ปลายปี 2544 การเจรจาขายโรงไฟฟ้าของทีพีไอ ให้กับบริษัทบ้านปู พาวเวอร์
ทำไม่ทันตามที่กำหนดไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งระบุให้ขายทรัพย์สินรองมูลค่า
200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้เสร็จภายในวันที่ 31 ก.พ.2544 เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส
ในฐานะผู้บริหารแผน จึงได้เรียกประชุมเจ้าหนี้เพื่อขอแก้ไขสาระสำคัญของแผนในส่วนการขายทรัพย์สินรอง
โดยให้เลื่อนกำหนดการออกไปจากปลายปี 2544 โดยกำหนดประชุมในเดือนกุมภาพันธ์
2545
8 ก.พ. 2545 คณะกรรมการเจ้าหนี้ ได้จัดการประชุมเจ้าหนี้เพื่อโหวตการแก้ไขสาระสำคัญของแผน
มีเจ้าหนี้มาประชุมทั้งสิ้น 95 ราย คิดเป็น 92.65% ของมูลหนี้ที่เหลืออยู่
2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
13 ก.พ. มีการเปิดเผยผลการประชุมเจ้าหนี้เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ว่า เจ้าหนี้
91.06% เห็นชอบกับการแก้ไขสาระสำคัญของแผน แต่มีเจ้าหนี้ 2 ราย ซึ่งมีมูลหนี้รวม
1.59% ของมูลหนี้ไม่เห็นชอบกับการเลื่อนระยะเวลา มีผลให้คณะกรรมการเจ้าหนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ
โดยเลื่อนกำหนดเวลาขายทรัพย์สินรองออกไปได้
9 เม.ย. คณะกรรมการเจ้าหนี้ ได้ขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เป็นผู้จัดการประชุมเจ้าหนี้เพื่อลงมติในเรื่องนี้อีกครั้ง
โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นัดประชุมในวันที่ 7 และ 8 พ.ค.
3 พ.ค. ประชัยได้ยื่นหนังสือคัดค้านการนัดประชุม โดยยกประเด็นที่ถูกกำหนดไว้ในแผนว่าการจะเปลี่ยนสาระสำคัญของแผนฟื้นฟู
ต้องมีเจ้าหนี้เห็นชอบไม่ต่ำกว่า 75% และจะต้องไม่มีเจ้าหนี้รายใดคัดค้าน
หากมีเจ้าหนี้แม้เพียงรายเดียวคัดค้าน คณะกรรมการเจ้าหนี้ก็ไม่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญได้
7-8 พ.ค. เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จัดการประชุมเจ้าหนี้ ซึ่งเจ้าหนี้ส่วนใหญ่เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ
โดยให้เลื่อนการขายทรัพย์สินไปได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2546 และนำมตินี้ไปขอความเห็นชอบจากศาลล้มละลายกลาง
10 พ.ค. ประชัยเข้าพบจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร้องเรียนว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฝืนคำร้องของเขา
โดยจัดการประชุมเจ้าหนี้ เพื่อให้ได้มติในการแก้ไขสาระสำคัญของแผนฟื้นฟู
ประเด็นเรื่องการขายทรัพย์สิน กระทรวงยุติธรรมรับคำร้องเพราะเห็นว่ามีมูล
กลางเดือน ก.ค. พนักงานทีพีไอที่จังหวัดระยองเริ่มมีการชุมนุมประท้วง ไม่ยินยอมให้มีการขายโรงไฟฟ้า
18 ก.ค. ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งไม่ให้มีการแก้ไขสาระสำคัญของแผนฟื้นฟู
เรื่องการขายทรัพย์สินรอง เป็นผลให้การเจรจา ขายโรงไฟฟ้าให้กับบ้านปูต้องสะดุดลง
ทั้งๆ ที่ได้เตรียมการจัดพิธีเซ็นสัญญาซื้อขายกันไว้แล้ว
30 ก.ค. การชุมนุมประท้วงการขายโรงไฟฟ้า ของพนักงานทีพีไอที่จังหวัดระยองยืดเยื้อ
และรุนแรงขึ้น จนกระทรวงยุติธรรม ต้องมีการตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาผลกระทบอันเกิดจากการดำเนินงาน
ตามแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอ โดยคณะกรรมการชุดนี้นัดประชุมนัดแรก ในวันที่ 2
กันยายน
15 ส.ค. บริษัทบ้านปู พาวเวอร์ ยกเลิกแผนซื้อโรงไฟฟ้าจากทีพีไอ
30 ส.ค. สิปปนนท์ เกตุทัต ประกาศลาออกจากคณะกรรมการชุดที่กระทรวงยุติธรรมจัดตั้งขึ้น
2 ก.ย. มีการประชุมคณะกรรมการครั้งแรก ซึ่งปรากฏว่าคณะกรรมการเจ้าหนี้ และผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอ
ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ทำให้ที่ประชุมไม่สามารถหาข้อสรุปอะไรได้