|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กันยายน 2548
|
|
"Pay less : Get more" ตัวหนังสือภาษาอังกฤษเพียงไม่กี่ตัวอักษร ที่แปลความหมายได้ตรงตัวและกินใจผู้อ่านได้ไม่แพ้คำอื่นๆ กลาย เป็นชื่อแคมเปญล่าสุดของทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมพันธมิตรค่ายบัตรเครดิต 3 ราย คือค่ายเอชเอสบีซี, กรุงไทย และสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน ที่เพิ่งจะผ่านพ้นการเปิดตัวและแถลงข่าวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา
นับเป็นความพยายามอย่างต่อเนื่องอีกครั้งของค่ายทรู คอร์ปอเรชั่น หลังจากเมื่อหลายเดือนก่อนจูงมือค่ายวีซ่า มาเป็นพันธมิตรในการเปิดช่องทางให้ลูกค้าที่ใช้บริการทุกรูปแบบของทรู สามารถชำระค่าบริการรายเดือนผ่านบัตรเครดิต เพื่อเพิ่มความสะดวกในการจับจ่ายสินค้าของทรูแทนการใช้จ่ายผ่านเคาน์เตอร์หรือศูนย์บริการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แคมเปญ "Pay less : Get more" ก็เป็นอีกหนึ่งในความพยายามรอบใหม่ของทรูที่พยายามเปิดช่องทางในการจ่ายค่าบริการของตนให้กับลูกค้าได้สะดวกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายให้มากขึ้นด้วยในทางเดียวกัน แตกต่างกันก็ตรงที่แคมเปญใหม่ที่ทรูทำร่วมกันกับค่ายบัตรเครดิตทั้ง 3 รายนี้ จำกัดเอาไว้เฉพาะการชำระค่าบริการรายเดือนอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์ของทรูเท่านั้น หาใช่เป็นการชำระค่าบริการรายเดือนสินค้าอื่นๆ ของทรู อย่างเช่นที่เคยทำร่วมกันกับวีซ่าแต่อย่างใด
ลูกค้าใหม่ที่เพิ่งจะตัดสินใจสมัครใช้บริการบรอดแบนด์ความเร็วที่ 512 กิโลบิตต่อวินาที ไม่เพียงแต่จะได้สิทธิพิเศษจากทรู อาทิ ได้รับการติดตั้งโทรศัพท์เลขหมายฟรี รับโมเด็มบรอดแบนด์ฟรี หรือแม้แต่ได้รับสิทธิ์ในการจ่ายค่าบริการรายเดือนเท่ากับค่าบริการรายเดือนของบรอดแบนด์ความเร็ว 256 กิโลบิตต่อวินาทีคือ 590 บาทต่อเดือน แทนที่จะเสียค่าบริการเต็มราคาคือ 750 บาทต่อเดือน นานถึง 6 เดือน
ลูกค้ายังได้รับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตทั้ง 3 ราย ทั้งจากการสะสมแต้ม จากการชำระค่าบริการในแต่ละเดือน การแลกของรางวัล หรือแม้แต่รับเงินคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิตด้วยในบางเจ้า
ผู้บริหารของทรูเองไม่เพียงแต่ย้ำว่าเป็นการอำนวยความสะดวกในการชำระค่าบริการบรอดแบนด์ให้กับลูกค้าของตนเท่านั้น แต่ยังหวังว่าการจับมือกับค่ายบัตรเครดิตจะสามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของกลุ่มนักธุรกิจหรือคนทำงานได้ยิ่งขึ้นด้วย เนื่องจากทุกวันนี้กลุ่มลูกค้าบรอดแบนด์ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มนักธุรกิจและพนักงานบริษัท นอกเหนือจากนักศึกษาที่เป็นกลุ่มรองลงมา
ความหมายแอบแฝงอีกอย่างหนึ่งสำหรับแคมเปญนี้ก็คือ การหวังที่จะเพิ่มจำนวนกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการบรอดแบนด์ในระดับความเร็ว 512 กิโลบิตต่อวินาที ซึ่งค่าบริการรายเดือนสูงกว่าให้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเมื่อเทียบกันแล้ว ปัจจุบันลูกค้าที่เลือกใช้ 256 กิโลบิตต่อวินาทีนั้น มีสัดส่วนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการบรอดแบนด์ในระดับความเร็ว 512 กิโลบิตต่อวินาที มีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ของฐานลูกค้าบรอดแบนด์กว่า 300,000 รายในปัจจุบัน
การเปิดช่องให้บรอดแบนด์ 512 กิโลบิตต่อวินาที ราคาเท่า 256 กิโลบิตต่อวินาที นานหลายเดือน อาจจะเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดความเคยชินในเรื่องการใช้ความเร็ว เช่นเดียวกันกับการใช้จ่ายค่าบริการที่หักผ่านบัตรเครดิตทุกเดือนไปด้วย แค่เพียงเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนคนใช้บรอดแบนด์ความเร็ว 512 กิโลบิตต่อวินาที เพิ่มขึ้นอีก 5 เปอร์เซ็นต์ ก็เป็นยอดรายได้มหาศาลเลยทีเดียว
|
|
|
|
|