|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กันยายน 2548
|
|
ประสบการณ์จากฟิลิปปินส์
- หลังจากที่เข้าไปเทกโอเวอร์ United Pulp and Paper (UPPC) ที่ฟิลิปปินส์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว การตอบรับของผู้บริโภคเป็นอย่างไรบ้าง
การรับรู้ว่าเครือซิเมนต์ไทยเข้าไปถือหุ้นใหญ่แล้วยังอยู่ในวงจำกัดมาก ถ้าเป็นลูกค้าที่ซื้อจากเราโดยตรงจะรู้ว่าทีมบริหารคนไทยเข้าไปแล้ว แต่ถ้าไกลจากนั้นออกไปเขาก็ยังไม่รู้ ในแง่ของตัวบริษัทเองหลังจากที่เราส่งคนเข้าไปกว่า 20 คนก็พยายามปรับปรุงทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องโรงงานก่อน จนถึงวันนี้การผลิตดีขึ้นมาก ถือว่าใกล้เคียงกับประเทศไทยแล้ว ตัวสินค้าที่ขายออกไปก็ได้รับการตอบรับดี เรามาร์เก็ตแชร์สูงที่สุดในตลาด สินค้าบางส่วนก็มีส่งออกด้วย ผลการดำเนินงานก็ดีขึ้นตามลำดับ ปีนี้น่าจะดีขึ้น แต่บังเอิญมีข้อด้อยในเรื่องพลังงาน เดิมมีเครื่องปั่นไฟที่ใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิง พอราคาน้ำมันสูงขึ้นมาก แทนที่เราจะมีกำไรดีพอสมควรก็ลดลง แต่เรากำลังลงทุนสร้าง boiler ที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ปลายปีนี้จะเริ่มเดินเครื่องได้ ถ้าเริ่มเมื่อไรผลการดำเนินงานจะดีขึ้นอีกเยอะ
- เราจะเอาธุรกิจผลิตกล่องและบรรจุภัณฑ์เข้าไปด้วยไหม
ตอนนี้ก็ดูอยู่ เพราะลูกค้าของเราที่นั่นที่ทำธุรกิจกล่อง เขาสนใจ เขาเคยมาดูงานของเราที่นี่ก็สนใจจะหาโอกาสทำอะไรด้วยกัน ก็ดูรูปแบบอยู่ว่าจะทำได้แค่ไหน เราคิดว่ามีโอกาสที่จะพัฒนาให้ตลาดดีขึ้นได้ การทำบรรจุภัณฑ์ก็เป็นด้านหนึ่งที่เรามอง
- ถึงวันนี้ที่ฟิลิปปินส์รับรู้ภาพของการเข้าไปทำธุรกิจของเครือซิเมนต์ไทยมากน้อยเพียงใด
ในภาพรวมยังไม่มาก แต่ลูกค้าจะทราบว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของเครือซิเมนต์ไทย และธุรกิจกระดาษของเรามีอะไรบ้างเราก็จะเล่าให้เขาฟัง ซึ่งเมื่อก่อนเขาจะไม่ทราบเลยแล้วก็จะแปลกใจมากว่าเรามีถึงขนาดนี้เลยหรือ โรงงานเราใหญ่ที่สุดในอาเซียนเลยหรือ เขาก็จะเริ่มรับทราบมากขึ้น เราคิดว่าสิ่งที่เราทำที่ประเทศไทยที่เราเริ่มสื่อสารกับคนข้างนอกมากขึ้นจะเป็นตัวอย่างได้ว่าถ้าทำแล้วเกิดผลตอบรับที่ดี เราก็จะไปทำในประเทศที่เรามีฐานของเราอยู่และพยายามทำในแบบเดียวกัน
- เราได้เรียนรู้ประสบการณ์อะไรบ้างจากฟิลิปปินส์
ได้หลายอย่าง เช่น กฎหมาย อย่างการเพิ่มทุนที่ฟิลิปปินส์จะมีขั้นตอนอยู่ แล้วที่เราเจอก็คือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยที่เราไม่เคยทราบมาก่อน เช่น การติดอากรแสตมป์ ซึ่งเยอะมาก หลายล้านบาท ทำให้การจะทำอะไรต่อไปต้องเช็กเรื่องพวกนี้ให้ดี แล้วก็มีเรื่องแรงงาน ที่นั่นจะมีสหภาพแรงงานเหมือนในไทย แต่สหภาพที่นั่นจะมีความคิดอยู่ว่า เขาจะต้อง เรียกร้องอะไรให้เกิดทุกปี เพื่อให้เห็นว่าเป็นผลงาน ของเขา สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ไป ทุกวันนี้เราก็อยู่กับเขาได้ดีพอสมควร ทุกอย่างก็ผ่านด้วยดีตลอด
- เราจะเอาโมเดลของฟิลิปปินส์ไปใช้กับประเทศอื่นในย่านนี้ได้ไหม
เราเอาเรื่องที่เราเรียนรู้ที่นี่ไปใช้ได้ แต่เรื่องของสภาพแวดล้อมต่างๆ อาจจะไม่เหมือนกัน แต่ละประเทศก็มีจุดเด่นด้อยแตกต่างกันไป แต่ว่าประสบการณ์ที่ได้ก็จะช่วยได้มาก
- การเป็นธุรกิจของไทยเข้าไปลงทุนที่ฟิลิปปินส์ มีเกิดความรู้สึกบวกหรือลบของคนที่นั่นบ้างไหม
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมสนใจมากและพยายามเช็กอยู่เรื่อยๆ ถึงแม้นอกบริษัทคนจะยังไม่ค่อยทราบ แต่ที่ผมสนใจก็คือคนภายใน คนของ UPPC เอง การที่เราไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และส่งทีมบริหารเข้าไปถึงวันนี้ก็ผ่านมา 2 ปี ผมคิดว่า positive เพราะเราเข้าไปแล้วเราก็ทำแบบที่เครือซิเมนต์ไทยทำ คือเรื่องการพัฒนาคน การให้เทรนนิ่ง ซึ่งจะเป็นข้อที่เห็นได้ชัด เพราะธุรกิจที่นั่นยังให้ความสนใจในเรื่องนี้น้อยมาก พอเราไปทำโปรแกรมการฝึกอบรมขึ้นมาแล้วเขาก็มองเราดีขึ้นว่าเราไม่ได้คิดมาฉกฉวยหรือมาใช้ประโยชน์จากแรงงานของเขาอย่างเดียว แต่สิ่งที่ยังติดอยู่ตอนนี้คือ ตำแหน่งสำคัญๆ ยังเป็นคนไทยหมดในใจพนักงานที่นั่นเขาต้องคิดว่าเขาจะมีโอกาสขึ้นมาได้ไหม ผมก็บอกพวกเราว่า ให้พยายามดูว่าคนไหนที่มีศักยภาพให้ดึงขึ้นมาและพัฒนาเขา ทำให้เขาเห็นว่าคนท้องถิ่นจะเป็นอนาคตของบริษัท นี่เป็นแนวความคิดของเรา
|
|
|
|
|