โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ปคาดรายได้ปีนี้ 3,100 ล้านบาท กำไรสุทธิ 290 ล้านบาท จาก 8 เดือนยอดขายพุ่ง เตรียมจ่ายปันผล ปีนี้ระดับเดียวกับปีที่ผ่านมาที่ 2.75 บาท ด้าน ผู้บริหารเผยเป้ารายได้ไม่รวมบริษัทย่อยที่ปี 49-50 ที่ 2,800 และ 3,100 ล้านบาท จ่ายปันผล 3 และ 3.25 บาท พร้อมดันบริษัทพลาสติค และหีบห่อไทยฯ เข้าระดมทุนในตลาดหลัก-ทรัพย์เอ็มเอไอปีนี้ เพื่อหวังรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ไม่หวั่นภาวะซบทำให้ราคาหุ้น IPO ไม่สูง
นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MODERN เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ไตรมาส 3/48 จะมีรายได้มากกว่าไตรมาส 2/48 ที่มีรายได้รวม 696.03 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 60.66 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อที่ได้รับแล้วเป็นจำนวนมาก เพราะภาวะการเติบโตของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ยังเติบโตที่สูง
บริษัทคาดรายได้รวมปีนี้ ประมาณ 3,100 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ของบริษัท 2,500 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 290 ล้านบาท เพราะขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อสินค้าจำนวน 200 ล้านบาท ซึ่ง จะทยอยรับรู้จนถึงปีหน้า ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าเพราะจากยอดขายที่มี 8 เดือน ซึ่งครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 1,429.57 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 122.28 ล้านบาท และบริษัท คาดรายได้จากการจัดลดราคาสินค้าของบริษัทที่จัดในวันที่ 26 ส.ค.-11 ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ปีนี้ 150 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้จัดมา 5 วัน มียอดขาย 60 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลปีนี้มากกว่า 2.75 บาท ซึ่งปกติทุกปีที่ผ่านมาบริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยบริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทในเดือนก.ย.นี้
นายทักษะ กล่าวว่า คาดรายได้รวมของบริษัทไม่รวมบริษัทย่อยปี 2549 ประมาณ 2,800 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 335 ล้านบาท และคาดว่า จะจ่ายเงินปันผลประมาณ 3 บาทและมีรายได้ในปี 2550 ประมาณ 3,100 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 355 ล้านบาท และจะจ่ายเงินปันผลประมาณ 3.25 บาท
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามประมาณการที่ตั้งไว้ เนื่องจาก บริษัทมีการขยาย ตลาดไปในตลาดใหม่ๆ และการเติบโตของธุรกิจ เช่น ในปี49 บริษัทมองตลาดเฟอร์นิเจอร์ ในโรงเรียน สถาบันการศึกษา ห้องประชุม โรงแรม ตลาดท่องเที่ยว และจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจ เฟอร์นิเจอร์เพื่อสุขภาพ (Health&Care) ซึ่ง จะรับรู้รายได้ปีแรกประมาณ 30-50 ล้านบาท รวมถึงในปี 2549 บริษัทจะเข้าร่วมประมูลงานศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการรวม 1,200 ล้านบาท
นายทักษะ กล่าวถึงความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอของ บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TAPAC ซึ่ง MODERN ถือหุ้น 60% โดย ขณะนี้ได้ยื่นแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) แล้ว ซึ่งคาดว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะอนุมัติไฟลิ่งประมาณปลายเดือน ต.ค.หรือต้นเดือน พ.ย. โดย จะเสนอขายหุ้นได้ และจะเข้าซื้อขายในตลาด-หลักทรัพย์ เอ็มเอไอ(mai) ภายในปีนี้ เนื่องจาก บริษัทต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ถึงแม้ ภาวะตลาดไม่ดีจะทำให้ราคาเสนอขายหุ้นไม่สูงก็ตาม
ทั้งนี้ บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทยฯซึ่งประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทขวดและฝา และชิ้นส่วนพลาสติกขึ้นรูป ต่างๆ โดยจะเสนอขายหุ้น จำนวน 20 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท
บริษัทพลาสติคและหีบห่อไทยฯ คาดว่าจะมีรายได้ปีนี้อยู่ที่ 600 ล้านบาท มีกำไรสุทธิประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งในปี 2547 มีรายได้รวม 585 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทจะนำไป ลงทุน ในแม่พิมพ์ที่ใช้เทคนิคการผลิตแบบ Hot Runner Mould ลงทุนในบรรจุภัณฑ์แบบ Thin Wall และอื่นๆ
|