5 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ไทย พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา ผนึกกำลังเสริมเขี้ยวรับมือนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป้าหมายหลักจับกลุ่ม ยุโรป อเมริกา ชู 5 เมืองวัฒนธรรม-มรดกโลก ศรีสัชนาลัย พุกาม หลวงพระบาง เว้ และนครวัด ตอบโจทย์แหล่งท่องเที่ยวสังวาลมรดกแห่งเอเชีย ตั้งเป้า สร้างเม็ดเงินเข้าภูมิภาค 2.1 พันล้าน เหรียญสหรัฐในแผนยุทธศาสตร์ 10 ปี รัฐบาลฝรั่งเศสช่วยหนุน ด้านบางกอก แอร์เวย์สทำแผนธุรกิจบินเชื่อม 5 ประเทศใน 5 แหล่งท่องเที่ยวใน 3 ปี

นางสาวศศิธารา พิชัยชาญ-ณรงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนา การท่องเที่ยว(สพท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการเปิดงานโครงการฝึกอบรมพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านการท่องเที่ยวว่า ได้ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศใช้งบ 2.3 ล้านบาท เพื่อจัดโครงการดังกล่าว สำหรับฝึกอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวใน 5 ประเทศ ตามความร่วมมือของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วย ไทย ลาว เวียดนาม พม่า และกัมพูชา มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในเรื่องการบริหารจัดการเพื่อนำไปใช้ปรับปรุงและทำนุบำรุงแหล่งท่องเที่ยวที่ประเทศของตัวเอง

โครงการนี้เป็นไปตามกรอบความร่วมมือ ACMECS (Ayeawa-dy-Chao Phraya-Mekong Eco-nomic Cooperation Strategy) ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สังวาลมรดกแห่งเอเชีย (Heritage Necklace of Asia) ซึ่งได้รับความ ร่วมมือจากองค์การการท่องเที่ยวโลก หรือ WTO (World Tourism Organization) เน้นให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ในลักษณะเชื่อมโยงเป็นอนุภูมิภาค เป็น การวางยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวร่วมกันในระยะ10-15 ปี จากนี้ไป พร้อมกับนำเสนอขายนักท่องเที่ยวในรูปแบบแพกเกจทัวร์รวม 5 แห่งใน 5 ประเทศ

ภายในปีงบประมาณ 2549 รัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยวของทั้ง 5 ประเทศ จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อลงนามในการที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของทั้ง 5 ประเทศ ใน 5 แห่ง ที่จะนำไปจัดเป็นแพกเกจทัวร์ ประกอบด้วย เมืองพุกาม (พม่า), มรดกโลกหลวงพระบาง (ลาว), นครวัด (กัมพูชา), เมืองโบราณเว้ (เวียดนาม) และอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และศรีสัชนาลัย ของประเทศไทย ตรงนี้จะทำให้แต่ละประเทศสามารถนำสัญญาที่ลงนามไปจัดทำแผนเพื่อขอเงินสนับสนุนในการสร้างระบบสาธารณูปโภคกับองค์กรระดับโลก เช่น ยูเนสโก, เอดีบี รวมถึงเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น แผน10ปีดันรายได้ 2.1 พันล.เหรียญ

นางสาวศศิธารา กล่าวว่า จากการศึกษาของ WTO พบว่า แหล่งท่อง เที่ยวเชิงวัฒนธรรม และประวัติ-ศาสตร์ของทั้ง 5 แห่ง ใน 5 ประเทศดังกล่าว มีศักยภาพสูงที่จะจูงใจให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นประเทศในกลุ่มยุโรป อเมริกา และโอเชียเนีย จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการ 10 ปี (2548-2557) ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเฉพาะชาวต่างชาติรวม 5 ประเทศ ให้ได้ 6.3 ล้านคน จากปัจจุบันที่มีจำนวน 2.46 ล้านคน สร้างรายได้เข้าพื้นที่รวม 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันมีรายได้ 461 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนักท่องเที่ยวจะมีวันพักเฉลี่ยเพิ่มจาก 2.5 วันในปัจจุบัน เป็น 3.5 วัน ในอนาคต มีค่า ใช้จ่ายต่อคนต่อวัน เพิ่มจาก 75 เหรียญสหรัฐ เป็น 100 เหรียญสหรัฐ

