เมื่อไม่นานมานี้ HSBC Holdings ธนาคารยักษ์ใหญ่
แห่งอังกฤษ ประกาศต่อสาธารณชนว่าจะเติบใหญ่
ในแถบอเมริกาเหนือ และความจริงปรากฏออกมา
เมื่อตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารอันดับ 4 สัญชาติเม็กซิโก
ธนาคารที่ทรงอิทธิพลแห่งยุโรปตัดสินใจเข้าถือหุ้น 52% ใน Grupo Financiero
Bital SA หรือ GF Bital แห่งเม็กซิโกผ่านการซื้อบนกระดานหุ้นและช่องทาง tender
offer ในราคา 1.20 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น แต่ในอนาคตถ้ามีความต้องการถือหุ้น
100% HSBC ต้องจ่ายเงินสดรวมทั้งสิ้น 1.14 พันล้านเหรียญ สหรัฐ หรือ 1.16
พันล้านยูโร และในขณะเดียวกันยักษ์ใหญ่แห่งเนเธอร์แลนด์ ING Group พยายามเจรจาถือหุ้น
19.2% ใน GF Bital ในราคา 200 ล้านเหรียญยูโร (196 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
โดยหุ้นจำนวน 26.6% มาจาก Santander Central Hispano ผู้ถือหุ้นของ GF
Bital ที่ต้องการขายให้กับ HSBC โดยธนาคารสัญชาติสเปนนิชแห่งนี้จะได้รับเงิน
ทั้งหมดราว 300 ล้านเหรียญสหรัฐ
ความน่าสนใจของดีลนี้อยู่ที่ HSBC ได้สาขาของ GF Bital ถึง 1,400 สาขา
พนักงาน 15,400 คนและลูกค้า 6 ล้านคน ที่ส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำและกลางถือเป็นสิ่งที่
HSBC มองว่าเป็นตัวกระตุ้นให้อัตราการเติบโตรวดเร็วสำหรับการขยายกิจการเข้าสู่ตลาดเม็กซิโก
"ดีลนี้จะทำให้พวกเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเงินที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้า
พนักงานและผู้ถือหุ้นของฝ่ายเรา และนับเป็นสัญญาณที่ดีที่ต่างประเทศไว้วางใจตลาดภายในเม็กซิโก"
Luis Berrondo ประธานกรรมการของ GF Bital บอก
HSBC ซึ่งมีฐานธุรกิจในลอนดอนมีความประสงค์ที่จะขยายตัวเข้าสู่อเมริกาเหนือ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ที่เข้าซื้อ Republic New York Corp. และธนาคารในเครือของ
Safra Republic Holding SA ในราคา 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปี 2000 และเมื่อไม่นานมานี้กำลังพิจารณาซื้อธนาคารสัญชาติอเมริกันประมาณ
12-15 แห่ง
"กลยุทธ์การควบรวมกิจการจะช่วยเพิ่มต่อการเสนอตัวเข้าสู่อเมริกาเหนือ และสามารถทำการค้ากับประเทศนาฟตาโดยไม่ต้องมีอุปสรรคอีกต่อไป"
Keith Whitson หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร HSBC กล่าว
การเข้าไปลงหลักปักฐานของ HSBC ครั้งนี้ถือเป็นความไว้วางใจตลาดเม็กซิโกในอนาคต
นอกเหนือไปจากประเทศละตินอเมริกาอื่นๆ ที่ต่างพากันตกต่ำ อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมา
GF Bital ทำกำไรได้ 400 ล้านเปโซ หรือ 41 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรครึ่งแรกในปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงกว่า
30% ที่สำคัญยังมีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนอีกอย่างน้อย 500 ล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่ง HSBC จะต้องอธิบายถึงความสามารถในการทำกำไรของ ธนาคารแห่งนี้ในอนาคต
"เม็กซิโกเป็นตลาดเกิดใหม่ที่ HSBC พยายามที่จะรุกเข้าไปยืนอยู่ให้ได้"
Mark Thomas นักวิเคราะห์แห่ง Fox-Pitt ชี้
ที่สำคัญ HSBC จะใช้ช่องทางผ่าน GF Bital ในการเพิ่มฐานลูกค้าชาวอเมริกัน
ที่พูดภาษาสเปนและละตินอเมริกา ซึ่งเป็นกลยุทธ์เหมือนกับซิตี้กรุ๊ปที่เมื่อปีที่แล้ว
จ่าย 12.5 พันล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการซื้อ Banamex ธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งเม็กซิโก
หรือ Banco Bilbao Vizcaya Argentaria ซื้อกลุ่มสถาบันการเงิน Grupo Financiero
Bancomer
ปัจจุบัน HSBC เปิดดำเนินธุรกิจใน 81 ประเทศ 7,000 สาขา สิ้นปีที่ผ่านมา
มีรายได้ทั้งสิ้น 12,001 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิ 868 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยมีสินทรัพย์รวม 695.88 ล้านเหรียญสหรัฐ