Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2545








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2545
A Brief History of Economic Genius             
 





อัจฉริยะทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ในรอบหลายร้อยปี

ในระยะหลายร้อยปีที่ผ่านมานี้ มีทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์หลายต่อหลายทฤษฎีที่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ได้ส่งอิทธิพลทำให้เราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อการค้าและตลาด ความคิดในเชิงเศรษฐกิจของอัจฉริยะเหล่านี้ ได้กลายเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตของผู้คน ตลอดจนวิถีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

ผู้แต่งซึ่งเป็นทั้งนักเขียนนิยาย นักเขียนชีวประวัติ และนักประวัติศาสตร์ ได้เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น โดยรวบรวมประวัติย่อของบรรดาอัจฉริยะทางเศรษฐศาสตร์ และทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่พวกเขาคิดค้นขึ้นตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นหนังสือที่รวบรวมทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ และข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่สมบูรณ์ที่สุดเล่มหนึ่ง ที่ได้บรรจุเต็มไปด้วยความคิดทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุด ทั้งหมดเท่าที่ได้เคยมีการคิดขึ้นมาในโลก

เมื่อครั้งที่ John von Neumann ได้รู้จักทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เป็นครั้งแรกนั้น เขาได้จัดการแยกส่วนทฤษฎี ซึ่งเป็นพื้นฐานของวิธีคิดทางเศรษฐศาสตร์เหล่านั้นออกเป็นส่วนๆ ด้วยการทำเช่นนี้ทำให้เขาสามารถคิดค้นทฤษฎี "game theory" ขึ้นมา ทฤษฎีคณิตศาสตร์ "minimax" ของ von Neumann กล่าวว่า "ผู้แข่งขันควรวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวก้าวต่อไปของตนในทุกๆ ความเป็นไปได้ เพื่อคำนวณว่า ความเคลื่อนไหวใดที่อาจเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถสร้างความสูญเสียให้แก่เราได้มากที่สุด" ด้วยแนวทางการคิดแบบนี้ กลยุทธ์ที่ดีที่สุดก็คือ คุณจะต้องเลือกการเคลื่อนไหวที่ "จะก่อความสูญเสียสูงสุดที่น้อยที่สุด" (minimum maximum possible loss) ด้วยกลยุทธ์นี้ หากคุณต้องแพ้ก็ไม่เจ็บปวดมากนัก

ในปี 1943 เมื่อทฤษฎี game theory ของ von Neumann ได้มารวมเข้ากับความคิดของ Oskar Morgenstern ก็ได้ก่อกำเนิดหนังสือหนา 600 หน้าชื่อ Theory of Games and Economic Behavior ขึ้น

หนังสือหนาหนักเล่มนี้ ได้ขยายขอบเขตการประยุกต์ใช้ทฤษฎี game theory ออกไปอย่างกว้างขวาง จากการลดการสูญเสียของธุรกิจให้มากที่สุด ไปสู่พฤติกรรมทางเศรษฐกิจของบริษัทที่แข่งขันในตลาดเปิด รวมไปถึงทางเลือกของผู้บริโภค

ทฤษฎีของอัจฉริยะทั้ง 2 คนนี้ ได้อธิบายองค์ประกอบสำคัญของ zero-sum games (สถานการณ์ที่มีผู้ชนะกับผู้แพ้) และ non-zero-sum games (สถานการณ์ที่ชนะทั้ง 2 ฝ่ายหรือแพ้ทั้ง 2 ฝ่าย)

Dr. Strangelove ตัวจริง

นอกจาก von Neumann ซึ่งผู้แต่งระบุว่า คือต้นแบบของตัวเอกในหนังของผู้กำกับ Stanley Kubrick เรื่อง Dr. Strangelove แล้ว ก็ยังมีอัจฉริยะทางเศรษฐศาสตร์อีกมากมายที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้ Luca Pacioli เป็นพระที่นำวิธีการลงบัญชีระบบบัญชีคู่มาใช้ จนได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรปในช่วงปลายทศวรรษ 1400

เขาน่าจะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ให้แก่ Leonardo da Vinci ด้วย ผู้เชี่ยวชาญหลายคนลงความเห็นว่า การที่ Pacioli ทำให้เทคนิคการลงบัญชีระบบบัญชีคู่ได้รับความนิยมไปทั่วยุโรปช่วงยุค Renaissance นั้น อาจถือได้ว่า เป็นต้นกำเนิดของระบบทุนนิยม

ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลกคงจะไม่สมบูรณ์หากขาด John Graunt ผู้แนะนำให้โลกได้รู้จักความสำคัญของสถิติ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นบิดาของวิชาการสถิติ อันเป็น "ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นรากฐานของทฤษฎีเศรษฐศาสตร์" เพื่อนของ Graunt คือ Sir William Petty ก็เป็นอัจฉริยะของความคิดเชิงเศรษฐกิจอีกคนหนึ่งในหนังสือเล่มนี้ เขาเป็นคนแรกที่คิดว่า เงินคือวิธีการใช้อำนาจและวิธีส่งเสริมศีลธรรม

บุรุษผู้ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์โลก

John Law เป็นอัจฉริยะของทฤษฎีเศรษฐกิจคนแรก ที่ได้ควบคุมความเป็นไปของประเทศทั้งประเทศ เมื่อเขาได้ครอบครองฝรั่งเศสในช่วงต้นทศวรรษ 1700 เขาอาจเป็นบุรุษผู้ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เพราะเป็นเจ้าของธนาคารกลางฝรั่งเศส ซึ่งครอบครองอาณาเขตทั้งหมดของ French Louisiana (ซึ่งมีพื้นที่เกือบ 1 ใน 3 ของอาณาเขตของประเทศสหรัฐฯ ในปัจจุบัน)

เขายังเป็นคนแรกที่เสนอความคิดให้รัฐบาลออก credit note "โดยอิงกับความสามารถในการระดมเงินในอนาคตของรัฐบาล เช่น รายได้จากการจัดเก็บภาษี" ซึ่งได้กลายเป็นแนวคิดในการออกธนบัตรหรือเงินกระดาษที่เราใช้กันอยู่จนถึงทุกวันนี้

อัจฉริยะในยุคหลังๆ ที่เราค่อนข้างรู้จักกันดีก็ถูกรวบรวมประวัติและความคิดไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วยเช่นกัน เช่น Karl Marx ผู้นำทฤษฎีเศรษฐกิจมาใช้กับสังคมในวงกว้าง John Maynard Keynes นักคิดทางเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ ผู้ที่ในปี 1919 ได้รับยกย่องเป็น "เทพพยากรณ์ทางเศรษฐศาสตร์" และ John Nash เจ้าของรางวัลโนเบลเศรษฐศาสตร์

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us