กรุงศรี จีอี หนึ่งในผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ของไทย วางกลยุทธ์เพิ่มประเภทธุรกิจที่รับบัตรเครดิตและใช้แคมเปญเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้ใช้บัตรแทนเงินสดมากขึ้น

หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยออกกฎมาควบคุมธุรกิจบัตรเครดิตของผู้ประกอบการที่ไม่ใช่ สถาบันการเงินแล้ว การจะทำตลาดเพื่อเพิ่มจำนวน ผู้ถือบัตรทำได้ยากขึ้น ผู้ประกอบการแต่ละรายจึงมุ่งไปที่การกระตุ้นให้ผู้ถือบัตรชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยบัตรเครดิตแทนการใช้เงินสดมากขึ้น รวมทั้งการเปิดตลาดใหม่ๆ ที่จะให้ลูกค้าสามารถชำระด้วยบัตรเครดิตได้

"การทำตลาดตอนนี้ต้องช่วยกัน ส่วนหนึ่งผู้ออกบัตรต้องช่วยตัวเอง อีกส่วนหนึ่งทางวีซ่าหรือมาสเตอร์การ์ดต้องช่วยเราด้วย หาเซกเมนต์ใหม่ๆเข้ามาเป็นการ replace cash" สุขดี จงมั่นคง กรรมการผู้อำนวยการ บัตรเครดิตธนาคารและบัตรเครดิตร้านค้า จีอี คอนซูเมอร์ ไฟแนนซ์ ผู้ให้บริการ บัตรเครดิตกรุงศรี จีอี กล่าวกับ "ผู้จัดการ"

ที่ต้องใช้กลยุทธ์นี้ในการขยายตลาดก็เพราะตามปกติแล้วผู้ถือบัตรเครดิตแต่ละรายจะมีวงเงินใช้จ่ายแต่ละเดือนที่แน่นอน เพียงแต่จะแบ่งสัดส่วนระหว่างการชำระด้วยบัตรเครดิตและเงินสด อย่างไรเท่านั้น การทำตลาดของผู้ประกอบการบัตรเครดิตจึงต้องมุ่งเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคให้ใช้บัตรเครดิตแทนเงินสดให้มากที่สุด

ในกรณีของกรุงศรี จีอี ได้พยายามเจาะตลาดใหม่ๆ อาทิ ปั๊มน้ำมัน โรงพยาบาลและสถาบันการศึกษา หรือล่าสุดคือธุรกิจประกันชีวิต โดยร่วมมือกับบริษัท อยุธยาอลิอันซ์ ซี.พี. ออกบัตรเครดิตเอเอซีพี วีซ่า ซึ่งนอกจากจะได้สิทธิประโยชน์ทั่วไปของกรุงศรี จีอีแล้ว ยังให้สิทธิประโยชน์ เพิ่มเติมด้วยการคุ้มครองอุบัติเหตุผู้สมัครเป็นเวลา 3 เดือนฟรี และยังให้ ลูกค้าสามารถชำระค่าเบี้ยประกันด้วยบัตรกรุงศรี จีอีได้ รวมทั้งการร่วมมือกับ บลจ.อยุธยาเจเอฟ ให้หักเงินจากบัตรเครดิตกรุงศรี จีอี ไปซื้อหน่วย ลงทุนของเอเจเอฟโดยอัตโนมัติทุกเดือนตามวงเงินที่ผู้ถือบัตรกำหนด ซึ่งธุรกิจประกันชีวิตและกองทุนรวม ถือเป็น 2 ตลาดใหม่ที่ยังมีสัดส่วนการใช้บัตรเครดิตน้อยและมีโอกาสโตได้อีกมาก

อีกตลาดหนึ่งที่กรุงศรีฯ เพิ่งเข้ามาทำอย่างจริงจัง หลังจากปล่อยให้เจ้าอื่นทำตลาดมาหลายปีแล้วก็คือ การผ่อนชำระสินค้าหรือบริการในอัตราดอกเบี้ย 0% ในชื่อว่า กรุงศรีสมาร์ทแพลน ร่วมมือกับเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องดนตรี อุปกรณ์กีฬาหลากหลายยี่ห้อ โดยคาดว่าจะมียอดใช้จ่ายผ่าน โปรแกรมนี้เดือนละประมาณ 100 ล้านบาท

นอกจากตลาดดังกล่าวแล้ว บริษัทท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีมูลค่าการใช้จ่ายสูงแต่ยังมีการชำระผ่านบัตรเครดิตไม่มากนัก เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมักจะชาร์จค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากลูกค้าที่ใช้บัตร ซึ่งขณะนี้ทั้ง Visa และ Mastercard กำลังเจรจาหาเงื่อนไขที่จะช่วยให้ลูกค้าชำระ ผ่านบัตรเครดิตได้ง่ายขึ้นและไม่ถูกชาร์จราคาเพิ่ม

ไม่เฉพาะการเปิดตลาดใหม่เท่านั้น การออกแคมเปญกระตุ้นให้ลูกค้ามีการใช้บัตรมากขึ้นก็เป็นสิ่งจำเป็น ปัจจุบันนอกจากคะแนนสะสมที่ได้จากยอดการใช้จ่ายที่สามารถเก็บเอาไว้แลกสินค้าต่างๆ แล้ว ผู้ให้บริการแต่ละรายยังพยายามหาแคมเปญให้กับผู้ถือบัตร ทั้งในรูปของส่วนลด ของแถม หรือการชิงโชคมาดึงดูดให้ลูกค้าเลือกใช้บัตรของตนด้วย ซึ่งการจะทำแคมเปญเช่นนี้ระบบฐานข้อมูลลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด

"การทำโปรโมชั่นของเราจะเจาะไปถึงตัวร้านค้าเลย ถ้าเป็นร้านที่ลูกค้าชอบไปเราจะติดต่อขอสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า เราไม่ได้ดูแค่ว่าใช้อะไร แต่ดูไปถึงว่าใช้ที่ไหน อันนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญเลย ถ้าข้อมูลใครดีกว่าคุณก็ชนะไป"