Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 สิงหาคม 2548
พิษเศรษฐกิจทำสินเชื่อบ้านโตแค่10%ธ.กสิกรไทยอัดแคมเปญเพิ่มยอดขาย             
 


   
search resources

Real Estate
Loan




สินเชื่อบ้านทั้งระบบปีนี้หดตัวเหลือ 10% จากเดิมที่คาดการณ์เติบโต 16% เหตุราคาน้ำมันพุ่ง เศรษฐกิจชะลอลง รายได้ประชาชนไม่เพิ่ม ส่งผลกำลังซื้อลด "กสิกรไทย" เน้นออกแคมเปญกระตุ้นยอดสินเชื่อต่อเนื่อง ล่าสุดแคมเปญซื้อบ้านแถมบ้าน 3 เดือน เพิ่มยอดสินเชื่อกว่า 7 พันล้านบาท คาดทั้งปีสินเชื่อจะขยายตัวตามเป้า แย้มเดือนตุลาคมอาจจะทบทวนปรับดอกเบี้ยบ้านเพิ่มตามกลไกตลาด

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มลดลง จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยคาดว่าสิ้นปีสินเชื่อบ้านทั้งระบบน่าจะขยายตัวลดลงเหลือ 10% จากปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตประมาณ 16% เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลง ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น รายได้คงที่ ทำให้ กำลังซื้อของประชาชนลดลง

ในส่วนของธนาคารกสิกรไทยนั้น ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง ทั้งปีสินเชื่อบ้าน ของธนาคารตามเป้าหมาย โดยสามารถปล่อยสินเชื่อทั้งปีประมาณ 71,000 ล้านบาท เป็นสินเชื่อใหม่สุทธิประมาณ 22,000-23,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นสุทธิ 11,000 ล้านบาทธนาคารได้ออกแคมเปญอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดสินเชื่อ

โดยจากการออกแคมเปญซื้อ บ้านได้บ้าน ปรากฏว่าระยะเวลา 3 เดือน สามารถเพิ่มยอดสินเชื่อได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ เช่น ซื้อบ้านแถมแจ๋ว นับเป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้านอกเหนือจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับที่ต่ำ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าของธนาคาร โดยขณะนี้ตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดของธนาคารขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"ขณะนี้หากนับมาร์เกตแชร์ของทั้งหมด ที่จะรวมธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน แล้วธนาคารกสิกรไทยมีมาร์เกตแชร์ที่ระดับ 6% หากนับเฉพาะธนาคารพาณิชย์มาร์เกตแชร์อยู่ที่ระดับ 12-13% การออกแคมเปญอย่างต่อเนื่อง นับว่าประสบความสำเร็จที่จะช่วยกระตุ้นยอดสินเชื่อเป็นอย่างดี"

สำหรับแนวโน้มภาวะ ดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น การที่จะใช้ลูกเล่นแคมเปญของอัตราดอกเบี้ยนั้น คงจะอยู่ในทิศทางของอัตราดอกเบี้ยคงที่อยู่ เพื่อชี้ชัดถึงภาระของการผ่อนชำระลูกค้าได้อย่างชัดเจน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นลูกค้าต้องการที่จะลดความเสี่ยงเรื่องของอัตราดอกเบี้ยด้วย จึงมีความต้องการอัตราดอกเบี้ยคงที่อยู่ แต่ระยะเวลาของการคงที่ดอกเบี้ยจะสั้นลง จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2 ปี หรือหากเป็นระยะยาวกว่านี้ อาจจะต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นสูงกว่าช่วงปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคง เข้าไปแข่งขันในรูปแบบของราคาบ้าง เพื่อให้อยู่ในกลุ่มของอัตราดอกเบี้ยขนาดใหญ่ ซึ่งภาวะขณะนี้ทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ธนาคารอาจจะมีการทบทวน อัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน และภายในเดือนตุลาคมหากมีธนาคารพาณิชย์อื่นๆปรับดอกเบี้ย ขึ้น ธนาคารคงจะพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ส่วนจะเป็นเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับภาวะตลาดด้วย

"ตอนนี้มีหลายแบงก์ทยอยปรับดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านขึ้นบ้างแล้ว ซึ่งจะสังเกตได้จากแคมเปญสินเชื่อคงที่ จะเหลือประมาณ 1-3 ปี หลังจากนั้นจะคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ บวกที่เพิ่มขึ้นจากเดิม หรือบางรายมีการประกาศดอกเบี้ยคงที่แต่อัตราดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา" นายชาติชาย กล่าว

ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยว่า ปัจจุบันส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์เริ่มขยับขึ้นแล้ว ซึ่งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการออม ได้ อย่างไรก็ตามจะดูดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท.อย่างเดียวไม่ได้ต้องดูอัตราดอกเบี้ยในตลาดด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธปท. ยังคงหารือกับกระทรวงการคลัง ในเรื่องของมาตรการการออมเพื่อช่วยลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งจะมีหลายมาตรการออกมา ข้อเสนอแนะส่วนใหญ่ มีความเห็นตรงกัน แต่มาตรการที่กระทบกับภาษีนั้นทางกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ชี้แจงเอง ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นการออมจะเน้นการออมภาคประชาชนเป็นหลัก เนื่องจาก ในส่วนการออมของภาครัฐบาลและภาคธุรกิจเอกชนอยู่ในระดับดีอยู่แล้ว

ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคาร กสิกรไทย กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นการออมว่า ถือว่าเป็นมาตรการที่ดีควรจะทำมานาน แล้ว โดยในส่วนของธนาคารกสิกรไทยเองก็มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมา เพื่อเป็น แรงจูงใจในการออม อย่างไรก็ตามการออมควรทำในระยะยาวไม่ใช่เกิดปัญหาแล้วจึงจะดำเนินการ n   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us