|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กันยายน 2548
|
|
งานเทศกาลฤดูร้อนในแคนาดาถือเป็นเรื่องไม่ธรรมดา เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นมีอุณหภูมิ -20 ถึง -30 องศาในฤดูหนาว ทำให้ชาวแคนาเดียนรอคอยอากาศอันอบอุ่นในฤดูร้อน และเป็นธรรมเนียมที่พวกเขาจะพากันออกเที่ยวงานเทศกาลต่างๆ กันอย่างสนุกสนานตลอดช่วงหน้าร้อนในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมของทุกปี
ในแต่ละเมืองต่างมีการจัดกิจกรรมเป็นการเฉพาะภายในของตัวเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของงาน เช่น เมือง Calgary มีการแสดงโชว์วิถีชีวิตของชาวคาวบอย Calgary Stampede และการแข่งขันโรดิโอ ที่เรียกว่า World Champion Blacksmith's Competition ส่วนเมือง Toronto และ Vancouver มีเทศกาลเชิญชวนนักท่องเที่ยว มาชิมอาหารและไวน์ทั่วโลก
ส่วนใหญ่งานรื่นเริงดังกล่าว ชาวแคนาเดียนให้ความสนใจกับการแสดงออกทางศิลปะและวัฒนธรรม เช่น Historic Edmonton week เป็นงานแสดงประวัติความเป็นมาของนครแห่งนี้ The Folk Festival เป็นการแสดงดนตรีกลางแจ้ง International Fringe Festival เป็นงานแสดงออกทางด้านวรรณกรรม ภาพยนตร์ และละครบนเวที
ในเมือง Edmonton Heritage Festival เป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าสามารถเรียกนักท่องเที่ยวเข้าชมงานได้ติดอันดับหนึ่ง ในสิบของแคนาดา เห็นได้จากสถิตินักท่องเที่ยว เมื่อปี 2004 มีจำนวน 3.5 แสนคน เพิ่มขึ้นมา ในปี 2005 มากถึงกว่า 450,000 คน จากในอดีตที่มีเพียง 20,000 คน เมื่อ 30 ปีก่อน
Heritage Festival เป็นงานการรวมตัวของชุมชนชาติต่างๆ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศนี้ที่จะได้แสดงออกถึงมรดกวิถีชีวิตของชนชาติต่างๆ เกือบทั่วโลกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนแห่งนี้
งานนี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1974 จากการริเริ่มของ Horst Schmid อดีตรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของ Alberta ที่ต้องการให้ชาวเมืองนี้ได้ฉลองงานรื่นเริงทางวัฒนธรรมเทศกาลฤดูร้อน แต่เขาเริ่มต้นได้เพียงการแสดงคอนเสิร์ตเท่านั้น
ปี 1976 ความตั้งใจของ Schmid เป็นรูปร่างชัดเจนขึ้นในการเติมสีสันของคำว่า Multicultural เพื่อให้ชุมชนจากเชื้อชาติต่างๆ เข้ามาแสดงเอกลักษณ์ของชาติตนเองในงานนี้
Canadian Multiculturalism เป็นจุดหมายสำคัญอันหนึ่งที่รัฐบาลแคนาดาพยายามผสมผสานชนชาติทุกเผ่าพันธุ์ที่เข้ามาอาศัยในประเทศนี้ให้เกิดความรู้สึกถึงความผูกพัน มิตรภาพ และความสมานฉันท์ที่พึงมีต่อกัน
สถิติของผู้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในแคนาดาระบุไว้ถึงกว่า 5.5 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศที่มี 31 ล้านคน โดยกลุ่มคนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานต่างกระจายไปทั่วประเทศแคนาดา และเป็นชุมชนชาติต่างๆ ขนาดใหญ่บริเวณเมือง Toronto Vancouver และ Montreal
โดยเฉพาะปี 2005 เมือง Edmonton ได้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันกีฬา World Masters Games ทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาทั่วสารทิศ รวมตัวกันมาเป็นหมู่คณะ หรือมากันแบบครอบครัว เข้าชมงานดังกล่าว จนทำให้ William Hawrelak Park นคร Edmonton Alberta สถานที่จัดงานตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคม แคบไปโดยปริยาย
Jack Little Executive Director Edmonton Heritage Festival Association ผู้เป็นตัวจักรสำคัญของการจัดงานครั้งนี้บอกว่า การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ไม่หวังผลกำไร คนที่เข้ามาช่วยงานส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครกว่า 6,000 คน และเราตั้งเป้าหมายของงานนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกชุมชน มาแสดงเอกลักษณ์ของชาติตนเอง และผู้เข้าชมงานได้รับความรื่นเริงไปพร้อมๆ กัน
