ศึกชิงพื้นที่ลานเบียร์ปะทุหนัก “สิงห์-ช้าง-อาซาฮี-ไฮเนเก้น” เฮโลควักเงินประมูล 15-16 ล้านบาท สู้ชิงพื้นที่ หน้าเซ็นทรัล เวิลด์ – สำนักงานทรัพย์สินตั้งราคากลางประมูลโหดเพิ่ม 30% “ช้าง”บ่นอุบงานนี้หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ รายได้มีสิทธิ์เจ๊าหรือไม่ก็ขาดทุน คอน้ำเมาเตรียมโอด เหตุราคาอาหารเพิ่มขึ้น แน่ 10% ด้าน“สิงห์ควงอาซาฮี” อัดกิจกรรมรถล่มค่ายคู่แข่ง ฟันธงกิจกรรมเรียกลูกค้ามิวสิกมาร์เก็ตติ้ง-พริตตี้แข่งดุ
แหล่งข่าววงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผยถึงการประมูลพื้นที่ลานเบียร์หน้าโครงการ เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่าว่า ในปีนี้การประมูลพื้นที่ลานเบียร์ มีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น หลังจากศูนย์การค้าเวิลด์เทรด ถูกเปลี่ยนมือไปอยู่ภายใต้เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่าตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้บริเวณลานเบียร์ มีการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ ทำให้มีพื้นที่ลดลงเหลือ 4,500-5,000 ตารางเมตร ดังนั้นศึกการประมูลพื้นที่จากเบียร์ทุกค่ายจึงปะทุขึ้น โดยรวมมูลค่าการประมูลล่าสุดจาก 3 ค่ายเบียร์ สิงห์-อาซาฮี-ไฮเนเก้นราว 13-14 ล้านบาท หากรวมเบียร์ช้างด้วยคาดว่าเม็ดเงินจะพุ่งสูงถึง 15-16 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมามีมูลค่าราว 10 ล้านบาท
ล่าสุดการประมูลได้เสร็จสิ้นลง โดยเบียร์ช้างหรือกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดีได้พื้นที่ลดลงเล็กน้อย เบียร์สิงห์หรือบริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด พื้นที่ลดลงเกือบ 50% ขณะที่เบียร์ไฮเนเก้น หรือ บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ต้องย้ายพื้นที่มาอยู่ใกล้เบียร์ช้าง และได้พื้นที่เพียง 500 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าอยู่โทนสีเดียวกันมีโอกาสที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสับสนได้ เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ จึงทำให้เกิดศึกชิงพื้นที่เหลือเพิ่มเติม
โดยการหาพื้นที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นการเปิดศึก ระหว่างไฮเนเก้นที่ต้องการนำเบียร์ในเครืออีกหนึ่งแบรนด์ ซึ่งอาจจะเป็นไทเกอร์หรือเบียร์น้องใหม่”เชียร์”มาคั่นระหว่างเบียร์ช้างกับไฮเนเก้น ขณะที่เบียร์สิงห์เองพื้นที่ก็ลดลงไปเกือบครึ่งหนึ่ง
ทั้งนี้บรรยากาศในการประมูลพบว่า บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จับมือกับบริษัท บีแอนด์เอ จำกัด หรือเบียร์อาซาฮี ทุ่ม 5.5 ล้านบาท เพื่อชิงพื้นที่กว่า 1,340 ตารางเมตร ซึ่งในการประมูลได้ให้บริษัทในเครือคือ ซี.วี.เอส.ซินดีเคท เป็นผู้ยื่นซอง ส่วนไฮเนเก้นทุ่มเงินเพียง 2.7 ล้านบาทเท่านั้น
“ผลปรากฎว่าเบียร์สิงห์และอาซาฮี ได้พื้นที่ดังกล่าวไป โดยลากยาวไปจนถึงฝั่งโรงพยาบาลตำรวจ แบ่งเป็นของเบียร์สิงห์ 920 ตารางเมตร และเบียร์อาซาฮี 1,340 ตารางเมตร ซึ่งในเบื้องต้นทั้งสองค่ายได้ตัดสินใจที่จะทำกิจกรรมร่วมกันในลานเบียร์แห่งนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน – กลางเดือนมกราคม 2549 ขณะที่เบียร์ลีโอ ปีนี้ไม่ได้จัดลานเบียร์ที่เซ็นทรัล เวิลด์ แต่เตรียมเปิดตัวที่ เมเจอร์ ปิ่นเกล้า เป็นลักษณะ สแตนด์อโลนแทน”
ค่าพื้นที่ขึ้น30%ค่ายเบียร์มีสิทธิ์เจ๊ง
