งาน ICT Expo 2005 ยังคงมีสีสันและภาพที่ชัดเจน แม้ก่อนงานจะเริ่มเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง ได้เกิดการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกระทรวงไอซีที ที่เป็นเจ้าภาพหลักอย่างกะทันหัน

แม้ก่อนหน้างาน Bangkok Inter-national ICT Expo 2005 จะเริ่มขึ้นเพียงคืน เดียว ได้มีเหตุการณ์สำคัญคือการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือไอซีที อย่างกะทันหัน อันเป็นผลมาจากการปรับคณะรัฐมนตรีชุดทักษิณ 2/2 ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้งานดังกล่าวกร่อยลงอย่างที่ใครหลายคนคิด

งาน Bangkok International ICT Expo 2005 ปีที่สองของการจัดงาน ผู้จัดตัดสินใจเหมาพื้นที่จัดงานตั้งแต่ Hall 1-8 ของอิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นสถานที่แสดงเทคโนโลยีมากมายภายใต้คอนเซ็ปต์ "ICT for the Next Generation" ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วันตั้งแต่วันที่ 3-7 สิงหาคมที่ผ่านมา

แม้ผู้ร่วมงานหลายรายจะได้รับการติดต่อให้มาออกงานแบบขอความร่วมมือจาก กระทรวงไอซีทีก็ตามที แต่ก็ใช่ว่าสีสันในการตกแต่งบูธ และเทคโนโลยีที่นำมาจัดแสดงจะลดน้อยลงหรือถูกจำกัดลงแต่อย่างใด

หลายๆ ค่ายผู้ผลิต หรือผู้พัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารยังคงให้ความสำคัญกับการตกแต่งบูธให้เตะตา เช่นเดียวกันกับการขนเอาเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ของตัวเอง มาอวดโฉมผู้เข้าเยี่ยมชม

10.00 น. ของวันที่ 3 สิงหาคม คือกำหนดการเปิดงาน ขณะที่ 14.00 น. คือเวลา พิธีการเปิดอย่างเป็นทางการ โดยมีสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธาน แต่ 9.00 น. ก่อนงาน เปิด กลับเป็นเวลาที่ค่ายทรู คอร์ปอเรชั่น ใช้เป็นฤกษ์ในการแถลงข่าวเปิดตัวบริการใหม่ล่าสุดของบริษัทภายในบูธราคาหลายล้านบาท ในงานดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวหลายชีวิตลงทุนตื่นนอนตั้งแต่เช้า เพื่อเดินทางไปยังบูธของทรูในงาน Bangkok International ICT Expo 2005 ทั้งเพื่อเข้าร่วมงานแถลงข่าวและชมบูธแสดง เทคโนโลยีมากมายของทรูด้วย

แดงขาว ยังคงเป็นสีหลักในการออก แบบและตกแต่งบูธของทรู ในปีนี้คอนเซ็ปต์หลักของบูธก็คือการเติมเต็มให้กับชีวิตด้วยเทคโนโลยีจากทรู ผู้คนที่เดินไปมาเห็นการแบ่งภาคการใช้ชีวิตแบบต่างๆ ในแต่ละวันโดยมีเทคโนโลยีของทรูแทรกอยู่ด้วยทุกมุมมอง

ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่อย่างเอไอเอส ลงทุนยกเอา "Future Lab" ห้องทำงานของทีมหัวกะทิที่ทำหน้าที่คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ บนโทรศัพท์มือถือมาแสดง หลายคนจึงเห็นตู้ขายบะหมี่สำเร็จรูป, ตู้ขายกาแฟแบบถ้วย และตู้ขายน้ำอัดลม ที่จ่ายเงินแบบตัดมูลค่าผ่านโทรศัพท์แบบพิเศษที่ฝังชิปสมาร์ทการ์ดเอาไว้ข้างใน ซึ่งทีมงานเตรียมนำออกมาใช้งานจริงๆ ในเร็ววันนี้

รวมถึง 2D Barcode เทคโนโลยีการอ่านบาร์โค้ดจากโทรศัพท์มือถือผ่านทางบลูทูธ เพื่อเข้าถึงบริการมากมายของเอไอเอส เป็นจุดหนึ่งที่เราจะได้เห็นกันในบูธ พนักงาน สาวแนะนำบริการดังกล่าวว่า เจ้าของโทรศัพท์ มือถือเพียง แต่ดาวน์โหลดโปรแกรมการอ่านบาร์โค้ดแบบใหม่มาติดตั้งไว้ในโทรศัพท์มือถือ ที่มีบลูทูธ เมื่อเดินไปยังจุดไหนหรือแม้แต่เห็น บาร์โค้ดแบบใหม่ที่ไหนก็ตาม ก็สามารถใช้มือถืออ่านบาร์โค้ดนั้นๆ ได้ทันที โดยแต่ละบาร์โค้ดจะแสดงถึงบริการนับร้อยที่แตกต่างกันออกไป เช่น บาร์โค้ดที่จะนำเจ้าของมือถือ เข้าไปยังบริการดาวน์โหลดเสียงเรียกเข้า, บริการดูดวง หรือบริการสอบถามสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้าที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ

ICT Expo 2005 ปีนี้ยังถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ผลิตหลายรายในการเปิดตัวบริษัท ในประเทศไทย เช่น Matsunichi ผู้ผลิตเครื่องเล่น MP3 แบรนด์ฮ่องกง ที่แม้นำเข้ามาขายในเมืองไทยเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่มาเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศไทยในงานดังกล่าวด้วย

รวมถึง Qualcomm เจ้าของเทคโน โลยีโทรศัพท์มือถือระดับโลกลงทุนหลายล้านบาทตกแต่งบูธโทนสีขาว เทา และดำ เพื่อแสดงเทคโนโลยีการสื่อสารของตนเป็นครั้งแรก ในประเทศไทย และ ZTE บริษัทผู้นำด้านการ สื่อสารที่เพิ่งเข้ามาบุกตลาดในเมืองไทยได้ไม่นาน ก็ตัดสินใจขนทีมงานกว่า 20 ชีวิตจากจีนมาร่วมงาน พร้อมๆ กับขนเทคโนโลยีสารพัดจากจีนมาเปิดตัวในงานดังกล่าวด้วย ทั้งโทรศัพท์มือถือ 3G และเทคโนโลยีโครงข่ายการสื่อสารผ่าน IP อื่นๆ อีกมากมาย

ต้องยอมรับว่า ICT Expo 2005 ซึ่งจัดมาเป็นครั้งที่สองในปีนี้ สร้างสีสันได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แม้บางพื้นที่จะกลาย เป็นพื้นที่ว่างไปบ้างก็ตาม แต่ภาพของการจัดงานค่อนข้างชัดเจนยิ่งขึ้น กระทรวงไอซีที เองคงเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีมากกว่าการ ขายของ แม้จะมีส่วนของการขายของแยกออกมาให้เห็นกันบ้างก็ตาม ก็ได้แต่หวังว่า ปีหน้าจะเห็นพื้นที่ว่างๆ เต็มแน่นไปด้วยบูธของค่ายต่างๆ มากขึ้น แม้จะยังคงใช้วิธีขอความร่วมมือแบบเดิม แต่ผลดีก็ตกถึงมือผู้บริโภคที่เข้าไปเดินเยี่ยมชมงานนั่นเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน