|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โอเรียนท์ สยายปีก ลงทุนเปิดเส้นทางบินกัมพูชา ตั้งเป็นศูนย์กลางทางการบิน ประเดิม 1 ต.ค.นี้ เปิด 3 เส้นทาง พนมเปญ-ฮ่องกง, พนมเปญ-กรุงเทพฯ และพนมเปญ-เกาหลี หลังสบช่อง นักท่องเที่ยวต่างชาติไหลเข้ากัมพูชาโต ต่อเนื่องทุกปี ขณะที่สายการบินยังมีน้อย เผยเป็นการกระจายความเสี่ยงธุรกิจหลังโลว์คอสต์ในประเทศแข่งแรงขาดทุนยับ ต้องพึ่งเส้นทางต่างประเทศ ระบุเตรียมสร้างแบรนด์ วัน-ทู-โก ให้รู้จักแพร่หลาย โดยใช้นำหน้าทุกเส้นทางบินที่ลงทุนใหม่
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ ผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์)วัน-ทู-โก บาย โอเรียนท์ ไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงทุน กับนักธุรกิจชาวกัมพูชา ในสัดส่วนถือหุ้น 51 ต่อ 49 จัดตั้งบริษัททำธุรกิจ การบินในประเทศกัมพูชา ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เพื่อเตรียม เปิดให้บริการเส้นทาง การบินจากกรุงเทพฯ ไปประเทศกัมพูชา ภายใต้ ชื่อ "วัน-ทู-โก บาย แคมโพเชีย"
ทั้งนี้ บริษัทฯมีแนวคิดจะใช้ ประเทศกัมพูชา เป็นศูนย์กลางทางการบิน เพื่อให้บริการเป็นเส้นทางบินไปกลับประจำทุกวัน ใน 3 เส้นทาง ได้แก่ พนมเปญ-ฮ่องกง, พนมเปญ-กรุงเทพฯ และพนมเปญ-เกาหลี นอกจากนี้ยังให้บริการบิน ภายในประเทศระหว่าง เมืองพนมเปญ-เสียมเรียบ ด้วย โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ตุลาคมศกนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ บริษัท ได้เคยเปิดเส้นทางบินในประเทศกัมพูชามาแล้ว เมื่อปี พ.ศ.2534 แต่ได้หยุดดำเนินการเพราะสาเหตุจากปัญหาการเมืองภายในประเทศกัมพูชา และได้มาเปิดให้บริการอีกครั้งในลักษณะเช่าเหมาลำ และ บินภายในประเทศกัมพูชา เมื่อปี พ.ศ.2540 และการที่บริษัทได้กลับไปลงทุนในธุรกิจการบิน อีกในครั้งนี้ เพราะเล็งเห็นศักยภาพของการเติบโต ด้านการท่องเที่ยว และด้านเศรษฐกิจของกัมพูชา
โดยจากข้อมูลสถิติแจ้งว่า จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมมีการเติบโตต่อเนื่องประมาณ 1 ล้านคนต่อปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น และเกาหลีที่เดินทางเข้ากัมพูชาเฉลี่ยปีละ 3 แสนคน ขณะที่ปัจจุบันยังมีสายการบินน้อยมากที่บินเข้ากัมพูชา เช่น การบินไทย และ บางกอกแอร์เวย์ เป็นต้น ดังนั้น เมื่อเทียบกับตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวทำให้เล็งเห็นการเติบโตของธุรกิจการบินในประเทศนี้
ทั้งนี้ วิธีดำเนินธุรกิจ วัน-ทู-โก บาย แคม-โพเชีย จะไม่ใช่สายการบินต้นทุนต่ำ แต่เป็นสาย การบินที่คิดราคาค่าโดยสารอย่างสมเหตุสมผล โดยราคาจะถูกกว่าการบินไทย และบางกอกแอร์เวย์ ประมาณ 20% คาดว่าเมื่อเปิดให้บริการ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า คาดอัตราเฉลี่ย ที่นั่ง(โหลดแฟกเตอร์) จะอยู่ราว 70% ซึ่งบริษัทมีแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อท้องถิ่นในกัมพูชา เบื้องต้นเพื่อต้องการสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จัก สำหรับขนาดเครื่องบิน จะใช้ โบอิ้ง 757 ขนาด 200 ที่นั่ง จำนวน 1 ลำ และ เอ็มดี 170 ที่นั่ง จำนวน 2 ลำ ไว้คอยให้บริการ
นายอุดมกล่าวอีกว่า ในอนาคตมีแผนที่จะสร้างแบรนด์ "วัน-ทู-โก" ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในระดับนานาชาติ โดยจะใช้ชื่อ วัน-ทู-โก นำหน้าสายการบินในทุกเส้นทางที่บริษัทจะไปลงทุนเปิดให้บริการ โดยปีหน้าเตรียมลงทุนที่เกาะฮ่องกง และประเทศจีนอีก 1 แห่ง ซึ่งการ ขยายการลงทุน ก็เพื่อต้องการกระจายความเสี่ยง ทางธุรกิจ เพราะธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำในประเทศไทย มีการแข่งขันที่รุนแรง มีการตัดราคา กันยอมที่จะให้บริการทั้งที่ขาดทุน โดยเฉพาะช่วง นี้ซึ่งราคาน้ำมันขึ้นสูงมาก ซึ่งหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเชื่อว่าในอนาคตสายการบินที่สายป่านทางธุรกิจไม่ยาวนักอาจต้องปิดกิจการ
ในส่วนของ วัน-ทู-โก ก็เช่นกัน ต้องยอมรับ ว่า เส้นทางที่บริษัทเปิดให้บริการภายในประเทศ มี ผลประกอบการขาดทุน แต่บริษัทยังมีรายได้จาก เส้นทางต่างประเทศ เช่น เกาหลี ฮ่องกง เข้ามาทดแทนเฉลี่ยกันไป ทำให้ยังดำเนินธุรกิจอยู่ได้
|
|
|
|
|