Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 สิงหาคม 2548
ทิสโก้เล็งออกFIFลุยหุ้นทั่วโลกผลตอบแทนหรูปลายปีเห็นแน่!             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด

   
search resources

ทิสโก้, บง. - TISCO
Funds




ทิสโก้ได้ฤกษ์ขยับปีกลุยกองทุนรวมลงทุนต่างประเทศ (FIF) เตรียมเปิดตัว 2 กองทุน ภายในสิ้นปีนี้ มูลค่ารวม 800 กว่าล้านบาท เล็งลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก หวังกระจายความเสี่ยงการลงทุน คาดให้ผลตอบแทนหรู

นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมลงทุนในต่างประเทศ (FIF) 2 กองทุน ในช่วงปลายปีนี้ หลังจาก ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุญาตให้กองทุนรวม และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทสามารถนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้ ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทได้ขอวงเงินสำหรับกองทุนรวมลงทุนในต่างประเทศ 1 กองทุน มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริหารจัดการ วงเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

"ในช่วงเดือนตุลาคม หรืออย่างช้าเดือนพฤศจิกายน เราเตรียมเปิดตัวกองทุนรวมลงทุนในต่างประเทศ 2 กองทุน ซึ่งจะมีนโยบายการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก เพื่อกระจายความเสี่ยงการ ลงทุนให้กับผู้ถือหน่วย ซึ่งคาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนน่าจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจสำหรับผู้ถือหน่วย"

สำหรับสาเหตุที่ทำให้บริษัทตัดสินใจเลือกออกเป็นกองทุนหุ้น เนื่องจากประเมินว่าแนวโน้มผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นสูงกว่าการลงทุนผ่านตราสารหนี้ และที่สำคัญลักษณะการลงทุนที่กระจายการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกจะทำให้โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมีสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

ส่วนรูปแบบการลงทุนจะลงทุนผ่านกองทุนที่มีอยู่ในต่างประเทศ เพื่อประหยัดต้นทุนในการบริหารจัดการ

นายสุทัศน์กล่าวถึงแผนการ ดำเนินงานในครึ่งปีหลังของบริษัท ว่า กลยุทธ์การลงทุนในครึ่งปีหลัง ยังคงให้น้ำหนักกับการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่สูง และในช่วงที่ผ่านมากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ของบริษัท ก็ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 10% ขณะที่อัตราผลตอบแทนอ้างอิงเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ให้ผลตอบแทนเพียง 2% กว่าๆเท่านั้น

"เรายังเน้นหุ้นกลุ่มพลังงาน อยู่ เพราะมีความเสี่ยงต่ำสุด แต่เมื่อภาพเปลี่ยน เราคงต้องมองหา ลู่ทางการลงทุนในกลุ่มอื่นๆ เพิ่มขึ้น" นายสุทัศน์ กล่าว

ส่วนการออกกองทุนใหม่ๆ เข้ามาในตลาดหลังจากนี้ ภาพที่เห็นชัดจะเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่ลงทุนในพันธบัตร หรือตั๋วเงินคลังของรัฐบาล โดยบริษัทมีแผนออกเฉลี่ยเดือนละ 1 กองทุน เพื่อตอบสนองความต้องการนักลงทุน ที่ส่วนใหญ่เริ่มเข้ามาลงทุน ในกองทุนระยะสั้นที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลมากขึ้น เนื่องจากให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และการลงทุนในระยะสั้นถือเป็นการพักเงินไว้ เพื่อรอจังหวะที่ดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ไม่เสียโอกาสในช่วงดอกเบี้ยขยับ

สำหรับกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่เตรียมเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ โดยจะเปิดขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 1-12 กันยายน มี 2 กองทุน มูลค่าโครงการรวม 4 พันล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนเปิดทิสโก้ พันธบัตรเพิ่มค่า 2 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี แต่กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (ประมาณเท่ากับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากเงินลงทุน) ขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมและรับซื้อคืนหน่วย ลงทุนทุกระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ระยะสั้น เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการ ของผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงในรูปของมูลค่าเพิ่มจากการลงทุน โดยมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ

ส่วนกองทุนที่ 2 ที่จะเปิดขายในวันที่ 1-12 กันยายน เช่นเดียวกันคือ กองทุนเปิดมิลเลี่ยนแนร์ มีนโยบายลงทุน 1 ปี คาดการณ์ผลตอบแทน 3.2-3.3% ต่อปี มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุเฉลี่ย 1 ปี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us