อภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)
นับเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักบริหารการตลาดฝีมือดีคนหนึ่งของประเทศไทย
ปัจจุบันอภิรักษ์ มีอายุ 41 ปี จบการศึกษาทางด้านฟูด ไซน์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
และศึกษาต่อทางด้านเอ็มบีเอ ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า
และทางด้าน General Managementจาก ฮาร์วาด บิสซิเนส สคูล เริ่มชีวิตการทำงานเมื่อปี
2526 ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท พิซซ่าฮัท (ไทย) จำกัด จนถึงปี 2527
จากนั้น ไปรับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบริหารงานลูกค้า ที่บริษัท ลินตาส เวิลด์ไวด์
จำกัด จนถึงปี 2530 ก็ย้ายค่ายมาทำงานให้แก่บริษัท ดามาสก์ แอด-เวอร์ไทซิ่ง
จำกัด ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานลูกค้า จนถึงปี 2532 จากชีวิตของชาวเอเยนซี
อภิรักษ์ ผัน ตัวเองเข้าสู่ธุรกิจคอนซูเมอร์ ในปี 2532 โดย เป็น ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
ประจำประเทศไทย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ประจำประเทศไทย และตำแหน่งสุดท้าย
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในปี
2537 อภิรักษ์ ได้รับมอบหมายให้ไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟริโต-เลย์
ประเทศไทย จำกัด และยังเป็นกรรมการ ของบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง
จำกัด จนถึงปี 2543
การบริหารงานที่โดดเด่นของอภิรักษ์ จนทำให้ฟริโต-เลย์ กลายเป็นบริษัทสแน็กข้ามชาติที่เข้ามาผงาดอยู่ในตลาดเมืองไทยได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว
พร้อมกันชื่อของเลย์ มันฝรั่งทอดกรอบที่เป็นสินค้ายอดนิยมและครองตลาดในระดับแนวหน้าได้เป็นผลสำเร็จ
ในขณะที่บริหารงานอยู่ที่ฟริโต-เลย์ อภิรักษ์ได้มีโอกาสร่วมงานกับแกรมมี่
ในฐานะที่เป็นลูกค้า ที่เข้ามาใช้ศิลปินในเครือแกรมมี่ จนได้มีโอกาสรู้จักกับไพบูลย์
ดำรงชัยธรรม และได้เข้ามาร่วมงานในจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในฐานะประธานกรรมการบริหาร
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2543 จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2545
ในระหว่างที่อภิรักษ์ทำงานที่แกรมมี่ ทางค่ายทีเอ ออเร้นจ์ โทรศัพท์มือถือน้องใหม่ของกลุ่มซีพี
ก็เข้ามาเป็นลูกค้าของแกรมมี่ จนกระทั่งศุภชัย เจียรวนนท์ เห็นควรที่จะหามือดีเข้ามาช่วยบริหารงานของออเร้นจ์
ในขณะที่อาณาจักรของทีเอง กำลังเติบโตมากขึ้นทุกที และอภิรักษ์ ก็คือคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะเข้ามาบริหารงานให้แก่ศุภชัย
โดยอภิรักษ์ จะเข้าไปรับตำแหน่งใหม่ คือ กรรมการผู้จัดการ ร่วม บริษัท ทีเอ
ออเร้นจ์ จำกัด ในวันที่ 1 พฤศจิกยน 2545 นี้
ทางด้านบุษบา ดาวเรือง เป็นคนที่ทำงานกับไพบูลย์ มานานถึง 30 ปี เริ่มจากงานเอเยนซี
ที่ฟาร์อีสต์ แอดเวอร์ไทซิ่ง ของเครือสหพัฒน์ ก่อนออกมาอยู่ที่พีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง
และมาร่วมกันตั้งบริษัท แมส คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เพื่อทำธุรกิจหนังสือ
และ รับงานโฆษณา โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 39
บุษบา เริ่มงานทางด้านสื่อทางทีวีเป็น ครั้งแรก คือ รายการยิ้มใส่ไข ที่ดำเนินรายการร่วมกับภิญโญ
รู้ธรรม ซึ่งปัจจุบันภิญโญ ก็บริหารงานอยู่ในแกรมมี่ด้วยเช่นกัน จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ไพบูลย์เริ่มสนใจธุรกิจเพลง
และตัดสินใจตั้งบริษัท แกรมมี่ เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ จำกัด และเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
จนเป็นบริษัทมหาชน และล่าสุดเปลี่ยนชื่อมาเป็น จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
บุษบา นับเป็นผู้หนึ่งที่ทำงานร่วมกับ ไพบูลย์มาอย่างใกล้ชิด และในระยะหลังๆจะถูกนั่งให้เป็นผู้บริหาร
ดูแลงานแทบจะทุกอย่าง ร่วมกับผู้บริหารรุ่นอาวุโส ที่ร่วมงานกับมาตั้งแต่แรก
เช่น กิตติศักดิ์ ช่วงอรุณ ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกมองว่า มีความเหมาะสมที่จะขึ้นมานั่งเก้าอี้ซีอีโอ
เช่นกัน
แต่ไม่ว่าบุษบา หรือใครจะขึ้นมานั่งเป็น ซีอีโอก็ตาม แกรมมี่ในสายตาของคนภายนอก
ก็จะถูกมองว่า มีค่าเท่ากัน เพราะอำนาจการตัดสินใจขั้นสุดท้ายก็ยังเป็นของไพบูลย์
ดำรงชัยธรรมอยู่ดี