อย่าเพิ่งแปลกใจว่านึกอย่างไรถึงแปลเรื่องดอกบัวที่เราคุ้นเคยกันมาแต่เล็กแต่น้อย
รับรองว่าไม่ได้เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนแน่
ฝรั่งเขาก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับดอกบัวได้น่าสนใจไม่เบา เขาบอกว่าเป็นพันธุ์ไม้ดอกอายุเก่าแก่ที่สุดและโบร่ำโบราณที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
จากที่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ด้วยการวิวัฒนาการต่อๆ กันมานับล้านปี คือตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ครองโลกนั่นเลยแหละ
ที่ดอกบัวทุกวันนี้มีสายพันธุ์หลากหลายให้ได้ชื่นชมและเลือกใช้ประโยชน์นั้น
ต้องยกคุณงามความดีให้กับ Joseph Bory Latour-Marliac นักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส
ผู้ทุ่มเทเวลาและชีวิตให้กับการผสมพันธุ์ดอกบัวมานานกว่า 60 ปี จนได้ดอกบัวสายพันธุ์ใหม่ถึง
70 สายพันธุ์
ปัจจุบันมีดอกบัวที่ใช้ชื่อต้นว่า Nymphaea มากราว 50 สปีชี่ส์ และพบได้ในทั่วโลกทั้งแถบภูมิอากาศอบอุ่นและเขตร้อน
ที่น่าแปลกคือดอกบัวในแฟมิลี่นี้มีทั้งประเภททนทานและเปราะบาง
บัวประเภทที่มีความทนทานและเบ่งบานในตอนกลางวันนี่แหละ ที่มีเสน่ห์ดึงดูดความสนใจของเราเป็นส่วนใหญ่
จากที่ดอกมีรูปทรงได้สัดส่วนและใหญ่ เมื่อบานเต็มที่แล้วสีของดอกตัดกับสีเขียวสดใสของใบที่มีจุดสีน้ำตาลประแลดูสวยสะดุดตา
ให้ความรู้สึกสดชื่นได้เป็นอย่างดี
ดอกบัวที่มีความทนทานสูงนี้ แบ่งเป็น 2 sub-divisions คือ Marliacea ซึ่งดอกมีความแข็งแรง
ใบมีลักษณะกลม สังเกตได้ง่ายๆ จากดอกที่บานแล้วจะชูคออยู่เหนือน้ำเล็กน้อย
อีกกลุ่มหนึ่งคือ Laydekeri ซึ่งสังเกตได้จากดอกที่ลอยเรี่ยอยู่บนผิวน้ำและใบตกกระ
เช่น N.'Laydekeri Liliacea ซึ่งมีดอกสีม่วง เกสรสีเหลือง ใบมีลายจุดอยู่ด้านในและชอบม้วนตัวเข้าหากัน
ฝรั่งเขายังตบท้ายไว้น่าฟังและเหมือนกับที่เราคุ้นกันเสียด้วยซี .......ใบของบัวที่มีชื่อต้นว่า
Nymphaea ซึ่งมีลักษณะแบนลอยตัวอยู่เหนือผิวน้ำและกลมสวยนั้น ช่วยสร้างร่มเงาให้กับท้องน้ำได้อย่างอเนกอนันต์
ช่วยสกัดกั้นไม่ให้สาหร่ายในน้ำเจริญเติบโตขยายพันธุ์เร็วเกินไปจนมากเกินความต้องการ
และช่วยรักษาสภาพของน้ำให้ใสสะอาดอยู่เสมอ
คำเตือนส่งท้ายของฝรั่งก็คือ อย่าได้ประมาทเป็นอันขาด ถ้าท้องน้ำใดมีกอบัวขึ้นอยู่ดารดาษล่ะก็
ลึกลงไปใต้ท้องน้ำนั้นจะมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าบนผิวน้ำจะแลดูสงบนิ่งก็ตาม
เข้าทำนองภาษิตไทยที่ว่า "น้ำนิ่งไหลลึก" (Still waters do run deep) นั่นเอง