|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายสนั่น อังอุบลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2549 บริษัทฯมีแผนจะลงทุนผลิตผลิตภัณฑ์เมลามีนในประเทศเวียดนาม มูลค่าเงินลงทุน 20 ล้านบาท รวมทั้งจะขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกในเวียดนามเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเห็นว่าแนวโน้มธุรกิจพลาสติกและเมลามีนในเวียดนามมีการขยายตัวที่ดี และการแข่งขันไม่รุนแรง
รวมทั้งศรีไทยฯจะใช้เวียดนามเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกเข้ามาไทย อาทิ สินค้าพลาสติกในครัวเรือน (Houseware) ซึ่งศรีไทยฯได้เลิกไปผลิตไปแล้ว เพราะการแข่งขันสูง รวมทั้งโครงสร้างอัตราภาษีนำเข้าของเวียดนามต่ำกว่าไทย โดยไม่เก็บภาษีนำเข้าวัตถุดิบพลาสติก ส่วนสินค้าสำเร็จรูปจะเสียภาษีเพียง 5% ขณะที่ไทยจะเก็บภาษีนำเข้าวัตถุดิบพลาสติก 20% และสินค้าสำเร็จรูป 30% ทำให้ต้นทุนสินค้าค่อนข้างสูง อีกทั้งค่าแรงของเวียดนามต่ำกว่าไทย
"ศรีไทยฯมองเวียดนามเป็นโอกาส เป็นฐานการผลิตที่ดีมาก เพราะการแข่งขันไม่สูง รัฐบาลกระจายการลงทุนในแต่ละพื้นที่ ขณะที่โรงงานของบริษัทตั้งอยู่ในนิคมฯห่างจากสนามบินไม่มาก และลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในนิคมฯ ขณะที่ตลาดพลาสติกเองก็มีแนวโน้มดี ดังนั้นในปีหน้าตัดสินใจขยายลงทุนเมลามีน ซึ่งจะสร้างรายได้ให้ศรีไทยฯในอนาคต "
นายสนั่น กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้บริษัท ศรีไทยนาโนพลาส ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของศรีไทยฯ เตรียมผลิตของเล่นกลางสนาม เช่นบ้าน สไลเดอร์พลาสติก (Playground) ในปลายปีนี้ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยจะเน้นจำหน่ายภายในประเทศ หลังจากนั้นจะเริ่มทำตลาดส่งออกไปยังประเทศข้างเคียง โครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนไม่สูงมาก เนื่องจากซื้อแม่พิมพ์มือสองจากต่างประเทศ ทำให้มาร์จินผลิตภัณฑ์ค่อนข้างสูง และคืนทุนได้ภายในเวลา 2ปี
ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของ ศรีไทยนาโนพลาส ในปีนี้มียอดขายประมาณ 58 ล้านบาท กำไรสุทธิ 13 ล้านบาท และในปี 2549 -2551 มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 67 , 74 และ 80 ล้านบาท ตามลำดับ ทำให้ศรีไทยฯรับรู้กำไรจากการถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนความคืบหน้าโครงการผลิตขวดพลาสติกชนิด Hot Filled กับนักลงทุนจีน ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชาเขียวและน้ำผลไม้ในไทย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ หลังจากบริษัทเล็งเห็นว่าตลาดขวดพลาสติกชนิดHot Filled มีการเติบโตสูงตามการขยายตัวของธุรกิจน้ำชาเขียวและน้ำผลไม้ ทำให้โรงงานผลิตขวดPET ในปัจจุบันไม่สามารถรองรับการเติบโตของตลาดได้
โครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถทำรายได้ให้บริษัทปีละ 300 ล้านบาท โดยการลงทุนของศรีไทยฯครั้งนี้ ไม่ใช่เข้าแข่งขันตัดราคา แต่เป็นการเข้าไปเสริมตลาดในส่วนขาดอยู่
ผลการดำเนินงานในปีนี้ ศรีไทยฯคาดว่าจะมีรายได้รวม 4,100 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 5-7 % และปีหน้าคาดว่ารายได้จะเติบโตขึ้นอีก 12% อยู่ที่ 4,600 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตของธุรกิจพลาสติก 15% และผลิตภัณฑ์เมลามีนโต 5%
|
|
|
|
|