สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว เตรียมเสนอปัญหาทัวร์ เอาต์บาวนด์ โดนหลอกปล่อยทิ้งไม่มีที่พักในต่างแดน ส่งภาพลักษณ์ บริษัททัวร์เสื่อมเสีย ประเดิมนำเข้าที่ประชุมนัดแรกของ สสทท. ที่จะมีขึ้นกลางเดือนนี้ ระบุเป็นบริษัททัวร์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคม ใช้วิธีตัดราคาขายแพกเกจ ลูกค้าหลงกล ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปสัมมนา ชี้ต้องการหารือถึงวิธีการสื่อให้ผู้บริโภครับทราบวิธีเลือกบริษัททัวร์

นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ TTAA เป็นสมาคมหนึ่งที่เข้าร่วมเป็น สมาชิกในสหพันธ์สมาคมการท่องเที่ยว (สสทท.) หรือ Setta ที่ได้จดทะเบียนก่อตั้งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ดังนั้น ในการประชุมนัดแรกได้เตรียมที่จะนำปัญหาการร้องเรียนของ ผู้บริโภคในกลุ่มทัวร์เอาต์บาวนด์ หรือทัวร์ที่นำคนไทยเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศแล้วถูกบริษัททัวร์เหล่านั้นทิ้ง หรือไม่มีโรงแรมที่จะให้เข้าพัก โดยระยะหลังพบว่ามีการร้องเรียนเข้ามาบ่อยขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปอินเซนทีฟ หรือประชุมสัมมนา ส่วนเส้นทางที่พบบ่อยคือเดินทางไปประเทศแถบยุโรป

ทั้งนี้ TTAA ต้องการหารือกับ สสทท. คือระดมความคิดเกี่ยวกับ วิธีดำเนินการแก้ไข โดยสิ่งที่ TTAA คิดไว้คือ ต้องการนำเสนอข้อมูล ข่าวสารไปยังผู้บริโภค ให้ความรู้เรื่องการเลือกใช้บริการบริษัทนำเที่ยว ใน 3 หัวข้อหลักๆ คือ 1. ควรเลือกบริษัทนำเที่ยวที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ออกให้โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 2. ควรเลือกบริษัทนำเที่ยวที่เป็นสมาชิกของ TTAA และ 3. ต้องเป็นบริษัท ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และมีทุนจดทะเบียนแจ้งไว้ชัดเจน

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาร้องเรียนเรื่องการทิ้งลูกทัวร์นั้น เป็นเพราะลูกค้าไม่ทราบว่าบริษัทที่เข้ามารับงานมีพื้นฐานข้อมูลของ บริษัทเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่จะมาในนามของโบรกเกอร์นำเสนอแพกเกจ ทัวร์แบบตัดราคาขายถูกจึงทำให้ลูกค้าหลงเชื่อ และตัดสินใจใช้บริการ แต่เมื่อเดินทางจริงกลับไม่ได้รับบริการตามสัญญาที่ให้ไว้ บางรายถึงกับไม่มีที่พักให้ ซึ่งจะคล้ายกับทัวร์ศูนย์เหรียญในบ้านเรา โดยบริษัททัวร์เหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ เมื่อถูกร้องเรียนก็หาบริษัทไม่ได้เพราะจะปิดบริษัทหนี ตรงนี้ทำให้เสียหายถึงผู้ที่ทำธุรกิจนี้อย่างสุจริต ส่วนผู้บริโภคเองก็เสียความรู้สึกกับการ ใช้บริการบริษัทนำเที่ยว

อย่างไรก็ตาม การประชุมคณะกรรมการของ สสทท. นัดแรก น่าจะเริ่มได้ประมาณกลางเดือนนี้ ซึ่งนอกจากการนำเสนอปัญหา ดังกล่าวข้างต้นแล้ว สิ่งที่คณะกรรมการฯจะหยิบยกมาหารือในที่ประชุมเป็นเรื่องเร่งด่วนคือ การเตรียมรับมือกับภาวะน้ำมันแพงที่จะกระทบต่อทั้งนักท่องเที่ยวอินบาวนด์ และเอาต์บาวนด์อย่างแน่นอน

นายเอนก กล่าวด้วยว่า ปัญหาภัยธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก เช่น พายุเฮอร์ริเคน "แคทรีน่า", การเกิดน้ำท่วม ดินถล่มที่บางมณฑลในประเทศจีน หรือการเกิดแผ่นดินไหว ที่ประเทศญี่ปุ่น ยอมรับว่า มีผลกับการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวบ้าง แต่ไม่มาก เพราะ เมืองที่เกิดเหตุ ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว แต่เหตุก่อการร้าย เช่น ระเบิดสถานีรถไฟใต้ดินที่ลอนดอน ตรงนี้มีผลกับการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวมากกว่า แต่ยังมั่นใจว่า ตลอดทั้งปีตัวเลขคนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศยังคงเติบโตราว 10% ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้