Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 สิงหาคม 2548
มิตซูบิชิเพิ่มลงทุนไทยเล็งไทยฐานผลิตรถเล็ก             
 


   
search resources

มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย
Auto Manufacturers




ค่าย "มิตซูบิชิ" ประกาศขยายการลงทุนในไทยต่อเนื่อง เตรียมทุ่มอีก 1,000 ล้านเยน หรือกว่า 360 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 แสนคัน หลังจากยอดปัจจุบันไม่สามารถรองรับความต้องการจากตลาดทั้งในและต่างประเทศได้ เผยกำลังศึกษาใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถขนาดเล็ก หรือบี เซกเมนต์ รวมถึงรถคอมแพกต์คาร์อย่าง แลนเซอร์ใหม่ เพื่อส่งออกในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ปิกอัพใหม่ "มิตซูบิชิ ไทรทัน" ปรับเป้ายอดจองช่วง เปิดตัว 3 วัน พุ่งทะลุ 1 หมื่นคัน

นายโอซามุ มาซูโกะ ประธานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยในการเดินทางมาเปิดตัวปิกอัพ มิตซูบิชิ ไทรทัน(Triton) ในไทยเป็นครั้งแรกของโลกว่า เป็นที่ทราบดีว่ามิตซูบิชิ ได้เลือกไทยเป็นฐานการผลิตปิกอัพระดับภูมิภาค นอกประเทศญี่ปุ่น สำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์ โดยเฉพาะปิกอัพที่ส่งออกไปยัง 140 ประเทศทั่วโลก มียอดสะสมส่งออกรวมรถทุกรุ่น กว่า 700,000 คัน ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

"ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แม้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 180,000 คัน แต่ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เพียงพอ เราจึงมีแผนระยะสั้นที่จะลงทุนเพิ่ม 1,000 ล้านเยน หรือประมาณกว่า 360 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 200,000 คัน"

โดยกำลังการผลิตในจำนวนดังกล่าว ประมาณ 1.25-1.30 แสนคัน จะส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ ที่เหลือเป็นรอบรับตลาดรถยนต์ในไทย และเชื่อมั่นว่าในปี 2549 จะมีการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิจากไทยเพิ่มขึ้น และสำหรับมิตซูบิชิ ไทรทัน จะสามารถเริ่มส่งออกได้ก่อนเดือนมีนาคมปีหน้าเป็นต้นไป

นายมาซูโกะกล่าวว่า นอกจากปิกอัพที่เป็น ฐานการผลิตสำคัญแล้ว มิตซูบิชิกำลังศึกษาตลาดอื่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะผลิตในประเทศไทย เพิ่มตอบรับกับความต้องการของตลาดในภูมิภาคอาเซียน

"เรากำลังศึกษาแผนประกอบรถยนต์นั่ง หรือเก๋งในไทย ส่วนจะเป็นรุ่นไหนอย่างไร ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะกำลังทำการศึกษาอยู่ แต่หากมองสภาวะปัจจุบันที่ไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก กำลังประสบปัญหาราคาน้ำมันแพง เราเห็นว่ารถยนต์ในตลาดบีเซกเมนต์ (B Segment) หรือรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานมีความเหมาะสมมากที่สุด และยังมีรถคอมแพกต์คาร์อย่าง แลนเซอร์ ใหม่ด้วย"

ส่วนจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่งใหม่ รองรับตลาดในภูมิภาคอาเซียนหรือไม่ อย่างที่บอกว่ามิตซูบิชิกำลังทำการศึกษาอยู่ จึงยังไม่สรุปว่าจะเป็นอย่างไร แต่หากมอง ณ วันนี้ แล้ว ไทยมีศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตมาก ที่สุด หากจะเลือกลงทุนเพื่อการส่งออกแล้ว ไทย ก็น่าจะมีความเหมาะสมกว่าที่อื่นๆ

สำหรับรถยนต์นั่งที่กำลังศึกษาอยู่จะเป็นรถยนต์ในหมวดของรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงาน หรือเอสคาร์ (ACES Car) ที่รัฐบาลไทยกำลังผลักดันอยู่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้เช่นกัน เพราะรัฐบาลยังไม่สรุปเรื่องสเปกที่ชัดเจน ซึ่งหากมีการประกาศสเปกของตัวถัง หรือเครื่องยนต์ออกมาเป็นทางการจึงจะมาพิจารณาว่ารถนั่งรุ่นใหม่ตรงกับสเปกของเอสคาร์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในการที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญทำให้ในอนาคตมิตซูบิชิมีแผน ที่จะลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อทำ การผลิตรถยนต์รุ่นหลักๆ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีวิจัยและพัฒนาในประเทศไทยเอง โดยอันดับแรกสิ่งที่มิตซูบิชิในไทยจะต้องทำ คือต้อง ทำการออกแบบและพัฒนารถปิกอัพในไทยเองทั้งหมด เนื่องจากปัจจุบันยังมีการพึ่งพาการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Know How) จากญี่ปุ่นอยู่

นายมิซาโยชิ คุมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปิกอัพใหม่ มิตซูบิชิ ไทรทัน ถือเป็นโมเดลที่ 3 ของปิกอัพในไทยนับตั้งแต่เริ่มทำตลาด มาตั้งแต่ปี 2521 โดยมีแนวคิดหลักในการพัฒนาให้เป็นปิกอัพที่ทันสมัยและรูปลักษณ์สร้าง สรรค์และทรงพลัง โครงสร้างที่ยึดเกาะถนนได้มั่นคง และการออกแบบทันสมัยในทุกๆ ด้าน

"ไทรทันได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก แม้จะยังไม่เป็นตัวอย่างเป็นทางการ แต่จนถึงเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) มียอดจองจากดีลเลอร์แล้ว 3,000 คัน และเราเชื่อมั่นว่าจบงานเปิดตัวไปจนถึง วันที่ 28 ส.ค.ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมียอดจองมากกว่า 10,000 คัน ซึ่งมากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ครั้งแรก 8,000 คัน และมั่นใจว่าไทรทันจะสามารถทำยอด ขายได้ในช่วงแรกนี้ประมาณ 6,000 คันต่อเดือน หรือถึงสิ้นปีประมาณ 30,000 คัน จากปกติยอด ขายปิกอัพสตราด้าเฉลี่ยเดือนละ 3,500-4,000 คัน"

สำหรับมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มีทั้งหมด 11 รุ่น โดยในช่วงแรกจะเปิดจำหน่าย 8 รุ่นได้แก่ เมกะแค็บ 2.5 ลิตร คอมมอนเรล เทอร์โบ 3 รุ่น ทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ แบบดับเบิลแค็บ หรือ 4 ประตู เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และ 3.2 ลิตร คอมมอนเรล เทอร์โบ 5 รุ่น มีทั้งแบบเกียร์ธรรมและอัตโนมัติ มีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อให้เลือก ขณะที่ราคาเริ่มต้นที่ 548,000 บาท ในขณะที่รุ่นสูงสุดมีราคา 898,000 บาท ส่วนรุ่นมาตรฐานอีก 3 รุ่น จะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนั้น ได้กำหนดราคาไว้ไกล้เคียงกับมิตซูบิชิ สตราด้าในรุ่นเดียวกัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us