|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไทคอนเดินหน้าขายโรงงานให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอน (TFUND) อีก 2 พันล้านบาทในปีหน้า คาดได้ข้อสรุปภายในไตรมาสแรก ฟุ้งผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกพุ่งกระฉูดจากการขายโรงงานเข้ากองทุน ตั้งเป้าภายใน 3 ปี TFUND มูลค่าทรัพย์สินพุ่ง 1 แสนล้าน ส่วนผลการดำเนินงานของ "ไทคอน" คาดสิ้นปีรายได้ทะลุ 2.5 พันล้านบาท
นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON) เปิดเผยว่า บริษัทประเมิน ว่าภายใน 3 ปีข้างหน้าค่าของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอน (TFUND) จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะมีการขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการสร้างแหล่งรายได้ให้แก่บริษัท และที่สำคัญกองทุนนี้มีนโยบายซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนในระดับสูงเพื่อเพิ่มขนาดของกองทุน
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2549 บริษัทเตรียมขายโรงงานให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทคอน (TFUND) อีกประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการนำโรงงานที่มีอยู่เดิม ประมาณ 40 โรงงานมาขายให้แก่กองทุนดังกล่าว โดยบริษัทจะพยายามรักษาสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนในกองทุน TFUND ให้ได้สัดส่วน 1 ใน 3 เช่นที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะขายได้แล้วเสร็จไตรมาส 1 ของปี 2549
นายวีรพันธ์กล่าวว่า จากการคาดการณ์แนวโน้มรายได้ของบริษัท ในปีนี้คาดว่ารายได้จะทะลุระดับ 2.5 พันล้านบาท หรืออาจจะเพิ่มขึ้นไปถึง 3 พันล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้เพียง 894 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อนเนื่องจากบริษัทได้ขายพื้นที่โรงงานให้แก่กองทุนรวมอสังหาริม- ทรัพย์ไทคอน (TFUND) มูลค่า 1,730 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกมีการขยายตัว อย่างโดดเด่น และคาดว่าแนวโน้มในครึ่งปีหลังจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
"ในปีนี้รายได้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยในครึ่งปีแรกของปีนี้มีรายได้เข้ามามากจากการขายโรงงาน 39 แห่งให้กองทุน TFUND มูลค่า 1.7 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าปีหน้าที่เตรียมขายโรงงานเพิ่ม อีกประมาณ 40 กว่าแห่ง มูลค่า 2,000 ล้านบาท จะทำให้ผลประกอบการในอนาคตดีขึ้น แม้ว่าค่าเช่าจะไม่โตเท่าปีก่อนหน้าแต่จะพยายามรักษาสัดส่วนการขยายตัวให้ได้ 10% ในปีถัดไป" นายวีรพันธ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น 70% แม้อาจจะลดลงจาก ปีก่อนหน้าบ้างที่เฉลี่ย 80% เพราะปีนี้มีการขายโรงงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าให้เช่าโรงงานที่เป็นรายได้หลักเช่นที่ผ่านมา โดยทางบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับ 70% ให้ได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับกรณีความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จะมีการเซ็นสัญญาโอนที่จำนวน 405 ไร่ มูลค่า 995 ล้านบาท จาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) โดยคาดว่าหากพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวแล้ว เสร็จจะทำให้มีพื้นที่บริหารเพิ่ม 2.5 แสนตารางเมตร โดยระยะยาววางแผนให้เช่าพื้นที่ดังกล่าวกับทางกองทุนรวมอสังหาฯ
ส่วนการหาพันธมิตรร่วมทุนในบริษัทไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค สัดส่วน 40% ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก โดยหากบริษัทยังหาพันธมิตรที่มีศักยภาพการดำเนินงานดีกว่าตัวบริษัทเองไม่ได้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องหาพันธมิตรใหม่
นายวีรพันธ์กล่าวอีกว่า การเตรียมออกหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 2,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 10 ปี ทางบริษัท เตรียมนำวาระดังกล่าวเข้าประชุมกับคณะกรรมการผู้ถือหุ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งบริษัทจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 75% แต่จะออกหุ้นกู้ครบตามจำนวน 2,000 ล้านบาทตามที่ขอหรือไม่ต้องมาพิจารณาอีกครั้ง
|
|
|
|
|