นายสมชัย สุทธิกุลพานิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ทำตลาดและจัดจำหน่ายเบียร์ช้างและเบียร์อาชา เปิดเผยว่า ปีนี้ค่าประมูลพื้นที่ได้ปรับสูงขึ้น 30-40% ซึ่งเบียร์ช้างได้พื้นที่เท่าเดิมคือ 600-700 ตารางเมตร อย่างไรก็ตาม แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้น แต่เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้เป็นเหมือนศูนย์กลางสำหรับคนกรุงเทพ ที่ต้องการมาดื่มเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่และลมหนาว ทำให้ทุกค่ายต้องแข่งขันกัน
โดยประเมินสถานการณ์แล้วว่า หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ เช่น อากาศไม่หนาว ฝนตก รายได้จากการจำหน่ายเบียร์สดที่เซ็นทรัล เวิลด์ของค่ายเบียร์แต่ละค่ายมีสิทธิ์เท่าตัวหรือไม่ก็ขาดทุน เพราะที่ผ่านมาถือว่ารายได้แต่ละค่ายก็เกือบเท่าทุนอยู่แล้ว
ปัจจุบันคนไทยดื่มเบียร์สดไม่ถึงครึ่งลิตรต่อคนต่อปี เมื่อเทียบกับเบียร์ธรรมดาราว 24 ลิตรต่อคนต่อปี ซึ่งโอกาสที่ตลาดเบียร์สดจะมีอัตราการเติบโต หรือเทียบกับตลาดเบียร์ธรรมดาคงเป็นเรื่องยาก โดยพบว่าเบียร์สดมีสัดส่วน 2 % เท่านั้น หรือ 20-21 ล้านลิตร มูลค่าตลาด 2000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมเบียร์ 73,200 ล้านบาท หรือคิดในเชิงปริมาณ 1,450 ล้านลิตร
สิงห์ควงอาซาฮีทำตลาดร่วมกัน
นายครรชิต สิงห์สุวรรณ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีแอนด์เอ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเบียร์อาซาฮี เปิดเผยว่า อาซาฮีกำลังอยู่ระหว่างการวางแผนร่วมกัน เพื่อให้ทั้งสองแบรนด์มีเอกลักษณ์ที่ใกล้เคียงกัน โดยอาซาฮีได้เตรียมทุ่มงบ 4 ล้านบาท ในการทำกิจกรรม ในเบื้องต้น คือ นำพริตตี้ทั้ง 10 คนเดินบริเวณลานเบียร์,เปิดตัวโชว์วันละ 3 รอบ,ปฏิทินมิสอาซาฮี และผู้เข้ารอบจากประกวดมิสอาซาฮี 10 คนมาสร้างสีสัน ซึ่งคาดว่าจะผลักดันให้เบียร์สดอาซาฮีมียอดขาย 35 ล้านบาท จากปัจจุบันอาซาฮีมียอดขาย 22 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 350 ล้านบาท
มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง-พริตตี้แข่งดุ
นายครรชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์หลักที่ค่ายเบียร์งัดขึ้นมาใช้ คือ มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งจะต้องมีทุกปี ซึ่งแล้วแต่ว่าค่ายใด จะเลือกสรรเพลงแนวใดให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ รวมทั้งการนำพริตตี้ หรือ สาวเชียร์เข้ามาสร้างสีสันให้กับลานเบียร์ ซึ่งยังไม่รวมถึงกิจกรรมมอบโชค ปฏิทินเซ็กซี่ อย่างน้อยก็มีถึง 2 ค่ายที่ทำแล้ว ได้แก่ อาซาฮีและลีโอ และในปีนี้คาดว่า ค่ายเบียร์จะหันมาเน้นเบียร์ขนาด 3 ลิตร ราคาเฉลี่ย 300 –350 บาท มากกว่าเบียร์ 1 ลิตร ราคาเฉลี่ย 100-150 บาท
อย่างไรก็ตาม ผลจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาสินค้าทางการเกษตร และเนื้อสัตว์ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสที่ราคาอาหารภายในลานเบียร์จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% หรือมีโอกาสที่ผู้ประกอบการจะลดปริมาณลง แต่ขายในราคาเท่าเดิม ส่วนราคาเบียร์สดคาดว่าคงจะไม่มีผู้ประกอบการรายใดขึ้นราคามากนัก โดยสำหรับอาซาฮี ตั้งราคาไว้ที่ 150 บาทใกล้เคียงกับไฮเนเก้น อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าในช่วงเทศกาลลานเบียร์ปีนี้ คนไทยยังพร้อมที่จับจ่ายใช้สอย แม้ว่ากำลังการซื้อในปีนี้จะลดลงไปก็ตาม เนื่องจากในหนึ่งปีจะมีเทศกาลเฉลิมฉลองลักษณะอย่างนี้หนึ่งครั้ง
|