สโลแกนของปีนี้มีว่า "Come Join Our Family" เพื่อต้องการให้ทุกชุมชน ไม่ว่าจะเป็นชาติใดก็ตามก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคนในครอบครัวเดียวกันที่จะเข้ามาร่วมเฉลิมฉลองความสุขกัน
ปะรำการจัดงานแบ่งเป็นซุ้มของแต่ละประเทศ ซึ่งปีนี้มีถึง 52 ชาติ เช่น การแสดงศิลปะการตีกลองของชาวอินเดียน คองโก เกาหลี ฟิจิ และจีน การเต้นระบำพื้นเมืองของชาวเอธิโอเปีย ไฮติ แอฟริกัน ไนจีเรีย มองโกเลีย เนปาล บอสเนีย การเต้นรำตามจังหวะภาคพื้นสแกนดิเนเวียและยุโรปของชาวสวีเดน โรมาเนีย แคริบเบียน ฝรั่งเศส เยอรมนี ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีสินค้าพร้อมทั้งอาหารพื้นเมืองของชาติต่างๆ เกือบทั่วโลกที่คุณสามารถลิ้มลองได้ในราคาประหยัด โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงถิ่นกำเนิด
กลิ่นอายของบรรยากาศภายในงานนี้สามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของแต่ละเชื้อชาติที่มาจากแต่ละพื้นเพของตนเอง เช่น เนื้อย่างพร้อมผักดองกิมจิของชาวเกาหลีหรืออาหารของชาวโปรตุเกส มีปลาซาร์ดีนเป็นตัวเรียกน้ำย่อย ขณะที่ซุ้มของชาวไทยมีก๋วยเตี๋ยวผัดไทย และแกงเขียวหวานไก่ พร้อมกล้วยแขกทอดเป็นตัวชูโรง ระบำของสาวๆ ชาวนิการากัวและเม็กซิโก เรียกกลุ่มผู้ชมเข้ามายลโฉมชมความงามของเธอได้ไม่น้อย
ผู้เข้าชมงานต่างตื่นตากับการแต่งกายชุดประจำชาติ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ ในวัยต่างๆ เดินเที่ยวชม และอวดความเป็นเอกลักษณ์ของชาติตนเองไปทั่วงาน ไม่ว่าแต่ละชาติจะมีสีผิว หรือมีที่มาจากเผ่าพันธุ์ใด ต่างต้องการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตนเองโดยไม่ลดละ
การจัดงานของชุมชนไทยใน Edmonton ปีนี้มีการแสดงกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรม การฟ้อนรำ อาหารไทย สินค้า OTOP การส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ซึ่งได้รับการชื่นชม จนได้รับรางวัล The Management Top Trophy Award จากงานดังกล่าว
รัชนันท์ ธนนันท์ รองกงสุลไทย นครแวนคูเวอร์ บอกว่า ถือเป็นสิ่งน่าภาคภูมิใจที่เราแสดงออกถึงความสามัคคีของชุมชนไทย ส่วนสินค้า OTOP และการท่องเที่ยวของไทย เป็นสิ่งที่เราโปรโมตให้นักท่องเที่ยวเกิดความสนใจและต้องการเดินทางไปเมืองไทยในอนาคต
ขณะที่ Maurice Rousseau ผู้ประสานงานของ Alberta Thai Association (ATA) บอกว่า งานดังกล่าวมิได้เป็นเพียงการแสดง ออกศิลปวัฒนธรรมเท่านั้น แต่เป็นการแสดงออกถึงพลังของชุมชนไทยที่เป็นชุมชนเล็กๆ ที่เราสามารถมีกิจกรรมต่างๆ ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชุมชนชาติอื่นที่มีขนาดใหญ่มากกว่าเราหลายเท่า และเราทำได้ดีจนได้รับรางวัลครั้งนี้
Food Bank เป็นองค์กรการกุศลที่ได้รับผลพลอยได้จากการรับบริจาคจากผู้เข้าชมงานเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคที่ได้รับจำนวนมากถึง 29,000 กิโลกรัม ที่จะส่งผ่านไปยังผู้ด้อยโอกาสในสังคมตามชุมชนต่างๆ
Lan Taylor President From Heritage Festival ได้ตั้งเป้าหมายและแผนงานไว้ล่วงหน้าว่า งานดังกล่าวจะต้องเป็น The Largest Multicultural Festival in North America
รายได้ของการจัดงานครั้งนี้คงไม่พ้นเรื่องการจำหน่ายอาหารประมาณ 1.5 ล้านแคนาเดียน (51 ล้านบาท) ทั้งนี้ไม่รวมสินค้าพื้นเมืองของชาติต่างๆ อีกประมาณมากกว่า 2 แสนแคนาเดียน (7 ล้านบาท) แม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่สูงนัก หากเปรียบเทียบกับการจัดงานอื่นๆ แต่เจตนารมณ์สูงสุดที่ทุกคนยอมรับ คือการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และอยู่ร่วมกันได้บนพื้นฐานของความแตกต่างกัน
|
|
|
|
|