Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 กันยายน 2548
ตลาดลูกอมแผ่วเจอสแน็คแย่งแชร์ พึ่ง“ฟิล์ม-รัฐภูมิ”ดึงโจ๋อมฮาร์ทบีท             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เยเนอรัลแคนดี้ จำกัด

   
search resources

Food and Beverage
เยเนอรัล แคนดี้, บจก.
ศศิวิมล สิงหเนตร




ฮาร์ทบีทเผยตลาดรวมลูกอมโตหดตัว เหตุจากคนสวิตช์แบรนด์หันมาทานขนมสแน็คและคนไทยทานลูกอมมีน้ำตาลน้อยลง เผยแคมเปญที่มี “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เป็นพรีเซ็นเตอร์รุ่งส่งผลยอดขายไตรมาส 3โต 10% ล่าสุดเปิดตัวลูกอมใหม่พร้อมไอเดียเก๋แทรกศัพท์อังกฤษที่ห่อ หวังเจาะฐานลูกค้าเด็ก 5-9 ปี คาดสิ้นปีรายได้โต 5%

นางสาวศศิวิมล สิงหเนตร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เยเนอรัลแคนดี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายลูกอม “ฮาร์ทบีท” เปิดเผยว่า ตลาดรวมลูกอมในประเทศมีอัตราการเติบโตที่ลดลง 3% จากมูลค่าตลาดรวม 3,600 ล้านบาท เนื่องจากตลาดลูกอมในไทยมีการสวิตช์แบรนด์มากขึ้น ทั้งจากการที่ผู้บริโภคหันมาทานสแน็คมาก รวมถึงคนไทยมีการบริโภคชูการ์ คอนเฟลกนารี (ลูกอมที่มีน้ำตาล) ในปริมาณต่ำประมาณคนละ 0.5 กิโลกรัมต่อปี ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม 2 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ส่วนสิงคโปร์บริโภค 10-15 กิโลกรัมต่อคนต่อปี

ประกอบกับการที่ตลาดลูกอมแข่งขันข้ามแคธิกอรี่กัน อาทิ กลุ่มลูกอมรีเฟรชเมนท์ที่ตลาดส่วนใหญ่จะมุ่งทำตลาดกันมาก เช่น ลูกอมฮอลล์,คลอเล็ท และมายมินท์ จึงทำให้ตลาดกลุ่มนี้มีอัตราการโต 5% ส่วนลูกอมฮาร์ทบีทอยู่ในกลุ่มฟรุ๊ตฟันแคนดี้มีอัตราการโตลดลง 7% ทั้งนี้ตลาดลูกอมในไทย แบ่งออกเป็นตลาดรีเฟรชเมนต์ 1,500 ล้านบาท , ตลาดฟรุ๊ตฟันแคนดี้ 1,400 ล้านบาท โดยฮาร์ทบีทเป็นผู้นำด้วยแชร์ 40% ,ลูกอมแก้ไอ 450 ล้านบาท และลูกอมกัมมี่ 240 ล้านบาท

นางสาวศศิวิมล กล่าวด้วยว่า ในส่วนของบริษัทฯยอดรายได้ในไตรมาส 3 โตขึ้น 10% สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจที่ราคาน้ำมันแพงและช่วงโลว์ซีซั่นของตลาดลูกอม จากการที่บริษัทฯเปิดตัวแคมเปญ “โครงการพูดได้ ..ให้ง่ายๆกับพี่ฟิล์ม” ซึ่งได้ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ เนื่องจากต้องการให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับผลิตภัณฑ์ฮาร์ทบีทมากขึ้น โดยแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่ 27 พ.ค. - 30 ส.ค. 48 ทั้งนี้บริษัทฯตั้งงบทางการตลาดปีนี้ไว้ประมาณ 25% ของยอดขาย โดยบริษัทฯจะเน้นจัดกิจกรรมทางการตลาดและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

ล่าสุดบริษัทฯ เปิดตัวลูกอมใหม่ “ฮาร์ทบีท เอทูแซด” เพื่อเน้นเจาะกลุ่มเด็กตั้งแต่ 5- 9 ปี โดยจะใช้กลยุทธ์ Clever on Flavor ด้วยการใส่คำศัพท์ภาษาอังกฤษไว้ที่ห่อลูกอม ปัจจุบันลูกอมฮาร์ทบีทมีหลายรายการ เช่น ฮาร์ทบีทจู๊ซซี่ , ฮาร์ทบีทจัมโบ้ ,ไฟติ้งแบรนด์ ลูกอมฮาร์ท แอนด์ ครีม ที่ขายตามเจเนอรัลเทรดทั่วไป

สำหรับยอดรายได้ของบริษัทฯ ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5 % หรือมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 40% ของตลาดฟรุ๊ตฟันแคนดี้ จากการที่คู่แข่งรายย่อยหายไปจากตลาดและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ เช่น เปิดตัวแคมเปญและผลิตภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้บริษัทฯยังมีรายได้จากการส่งลูกอมฮาร์ทบีทไปขายยังต่างประเทศกว่า 42 ประเทศอีกด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us