Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 สิงหาคม 2548
BBLเชื่อราคาน้ำมันพุ่งสูงสุดปลายปีนี้ คาดดุลบัญชีทั้งปีติดลบ4-6พันล้านเหรียญ             
 


   
search resources

ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.
Economics
Oil and gas
บันลือศักดิ์ ปุสสะรังษี




ศูนย์วิเคราะห์ เศรษฐกิจมหภาค ธนาคารกรุงเทพ ประเมินภาวะราคาน้ำมันดิบที่ยังพุ่งสูงเฉียด 70 เหรียญต่อบาร์เรล มาจากดีมานด์ในตลาดโลกที่เพิ่มมากขึ้น เชื่อแตะระดับสูงสุดปลายปีนี้ พร้อมคาดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดครึ่งปี หลังของไทยขาดดุลลดลง ทั้งปีจะติดลบ 4,000-6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จีดีพีโตระดับ 3.5-4%

นายบันลือศักดิ์ ปุสสะรังษี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผย ถึงภาวะราคาน้ำมันที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่าระดับ 68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลว่า มาจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มมากขึ้น แต่ราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในปลายปีนี้ เนื่องจากเป็นฤดูหนาวซึ่งเป็น ช่วงที่จะใช้พลังงานสูง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปริมาณนำเข้าน้ำมันในประเทศเริ่มชะลอตัวลงมาแล้ว ซึ่งจะเห็นได้จากอัตราการเติบโตของการ นำเข้าอยู่ระดับต่ำกว่า 30% แล้ว เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เพราะที่ผ่านมาได้มีการนำเข้าน้ำมันและสินค้าทุนเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งการนำเข้าที่ลดลง จะช่วยให้การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

โดยศูนย์วิเคราะห์ฯ คาดว่า ไทยจะขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2548 ประมาณ 4,000-6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 2-3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ขณะที่ จีดีพีทั้งปีโตประมาณ 3.5-4.0%

"การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยในปีนี้คงเริ่มลดลง เพราะปริมาณการนำเข้าเริ่มชะลอตัวลง ประกอบกับการส่งออกของไทยขยายตัวดีขึ้น ซึ่งคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังการส่งออกน่าจะขยายตัวถึง 18-20% แต่ทั้งปีจะถึง 20% หรือไม่นั้นยังไม่แน่ใจ เนื่องจากเศรษฐกิจต่างประเทศอย่างสหรัฐฯ และจีนยังขยายตัว ในเกณฑ์ดีอยู่" นายบันลือศักดิ์ กล่าว

นายบันลือศักดิ์กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจโลกปี 2549 จะชะลอตัวลงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะเห็นผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ได้ปรับขึ้นไปแล้ว ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯปีหน้าจะโตเพียง 2.5-3.0% เท่านั้น เมื่อเทียบกับปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 3.5% นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนก็จะชะลอตัวเช่นเดียวกัน คาดว่าเติบโต 6-7% ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 9.5% เนื่องจากปีหน้าเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไปจีนลดลง เพราะในปีนี้มีเงินต่างชาติเข้ามาเก็งกำไร ในค่าเงินหยวนของจีนจำนวนมาก

นายบันลือศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย ว่า มาตรการกระตุ้นการออมเงิน ในประเทศไทย เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการขาดดุล บัญชีเดินสะพัดของไทย ซึ่งมีหลายแนวทางที่จะกระตุ้นการออม เช่น นโยบายลดหย่อนภาษี การประกันชีวิต และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาสนใจฝากเงินเพิ่ม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us