|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ILINK เดินหน้าเจรจากับพันธมิตรอย่าง SIS-IRCP หวังดึงมือร่วมประมูลงานในแถบอินโดจีนก่อนก้าวขึ้นแท่นอันดับ 1 ของย่านนี้ภายใน 3 ปี คาดปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ส่วนปี 49 ทะลุ 1 พันล้านบาท เชื่อธุรกิจวางระบบและโซลูชันโพรวายเดอร์ยังเติบโต ขณะที่ราคาหุ้นบวกรับ 16 สตางค์
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิว-นิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ILINK) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการ รุกทำธุรกิจในต่างประเทศ หลังจากที่บริษัทเป็นอันดับหนึ่งในด้านการให้บริการธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณในประเทศแล้วบริษัทตั้งเป้าที่จะเข้าไปรุกทำธุรกิจในต่างประเทศ โดยเน้นประเทศแถบอินโดจีนเป็นหลัก
"ขณะนี้เราได้มีการเข้าเจรจากับ บริษัทเอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น จำกัด(มหาชน)(SIS)และบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)(IRCP) ในการเข้าร่วม ทุนเพื่อเข้าประมูลงานในต่างประเทศ โดยจะนำจุดเด่นของแต่ละบริษัทมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แต่ในขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน" นายสมบัติกล่าว
นอกจากนี้ยังมี AIT และ MFEC ไม่เว้นแม้แต่ IBM ที่เป็นลูกค้าของ ILINK ในอนาคตก็อาจหารือว่าจะะร่วม กันทำธุรกิจอะไรได้บ้าง เพราะบริษัท เหล่านี้ต่างอยู่ในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกัน โดยเชื่อว่าจากศักยภาพของแต่ละ บริษัทจะหนุนให้การทำธุรกิจร่วมกันเป็นไปได้ด้วยดีตามความมุ่งมั่นที่ต้อง การเป็นที่หนึ่งของเอเชียด้วย เพราะใน แต่ละประเทศยังมีแนวโน้มการเติบโต สำหรับธุรกิจประเภทนี้ด้วย ซึ่ง ILINK ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในด้านการให้ บริการธุรกิจนี้ของอินโดจีนภายใน 3 ปี
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ILINK ต้องการรุกเข้าไปที่เวียดนามและลาวก่อน เพราะความต้องการและการเติบโตของธุรกิจ เพราะขณะนี้ในประเทศดังกล่าวนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นหลัก ซึ่งการจับมือกันของผู้ประกอบการธุรกิจสายเดียวกันจะทำให้เกิดการเกื้อหนุนต่อการดำเนินงานมากขึ้น
นายสมบัติกล่าวต่อว่า สำหรับปีนี้ผลการดำเนินงานของ ILINK ที่คาดว่ายอดขายจะเติบโต 710 ล้าน บาทนั้นน่าจะเป็นไปตามที่ตั้งไว้ เพราะปกติการเติบโตของบริษัทตั้งเป้า ไว้ที่ระดับ 20% สำหรับไตรมาส 3 นี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จากงานคงค้าง 50 ล้านบาท และรายได้จากงานวางระบบไฟเบอร์ออปติกของการบินไทย 14 ล้านบาท งานวางระบบไฟเบอร์ออปติก และสายโทรศัพท์ ระบบ IP PHONE ขององค์การโทรศัพท์ 98 ล้านบาท และงานต่อเติมอาคารเทอร์มินอลและคองคอร์ด 60 ล้านบาท และยังมีงาน TURN KEY ระบบ IT ครบวงจร 3 งานมูลค่า 46 ล้านบาทซึ่งจะทยอยเข้ามาในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้
นอกจากนี้ ILINK ยังมีงานที่ต้องรอเข้าประมูลอีก คืองานวางระบบสายสัญญาณของการไฟฟ้า 20 ล้านบาท งานวางระบบสายสัญญาณ ของคิงส์พาวเวอร์ 30 ล้านบาท และงานโครงการ TURN KEY ระบบ AMR ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 202 ล้านบาท โครงการซื้อคุรุภัณฑ์ IP PHONE ของสำนักงานอาชีวศึกษา 15 ล้านบาท และโครงการเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 70 ล้านบาท
นายสมบัติกล่าวอีกว่า ส่วนหนึ่ง ของรายได้ที่ดีขึ้น เป็นผลจากการรับรู้ จากสาขาที่บริษัทเปิด โดยขณะนี้เปิด เป็นทางการแล้วคือเชียงใหม่ และคาด ว่าจะเปิดอีกต้นปี 49 ที่หาดใหญ่ พร้อม กับเล็งเปิดสาขาที่ระยอง ขอนแก่น และภูเก็ตเพิ่มอีก ซึ่งเป้าหมายการเปิด สาขาปีหน้าที่ 2-3 สาขา โดยธุรกิจจัด จำหน่ายสายคอมพิวเตอร์และสื่อสาร ถือว่าจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้บริษัทได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นรายได้ หลัก
นอกจากนี้ ILINK ยังเล็งที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือสายสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 2 พันล้านบาท รวมทั้งธุรกิจวางระบบสาย สัญญาณคอมพิวเตอร์และสื่อสาร ที่คาดว่าจะสามารถประมูลงานได้อีกมาก และจะมีอัตราการเติบโตจากธุรกิจโซลูชัน โพรวายเดอร์อีกด้วย ส่งผลให้บริษัทคาดว่าปี 49 ยอดขายของบริษัทน่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท
"แต่การทำงานในยุคนี้เราต้องเหนื่อยมากขึ้น เพราะดอกเบี้ยขึ้น ราคา น้ำมันทะยาน อีกทั้งคู่แข่ง แต่เราเชื่อว่าเราจะเติบโตที่ระดับ 20% เพราะยังมีงานอีกหลายงานที่เราจะประมูลและเรารอผลอีกงานหนึ่งที่จะทราบแน่นอน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้มูลค่า โครงการมากกว่า 100 ล้านบาท รายละเอียดจะบอกได้สัปดาห์หน้า" นายสมบัติกล่าว
นายสมบัติกล่าวว่า ในการดำเนินงาน ILINK ไม่ได้ต้องการโตแบบให้รายได้ก้าวกระโดดมากๆ แต่กำไรน้อย เพราะบริษัทต้องการเห็นรายได้เติบโตในทิศทางต่อเนื่อง ส่วนกำไรก็ต้องโตและเป็นไปในทิศทางที่กำหนดไว้ ขณะที่การรักษาอัตราส่วนของกำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ก็ต้องไม่น้อยกว่า 20% ซึ่งปีนี้ปันผลคงเป็นไป ตามที่กำหนดไว้คือ บริษัทให้ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่งหากผลงานเติบโตต่อเนื่องกำไรก็น่าจะเป็น ไปในทิศทางเดียวกัน และปันผลก็ไม่น่าจะผิดหวัง
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของ ILINK ที่ประกาศออก มาพบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 11.85 ล้าน บาท ลดลงเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11.94 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นลดลงจาก 20 สตางค์เหลือ15 สตางค์ต่อหุ้น ขณะที่งวด 6 เดือนกำไรสุทธิ 24.15 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 21.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14%
สำหรับราคาหุ้น ILINK วานนี้ เปิดตลาดที่ 3.82 บาท ไม่มีการเคลื่อนไหวในช่วงเช้า แต่ช่วงบ่ายราคาปรับเพิ่มขึ้นไปที่ 3.90 บาท และปิดที่ราคา ดังกล่าวด้วยมูลค่าซื้อขายเพียง 50,000 บาทเท่านั้น
|
|
|
|
|