|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ปรับขึ้นภาษีสุรากลั่น เผยมีผลบังคับใช้ทันที 6 ก.ย.ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (สวส.) ชี้ชัด"เหล้านอกเกรดพรีเมียม" รับอานิสงส์เต็มๆ ขณะที่เหล้าพันธุ์ไทยอย่างแม่โขง แสงโสม อ่วมอรทัย สับเละเป็นมติที่ไร้ประโยชน์ เพราะไม่ช่วยลดอัตราการบริโภคสุราของคนไทย ข้องใจทำไมไม่ขึ้นภาษีเหล้าขาว ด้านผู้ประกอบการแย้มเตรียมขึ้นราคา
วานนี้ (6 ก.ย.) นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอมาตรการปรับปรุงภาษีสุรา เพื่อลดการบริโภคสุราในประเทศนั้น ครม.มีมติให้เก็บภาษีเฉพาะสุรากลั่น ชนิดสุราปรุงพิเศษกับชนิดสุราพิเศษประเภทบรั่นดี และวิสกี้ ซึ่งส่งผลทำให้สุราที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงมีราคาสูงขึ้นตาม เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมามีการจัดเก็บตามราคาทำให้ ประชาชนมีการเปลี่ยนแนวการบริโภค สุราไปตามแนวราคาที่ต่ำ คุณภาพต่ำ แต่แอลกอฮอล์สูง ส่วนสุราแช่ ยังคงมาตรการภาษีเดิม
สำหรับสุราที่จะต้องปรับตามอัตราภาษีใหม่ประกอบด้วย
1.สุรากลั่น ชนิดปรุงพิเศษ ที่เดิมเก็บภาษีร้อยละ 50 ตามมูลค่าและเก็บภาษีตามปริมาณ 240 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ให้มีการแก้ไขโดยเพิ่มอัตราภาษีตามปริมาณเป็น 400 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
2. สุราพิเศษประเภทบรั่นดี จากเดิมจัดเก็บในอัตราร้อยละ 35 หรือ 240 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ให้เพิ่มเป็นจัดเก็บในอัตราร้อยละ 40 พร้อมทั้งเพิ่มเป็น 400 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
3. วิสกี้ จากเดิมจัดเก็บร้อยละ 50 หรือ 240 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ บริสุทธิ์ให้มีการแก้ไขเพิ่มในส่วนของอัตราภาษีตามปริมาณเป็น 400 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ และสุราประเภทอื่นจากอัตราภาษีร้อยละ 50 หรือ 240 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ เป็นร้อยละ 50 หรืออัตราภาษีตามปริมาณ 400 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ โดยการจัดเก็บภาษีนั้นให้เลือกแบบหนึ่งแบบใดที่ทำให้อัตราภาษีได้ในอัตราที่สูงขึ้น ทั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน นี้เป็นต้นไป
ด้านนายอุทิศ ธรรมวาทิน อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีสุรากลั่นในครั้งนี้ จะทำให้สุรากลั่นหลายยี่ห้อที่อยู่ในตลาดระดับล่างถึงระดับกลางได้รับผลกระทบ เช่น สเปรย์ รอยัล ที่ผ่านมาเสียภาษีขวดละ 67 บาท ฮันเดรด ไพเพอร์ส เสียภาษีขวดละ 88 บาท มาสเตอร์เบลนด์ เสียภาษีขวดละ 59 บาท แม่โขงเสียภาษีขวดละ 63 บาท และแสงโสม เสียภาษีขวดละ 67 บาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมสรรพสามิตยังไม่ได้คำนวณรายได้การจัดเก็บภาษีว่า หากขึ้นภาษีดังกล่าวแล้ว กรมจะมีรายได้เพิ่มเป็นจำนวนเท่าไร
ส่วนสุราขาวและสุราผสม ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มสุรากลั่นนั้นจะไม่มีการปรับขึ้นภาษี เนื่องจากสุราเหล่านี้เป็นสุราที่รัฐบาลให้การสนับสนุน โดยในปัจจุบันมีกลุ่มชาวบ้านผลิตสุราประเภทนี้อยู่ประมาณ 6,000 - 7,000 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยดังนั้น หากปรับภาษีขึ้น จะทำให้คนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ นายอุทิศยังกล่าวว่า ในขณะนี้กรมกำลังศึกษาโครงสร้างภาษีสุราแช่ หรือเบียร์ อยู่แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าการศึกษาดังกล่าวจะต้องมีการปรับเพิ่มหรือลดภาษีใดๆ หรือไม่ แต่ในระยะยาว นั้นทางกรมจะมีการศึกษาโครงสร้างภาษีสุราทั้งหมด