"การร่วมมือกันของ 5 ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงครั้งนี้ นอกจากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแล้วยังมีแผนด้านการตลาด ด้วยการจัดแพก-เกจทัวร์ร่วมกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้เดินทางตามเส้นทางสังวาลมรดกแห่งเอเชีย ตรงนี้จะทำให้วันพักเฉลี่ยและเกิดการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งธุรกิจ สายการบินโลว์คอสต์ ที่เกิดขึ้นมากในขณะนี้จะมีส่วนผลักดันด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ได้ดียิ่งขึ้น" ฝรั่งเศส สนทำข้อมูลขึ้นเว็บไซต์

สำหรับประเทศไทย ความเป็นศูนย์กลางหรือเกตเวย์ด้านการท่องเที่ยว ในภูมิภาคนี้ ปัจจัยที่จะเข้ามาสนับ-สนุนคือ ถนนสายอีสต์เวสต์อิโคโนมิก ดอริคอ หรือ ถนนสายตะวันตก-ตะวันออก ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ใน อีก 3 ปีข้างหน้า ถนนดังกล่าวจะเชื่อม ต่อถนนที่มาจากพุกาม ประเทศพม่า ตรงชายแดนที่ จ.ตาก มาผ่าน จ. สุโขทัย และไปสุดปลายทางที่ จ.มุก-ดาหาร เพื่อเชื่อมต่อไปหลวงพระบาง และเว้ และหากต้องการไปนครวัด ประเทศกัมพูชา จะมีถนนเชื่อมจากสุโขทัยไปออกที่ จ.อุบลราชธานีเข้านครวัด

ล่าสุดรัฐบาลประเทศฝรั่งเศสให้ความสนใจเข้ามาจัดทำข้อมูลแบบมัลติมีเดีย เป็นภาษาฝรั่งเศสให้กับนครวัด เราจึงได้ขอให้ช่วยทำให้กับทั้ง 5 ประเทศ เพื่อจัดทำเป็นข้อมูลประชาสัมพันธ์ เผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวเป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งจะสามารถครอบคลุมกลุ่มประเทศยุโรปซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายได้เกือบทั้งหมด โดยหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของฝรั่งเศส จะนำข้อมูลไปขึ้นในเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ให้ ขณะเดียวกันก็จะแจกจ่ายซอฟต์แวร์ให้กับทั้ง 5 ประเทศ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์เพิ่มเติม

บางกอกแอร์เวย์สบินเชื่อม 5 ประเทศ

ในระยะ 3 ปีจากนี้ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ผู้ให้บริการสายการ บินบางกอกแอร์เวย์ส อยู่ระหว่างการวางแผนเชื่อมเส้นทางการบินไป-กลับ สำหรับ 5 เมือง ใน 5 ประเทศดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว ในส่วนของ สพท. ได้เตรียมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพิ่มเติม เช่น การพัฒนาหมู่บ้านโฮม-สเตย์ และหมู่บ้านโอทอป ซึ่งตามแผนที่วางไว้ สุโขทัย จะเป็นเมืองประ-วัติศาสตร์และวัฒนธรรมจะไม่มีแหล่ง สถานบันเทิง ส่วนโรงแรมจะเป็นแนว บูติก

นายโยธิน สมุทรคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่สุโขทัยเฉลี่ย 7 แสนคน แบ่งเป็น ชาวต่างชาติ 4 แสนคน และคนไทย 3 แสนคน ค่าใช้จ่าย ต่อคนประมาณ 1,200 บาท ตั้งเป้าภาย ใน 3 ปี จะเพิ่มนักท่องเที่ยวเป็น 1 ล้านคน ตลาดเป้าหมายหลัก คือ ยุโรป เยอรมนี และญี่ปุ่น โดยมีแผนเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวให้หลากหลายและทุกฤดูกาล เช่น การจัดทำโครงการ หมู่ บ้านวิถีไทย ที่ ต.วังตะค้อ อ.เมือง สุโขทัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเรื่อง ของบประมาณจากรัฐบาลในวงเงิน 30 ล้านบาท คาด 1-2 ปีจะแล้วเสร็จ