|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บุญรอดฯ พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ฉวยโอกาสตลาด เหล้าซบ อิงกระแสสุขภาพ ปั้น "โซดาสิงห์" มิกเซอร์น้ำผลไม้ ขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ ปูพรมทุ่ม 50 ล้านบาท จัดโรดโชว์สถานศึกษา พร้อมเตรียมดึงมินิคอน-เสิร์ตคนดังเข้าแสดงตามร้านอาหาร ผับ บาร์ มั่นใจสิ้นปียอดขายโซดาวันเวย์โตไม่ต่ำกว่า 25-30%
นายปิติ ภิรมย์ภักดี ผู้จัด การฝ่ายโฆษณา บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะรุกทำตลาดโซดาสิงห์เจาะกลุ่มเป้าหมายรอง หรือ กลุ่มที่ดื่มโซดาเปล่าๆและกลุ่มที่มิกซ์กับน้ำผลไม้ เนื่องจากปัจจุบัน ตลาดโซดามีอัตราการเติบโตที่ลดลงตามอัตราการเติบโตของตลาดเหล้าซึ่งปีนี้โต 2-3% เนื่องมาจากนโยบายควบคุมของภาครัฐจึงทำให้ บริษัทในฐานะผู้นำตลาดต้องมีการขยายช่องทางการทำตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ตลาดเติบโต
สำหรับรูปแบบของโซดาสิงห์ ที่บริษัทจะเน้นการทำตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายรอง คือ รูปแบบวันเวย์หรือการจำหน่ายโซดาขวดเล็กแบบไม่ต้องคืนขวด ซึ่งถือได้ว่าเป็นรูปแบบที่มีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบรีเทิร์นหรือการจำหน่ายโซดาแบบคืนขวด เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาซื้อโซดาภายในห้างสรรพสินค้าเพื่อกลับไปบริโภคที่บ้านมากขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบ การร้านอาหาร ผับ บาร์ เริ่มเปลี่ยน รูปแบบการสั่งซื้อสินค้าจากรูปแบบรีเทิร์นเป็นรูปแบบวันเวย์มากขึ้น เพื่อป้องกันการเสียค่ามัดจำการ คืนขวดเมื่อขวดโซดาสูญหาย
ในปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบตลาดโซดา 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ใช้เม็ดเงินในการทำตลาดโซดาเพียง 5 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งรูปแบบของการทำตลาดบริษัทจะมีการจัดโรดโชว์ไปตามสถานศึกษา ต่างๆ เพื่อสร้างการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ด้วยการนำโซดามาผสมกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างเช่น น้ำผลไม้ ให้นักเรียน นักศึกษาได้ทดลองชิม ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างความรู้ใหม่ให้กับผู้บริโภคในด้านสุขภาพจากเดิมที่ผู้บริโภคจะทราบแค่โซดาสามารถผสมกับเหล้าได้เพียงอย่างเดียว
นายปิติกล่าวว่า การที่บริษัท หันมารุกตลาดโซดาเพิ่มมากขึ้น ก็เพราะว่าโซดาสามารถทำกำไรให้กับบริษัทได้ถึง 15-20% ของรายได้ รวม นอกจากนี้ ยังถือเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของเครื่องดื่มตราสิงห์ที่สามารถนำโซดามาบริโภคเพื่อสุขภาพได้ นอกเหนือจากที่บริษัทได้มีการเปิด ตัวเครื่องดื่มชาเขียวโมชิออกทำตลาด เพราะโซดาสามารถลดกรด ในกระเพาะได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ภาพลักษณ์ของเครื่องดื่มสิงห์ผู้บริโภคจะรู้จักกันแค่เพียงเบียร์สิงห์เท่านั้น
ส่วนแผนการทำตลาดโซดาในรูปแบบรีเทิร์นนั้น บริษัทมีแผน ที่จะจัดโรดโชว์ไปตามร้านอาหาร ผับ และบาร์เช่นกัน โดยจะเข้าไปทำในรูปแบบของการจัดคอนเสิร์ตไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งภายหลังจากรุกตลาดในรูปแบบดังกล่าว คาดว่าจะสามารถกระตุ้นให้ยอดขายโซดาในรูปแบบวันเวย์มีอัตราการเติบโตประมาณ 25-30% ในขณะที่รูปแบบรีเทิร์นคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 5% เนื่องจากตลาดเหล้ามีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างชะลอตัว แต่ก็ถือ ว่าอัตราการเติบโตดังกล่าวสูงกว่า อัตราการเติบโตของตลาดเหล้าที่ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 2-3% เท่านั้น
สำหรับมูลค่าตลาดรวมของตลาดโซดา ในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่า อยู่ที่ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท เติบโตอยู่ที่ประมาณ 10% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น โซดารูปแบบรีเทิร์น 65-70% และโซดารูปแบบวันเวย์ 30-35% โดยมีโซดาสิงห์ของบริษัทเป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 80-90% ทั้งนี้คาดว่าในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้าหรือปี 2550 ตลาดรวม โซดาน่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท
|
|
|
|
|