำงานของออฟฟิศ

เอสเอ็มซีเชื่อว่าหากทำให้อุปกรณ์สื่อสารไร้สายพวกนี้สามารถเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตได้ จะทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานต่างๆ ได้เหมือนนั่งทำงาน ในออฟฟิศ และขณะนี้เทคโนโลยีประเภทอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงไว-ไฟ ฮอตสปอต สามารถตอบสนองความต้องการตรงนี้ได้แต่บริการยังไม่ครอบคลุมและเพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้ เนื่องจากผู้ใช้คาดหวังว่าจะสามารถใช้บริการฮอตสปอตตาม ที่ต่างๆ ที่ตัวเองต้องการใช้งาน และค่าบริการส่วนใหญ่ราคายังค่อนข้างแพง

นายคมเพชรกล่าวว่า การให้บริการฮอตสปอตมีมานานแล้ว แต่จำนวนผู้ใช้มีจำนวนค่อนข้างจำกัด การติดตั้งซับซ้อน และจะต้องมีบุคลากรที่มีความชำนาญในการดูแลระบบการจัดการในเรื่องของจำนวนชั่วโมงที่จะให้บริการ แต่ถ้าจะซื้อระบบที่มีการจัดการที่ดีเพื่อมาจัดการเรื่องนี้ต้องลงทุนสูงทำให้ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) รายใหญ่เปิดให้บริการฮอตสปอต โดยเป็นผู้วางระบบเอง ซึ่งร้านค้าต่างๆ อาจจะเลือกไปร่วมกับผู้ให้บริการที่วางระบบไว้ได้ เพราะอาจทำให้ลดต้นทุนลง แต่ข้อเสียก็คือการขาดความยืดหยุ่นในการให้บริการ เช่น การจะทำโปรโมชันร่วมกับสินค้า หรือบริการของตัวเอง อาจทำได้ไม่สะดวก รวมถึงรายได้จากการให้บริการต้องแบ่งกับพาร์ตเนอร์ด้วย

"สินค้าเรามีความยืดหยุ่นสูง เพราะสามารถกำหนดเวลาการใช้ได้ว่ากี่ชั่วโมง หรือกี่นาที นอกจากนี้ ยังไม่ต้องเสียเวลาในการเซ็ตค่าของอุปกรณ์ต่างๆ ใหม่ เพียงผู้ใช้เข้าไปที่ยูสเซอร์เนม และพาสเวิร์ดเท่านั้น"

สำหรับเอสเอ็มซี ฮอตสปอต เกตเวย์นี้ผู้ใช้มีเพียงเอดีเอสแอลสายเดียว ซึ่งเป็นไอเอสพีรายไหนก็ได้ก็สามารถใช้งานได้ และกำหนดราคาค่าบริการได้เอง เขายกตัวอย่างให้เห็นว่า สมมุติว่าใช้บริการของกลุ่มทรู ซึ่งคิดค่าบริการรายเดือน 500 บาท ซึ่งเป็นฟิกซ์คอสต์ ผู้ให้บริการที่ติดตั้งฮอตสปอต เกตเวย์ก็สามารถกำหนดราคาได้เองว่าเป็นชั่วโมงละเท่าไหร่ หรือใชได้ 10 นาทีราคาเท่าไหร่ สามารถกดเช็กค่าบริการได้ เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องเก็บเงินได้

โซลูชันดังกล่าวเอสเอ็มซีตั้งราคาไว้ประมาณ 3 หมื่นบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ประเภทร้านกาแฟ หรือร้านไอศกรีมในพื้นที่ชุมชนคนทำงาน เช่น ย่านสีลม เอสซีบี พาร์ค เป็นต้น

"สินค้าที่เรานำออกสู่ตลาดครั้งนี้ เหมาะที่จะเป็นอุปกรณ์เสริมให้แก่ ธุรกิจหลัก ที่จะดึงลูกค้าเข้าไปใช้บริการ และสร้างรายได้เพิ่ม อย่างเราเหมา ค่าบริการมา 500 บาทต่อเดือน หากมีคนใช้มากไม่กี่วันก็คืนทุนแล้ว"

ด้านการตลาดเกี่ยวกับฮอตสปอต เกตเวย์ เอสเอ็มซียังจะขายผ่านคู่ค้าคือดี คอมพิวเตอร์ เพราะมั่นใจว่ามีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศอยู่แล้ว ส่วนกิจกรรมจะเน้นไปที่กลุ่มย่อยมากขึ้น จากเดิมที่จัดเป็นลักษณะของกิจกรรมใหญ่ใน 1 ปี เพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย มากขึ้นทั้งในส่วนที่ทำร่วมกับดีลเลอร์หรือยูสเซอร์ สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงแรก เอสเอ็มอีจะติดตั้งระบบให้ฟรี และให้ลูกค้าทดลองใช้ฟรี 3 เดือน โดยตั้งเป้าไว้ว่าระยะแรกจะมีลูกค้าประมาณ 10 ร้าน จากนั้นคาดว่าจะสามารถขายได้ 200 ชุดต่อเดือน

ส่วนผลการดำเนินงานของเอสเอ็มซีในรอบปีนี้ มีอัตราการโตช่วงครึ่งปีแรก 30% และทั้งปีคาดว่าจะโตประมาณ 20-25% เพราะช่วงครึ่งปีหลังผู้บริการโภคอาจมีการชะลอการซื้อ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่แพงขึ้น

ปัจจุบันสินค้าเอสเอ็มซีที่ทำตลาดในไทยจะครอบคลุมในกลุ่ม SME/SoHo ประมาณ 60% และที่เหลือ เอ็นเตอร์ไพรซ์ ทั้งนี้ จากการสำรวจของไอดีซีระบุว่าเอสเอ็มซีมียอดขายประเภทอุปกรณ์เครือข่ายคิดเป็นยูนิตอยู่ ที่ 21% เป็นอันดับ 2 รองจากซิสโก้