ขณะที่ น.พ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (สวส.) กล่าวว่า มาตรการการปรับปรุงภาษีสุราที่ครม.พิจารณานั้น โดยสรุปจะทำให้สุรานำเข้าเกรด พรีเมียม เช่น แบลคเลเบิล ชีวาส รีเจนซี่ สวิง เรมี่มาร์แตง และบัลเลนไทส์ จะเสียภาษี เท่าเดิม ขณะที่สุราสีของไทย ไม่ว่าจะเป็น แม่โขง แสงโสม และสุรานำเข้าเกรด economy เช่น สเปรย์รอยัล โกลเด้นไนท์ มาสเตอร์เบลนด์ และ ฮันเดรดไพเพอร์ส จะมีราคาแพงขึ้น ที่สำคัญคือ การขึ้นภาษีครั้งนี้ไม่แตะเหล้าขาว
ดังนั้น การขึ้นราคาในครั้งนี้จึงไม่มีผลทำ ให้คนไทยหันไปบริโภคสุราที่มีคุณภาพดี และมีแอลกอฮอล์ต่ำยิ่งจะทำให้คนหันไปบริโภคเหล้าขาว มากขึ้น เพราะยังมีราคาต่ำเมื่อเทียบกับเหล้าที่ไม่ได้ขึ้นภาษี เนื่องจากไม่ได้มีการขึ้นภาษีเหล้าขาวที่มีการ อ้างข้อมูลว่ามีการเก็บภาษีเต็มเพดานแล้ว ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลจริง
ทุกวันนี้เก็บภาษีเหล้าขาวเพียงแค่ 70 บาท จาก 400 บาท ซึ่งถูกมาก ควรเก็บในอัตรา 240 บาทด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ทำ การเก็บภาษีสุราทุกวันนี้ปกป้องตลาดเหล้าขาวมาก ซึ่งเหล้าขาวนี้เป็นเหล้าที่คนไทยบริโภคมากเป็นอันดับหนึ่ง มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 43% การที่ยังปล่อยให้เหล้าขาวมีราคาถูก และเก็บภาษีเหล้าสีสูงขึ้น จะทำให้คนไทยหันไปบริโภคเหล้าขาวมากขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันระบบเก็บภาษีสุราปกป้อง เหล้าขาวมาก ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมต้องปกป้อง ทั้งที่เหล้าขาวเป็นอันตรายต่อสุขภาพคนไทยมาก น.พ. บัณฑิตกล่าว
ส่วนแหล่งข่าวจากวงการสุรากล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลได้ปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตและใช้สูตรการคิดภาษีสุราใหม่ว่า คาดว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการ ทั้งหลายเตรียมที่จะปรับราคาจำหน่ายสุราขึ้นแน่นอน เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น แต่ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่า จะปรับราคาเมื่อใด
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในเบื้องต้นแล้วพบว่า ตามโครงสร้างภาษีแบบใหม่นี้ เหล้าไทยจะเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะอาจจะต้องเสียภาษีเพิ่ม อีกขวดละประมาณ 45 บาท ในขณะที่เหล้านอกเสียภาษีเพิ่มอีกเพียงขวดละ 17-31 บาทเท่านั้น
จากกรณีนี้ทำให้เหล้าไทยอย่างเช่น แสงโสม จะต้องเสียภาษีในอัตราเดียวกับเหล้านอกอย่าง เช่น สเปรย์ รอยัล หรือฮันเดรด ไพเพอร์ส ประมาณขวดละ 112 บาท ซึ่งอัตราดังกล่าวนี้ เป็นเพียงแค่ภาษีสรรพสามิตเท่านั้น ซึ่งถ้าหากคิดรวมกับภาษีมหาดไทยด้วยแล้ว ที่คิดอีก 10 % รวมกับภาษี สสส. อีก 2% สรุปรวมแล้วเหล้าไทยจะต้องชำระค่าภาษีสูง ถึงขวดละประมาณ 124-125 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของเหล้า ขณะที่ปัจจุบันแสงโสมเสียภาษีเพียงขวดละ 67 บาท ส่วนสเปรย์เสียภาษีขวดละ 95 บาทเท่านั้น
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ตราสิงห์ ให้ความเห็นด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ประกาศโครงสร้างภาษีสุราใหม่แล้ว ซึ่งคาดว่าจากนี้ไปอีกไม่นานคงต้องประกาศภาษีใหม่สำหรับเบียร์แน่นอน ซึ่งทางบริษัทฯเองก็ยินดีปฏิบัติตาม
|
|
|
|
|