Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2548








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2548
จากวิกฤติสู่โอกาส             
โดย ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

เครือซิเมนต์ไทย
เยื่อกระดาษสยาม, บมจ.
Pulp and Paper
Packaging




- จำได้ว่าในช่วงวิกฤติ ทาง McKinsey ให้เครือซิเมนต์ไทย ขายธุรกิจกระดาษออกไป แล้วกลับมาเป็นธุรกิจหลักของเครือได้อย่างไร

การ restructure ของเครือซิเมนต์ไทยเราทำภายในของเรากันเองก่อน แล้วก็ประเมินว่าธุรกิจไหนที่มีศักยภาพน่าจะอยู่ได้หรือไม่ได้ แล้วก็เอา McKinsey เข้ามาในช่วงจังหวะที่เรากำลังทำอยู่พอดี ทำให้เรามีข้อมูลมาคุยกับเขาได้ง่าย เขามาดูข้อมูลแล้วก็ verify แล้วก็ทำเป็นข้อสรุปออกมา ซึ่งก็เกือบจะเหมือนที่เราดูเองทั้งหมด

ในส่วนของธุรกิจกระดาษตอนนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน ธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ให้ทำการปรับโครงสร้าง ส่วนกระดาษพิมพ์เขียนเขาแนะนำให้ขาย เพราะความเข้มแข็งของธุรกิจกระดาษพิมพ์เขียนอยู่ที่วัตถุดิบ คือ เยื่อกระดาษ และในตอนนั้นเรามีเยื่อน้อยมาก เรามีเยื่อทำจากชานอ้อยอยู่ที่บ้านโป่ง (บริษัท เยื่อกระดาษสยาม) และจากยูคาลิปตัสที่วังศาลา (บริษัท สยามเซลลูโลส) แต่รวมแล้วมีกำลังผลิตแสนตันเศษๆ ขณะที่เรามีกำลังผลิตกระดาษพิมพ์เขียนอยู่เกือบ 3 แสนตัน ซึ่ง McKinsey ดูแล้วก็เห็นว่าเราไม่เข้มแข็ง เพราะต้องซื้อเยื่อจากข้างนอก ถ้าราคาเยื่อสูงเราก็ไม่มีกำไร ก็เลยออกมาเป็นคำแนะนำว่า ถ้าเครือซิเมนต์ไทยไม่มีกำลังที่จะลงทุนต่อก็ให้ขายตรงนี้แล้วเก็บกระดาษบรรจุภัณฑ์เอาไว้ แต่คุณสมบูรณ์ (กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เยื่อกระดาษสยามคนปัจจุบัน) ซึ่งตอนนั้นดูแลธุรกิจกระดาษพิมพ์เขียนอยู่ก็พยายามเดินหน้าหาผู้ร่วมทุน แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้ ยังอยู่ในช่วงของการเจรจา ซึ่งระหว่างนั้นกระดาษก็ยังส่งออกได้ตลอด ถึงเศรษฐกิจจะแย่ แต่กลุ่มนี้ก็ปรับตัวได้เร็ว ทำการปรับปรุงคุณภาพ ทำตลาดส่งออกได้เยอะ ก็ฟื้นตัวเร็ว

พอเริ่มฟื้นตัวก็เป็นจังหวะที่พาร์ตเนอร์ของฟินิคซ พัลพ์ แอนด์ เพเพอร์ ที่เป็นชาวอินเดียเขาเห็นโอกาสที่จะไปขยายการลงทุนที่อินเดีย ก็ต้องการเงิน เลยมาเจรจากันและเราก็ตกลงซื้อหุ้นจากเขา ทำให้เมื่อรวมกำลังผลิตเยื่อของเรากับของฟินิคซฯแล้วกลายเป็นว่าเรายังมีเยื่อเหลืออีกประมาณปีละ 1 แสนตันสำหรับขายให้ข้างนอกด้วย เพราะฉะนั้นโพสิชั่นในธุรกิจนี้ของเราก็เปลี่ยนไป เลยมีการรีวิวกันใหม่ เป็น Boston Consulting Group เขามาดูเห็นว่าโพสิชั่นในธุรกิจกระดาษพิมพ์เขียนของเราเข้มแข็งพอก็แนะนำให้เราเก็บไว้เป็นธุรกิจหลัก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us