Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2548








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2548
หาคนบริหารพอร์ต             
 


   
www resources

โฮมเพจ ภัทรประกันภัย

   
search resources

ภัทรประกันภัย, บมจ.
Insurance




ถึงแม้ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ของภัทรประกันภัยที่มีกำไรสุทธิ 99 ล้านบาท จะลดลงจากงวดเดียวกันของปีที่แล้วถึง 17% แต่ผู้บริหารก็ยังมั่นใจในการดำเนินงาน เห็นได้จากการปรับเพิ่มเป้าเบี้ยประกันภัยรับจากเดิมที่ตั้งไว้ 1,400 ล้านบาท ขึ้นอีก 100 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 25% ที่มาของความมั่นใจดังกล่าว มาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับในงวด 6 เดือนแรกที่ทำได้ถึง 758 ล้านบาท

"การขยายตัวของเบี้ยประกันภัยรับของเรายังดีอยู่ แต่ที่ผลการดำเนินงานมีกำไรลดลงเป็นเพราะผลจากการลดลงของรายได้จากการลงทุนเป็นหลัก" กฤตยา ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ ภัทรประกันภัยกล่าว

ด้วยเหตุนี้เอง ในครึ่งปีหลังนี้ภัทรประกันภัยจึงให้ความสำคัญกับการดูแลพอร์ตการลงทุนมากขึ้น โดยจะมีการปรับเพิ่มคณะกรรมการลงทุน ให้มีกรรมการที่มีความชำนาญด้านการลงทุน ทั้งในตลาดทุน ตลาดเงิน และตลาดตราสาร เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับปัจจัยต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศ โดยตั้งเป้าผลตอบแทนการลงทุนเอาไว้ที่ 7% เป็นอย่างต่ำ

นอกจากนี้ยังจะคัดเลือกหาบริษัทที่เชี่ยวชาญการลงทุนเพื่อมาดูแลพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่ของบริษัท เพื่อสร้างผลตอบแทนให้สูงขึ้นจากปัจจุบัน โดยพอร์ตมูลค่า 3,000 ล้านบาท ที่มีอยู่คาดว่าจะเก็บไว้บริหารเองเพียง 300-500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะให้บริษัทจัดการลงทุนมาดูแลทั้งหมด ซึ่งในขณะนี้มีการเสนอตัวเข้ามาบ้างแล้ว

สำหรับในด้านการรับประกันภัยได้มีการวางนโยบายเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าเบี้ยประกันภัยรับ 1,500 ล้านบาทที่ตั้งไว้ โดยการต่อยอดการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและการเพิ่มช่องทางตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะโครงการ Bancassurance ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าธนาคารและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ธนาคารในการขาย ซึ่งได้เตรียมการมาแล้วกว่า 1 ปีและคาดว่าจะได้เบี้ยประกันไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท รวมทั้งการทำตลาดลูกค้ารายย่อย ทั้งทางเทเลมาร์เก็ตติ้ง ไดเร็กต์เมล์ รวมถึงการใช้ฐานข้อมูลลูกค้า บางส่วนร่วมกับพันธมิตร ซึ่งถือเป็นการเปิดช่องทางการขายใหม่ในลูกค้ากลุ่มใหม่เพื่อขยายการเติบโตของเบี้ยประกัน

นอกจากนี้ยังจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ประกันภัยสินเชื่อทางการค้า ประกันภัยอัญมณี ประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพ เช่น แพทย์ วิศวกร สถาปนิก และนักบัญชี

สำหรับธุรกิจประกันภัยในปีนี้ กรมการประกันภัยคาดว่าเบี้ยประกันภัยจะมีการขยายตัวระหว่าง 9.7-12.7% หรือคิดเป็น การเพิ่มขึ้นประมาณ 7,800-10,260 ล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น และในอนาคตอาจได้เห็นการควบรวมของบริษัทประกันภัยมากขึ้นเพื่อเตรียมตัวรับการเปิดเสรีทางการเงิน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us