หากได้ยินฟลอริสต์อย่าง Fiona Stace แห่ง Buds & Bowers ในซิดนีย์แนะนำเรื่องการจัดดอกทิวลิปว่า "นำทิวลิปจัดลงในแจกัน แล้วปล่อยให้แห้งไปเอง มันจะแลดูเป็นธรรมชาติ"

ฟังดูก็ง่ายๆ ไม่มีอะไรวุ่นวาย แต่นิตยสาร House & Garden/May 2005 แย้งว่า ถ้าไม่รู้จักทิวลิปดีพอ คุณอาจทำให้ดอกไม้สวยสง่าสูงด้วยคุณค่านี้ด้อยค่าและเฉาคามืออย่างน่าเสียดาย

ฟลอริสต์ให้ความสำคัญกับทิวลิปในลำดับต้นๆ เพราะเป็นดอกไม้ที่เมื่อนำมาจัดแจกันหรือเข้าช่อแล้วแลดูสวยสง่าอยู่เสมอ คุณจะใช้ทิวลิปล้วนๆ ก็ไม่ผิดกติกา หรือจะจัดร่วมกับไม้ดอกที่มีรูปทรงของดอกเป็นกระเปาะอย่าง daffodils หรือ hyacinths ก็เลอเลิศทั้งนั้น

เมื่อตัดทิวลิปมาแล้ว คุณจำเป็นต้องนำมาเตรียมให้พร้อมก่อนนำไปจัดแจกัน

นำดอกทิวลิปที่ตัดก้านสูงเสมอกันมารวบเป็นช่อ แล้วแช่ลงในแจกันหรือถังน้ำที่ล็อกช่อทิวลิปเอาไว้พอดี แช่น้ำเย็นไว้อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ก้านดูดน้ำเต็มที่ สิ่งสำคัญยิ่งยวดคือ ต้องให้ก้านตั้งตรงอยู่ตลอดเวลา เพราะขณะดูดน้ำทิวลิปจะจัดรูปทรงของตัวเองไปด้วย

ถ้าคุณจะจัด daffodils ผสมกับทิวลิป อย่านำไปแช่รวมกันเด็ดขาด

ให้นำ daffodils แช่น้ำในแจกันอื่นต่างหากราว 24 ชั่วโมง เพื่อให้คายสารพิษที่อยู่ในน้ำหล่อเลี้ยงออกมาเสียก่อน

เพราะทิวลิปเป็นไม้ดอกเมืองหนาวที่คุ้นเคยกับแสงแดดอ่อนๆ ของประเทศแถบยุโรป Fiona จึงแนะนำให้วางแจกันทิวลิปไว้ในบ้านบริเวณที่มีอากาศเย็นให้หลีกเลี่ยงจุดที่มีแสงแดดส่องถึง วิธีนี้จะทำให้ทิวลิปอยู่ได้ทนนานขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทิวลิปมีธรรมชาติอย่างหนึ่งคือ ต้องการแสงแดดเพื่อการเจริญเติบโตเหมือนต้นไม้ใบเขียวอื่นๆ ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ก้านดอกทิวลิปนั้นโค้งน้อยๆ เพื่อหันออกหาแสงแดดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเหตุผลอธิบายว่า ทำไมดอกทิวลิปจึงมีก้านโค้งเล็กน้อย และกลายเป็นความสวยงามที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกต่างหาก เมื่อจัดแจกันด้วยทิวลิปก็ให้ฉกฉวยประโยชน์จากคุณลักษณะนี้ เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นงาน "ต้นตำรับ" อย่างแท้จริง