Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์10 มิถุนายน 2548
รถมือ 2 อ่วมแน่ พิษ ACEs Car ทำราคาร่วงอีก40%             
 


   
search resources

Economics
Automotive




โครงการ ACEs Car บอมพ์ลูกล่าสุดเตรียมกระหน่ำตลาดรถมือ 2
ผู้ประกอบการเล็งราคารูดลงอีก 40% เต็นท์รับศึกหนักแต่จะทำให้ตลาดขยายตัว
คาร์เซ็นเตอร์เน็ทเวิร์คขยายไลน์ขายรถใหม่ พร้อมบริการประกันพ่นกันสนิมสร้างรายได้เสริม

ตลาดรถมือ 2 ยังป่าวไม่เลิก เหตุโดยมรสุมกระหน่ำถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกนั้นเจอพิษการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตเมื่อกลางปี 2547 ที่ผ่านมา ทำให้ให้ราคากลางของรถยนต์มือ 2 แต่ละรุ่นต้องถูกปรับลดลงมา ตามราคาของรถใหม่ป้ายแดง โดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 2000 ซีซี. ส่งผลให้เต็นท์รถมือ 2 หลายแห่งต้องปิดตัวไป เนื่องจากขาดทุน

มรสุมลูกที่ 2 ของตลาดรถมือ 2 ที่กำลังใกล้เข้ามาคือ โครงการ ACEs Car หรือ อีโคคาร์ ซึ่งตามนโยบายของรัฐบาลต้องการผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันราคาประมาณ 350,000 บาท ออกมาจำหน่าย โดยบรรดาเต็นท์รถมองกันว่า จะเป็นอีกปัจจัยทำให้ราคามือ 2 ต้องปรับตัวกันลงมาอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะรถยนต์มือ 2 ที่ปัจจุบันราคากลางจำหน่ายกันในระดับราคาไม่เกิน 400,000 บาทได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ราคากลางอาจถูกกดลงมาเหลือเพียง 200,000-250,000 บาท ขณะที่รถมือ 2 ที่จำหน่ายกันในราคาปัจจุบันไม่เกิน 300,000 บาท ราคาก็จะตกลงไปอยู่ที่แสนบาทเศษๆ เท่านั้น หรือคิดเป็นอัตราลดลงประมาณ 35-40%

ปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการอีกราว 80% ของเต็นท์รถที่น่าจะมีเหลืออยู่ประมาณ 3,000 แห่ง ยังมีรถที่ขายไม่ออกตั้งแต่ก่อนปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต และยังไม่สามารถระบายรถในมือออกไปได้ ยิ่งเมื่อเจอกับโครงการ ACEs Car เชื่อว่าจะมีเต็นท์รถที่ไม่มีการปรับตัวต้องหายไปอีกมากพอสมควร

สุนทร งามเกิดศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาร์เซ็นเตอร์ เน็ตเวิร์ค จำกัด มองว่า ทางรอดของเต็นรถมือ 2 ยังมีโอกาสอยู่ แต่ต้องมีการปรับตัวเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในกับตนเอง นอกจากนี้หากมองการปรับตัวของราคารถมือ 2 ที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากนี้ในแง่ดี จะเป็นการทำให้รถมือ 2 มีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น เนื่องจากราคาที่ต่ำลง ผู้บริการโภคสารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งผู้ประกอบการเองอาจต้องวางแผนในการหารถเข้ามาในเต็นท์ให้รัดกุม เช่น เมื่อรถมือ 2 ราคาตกลงก็ต้องหารถราคาถูกเข้ามาในเต็นท์มากขึ้น เพื่อเฉลี่ยต้นทุนกับรถเก่าที่ยังไม่สามารถขายได้

ตัวอย่างรถมือ 2 ที่ราคาคาดว่าจะต่ำลงมานั้น สุนทร บอกว่า รถฮอนด้าซีอาร์วี รุ่นปี 2000 ราคาป้ายแดงจากโชว์รูมอยู่ที่ 1.25 ล้านบาท ราคามือ 2 ก่อนปรับโครงสร้างภาษีอยู่ที่ประมาณ 900,000 บาท แต่หลังโครงสร้างภาษีใหม่ฯ ราคาปัจจุบันอยูที่ราวๆ 700,000 บาท คาดว่าหลัง ACEs Car ออกมาราคาจะตกเหลือ 500,000-600,000 บาท

ขณะที่รถหรูเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น ซี 220 ปี 1996 ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 8 แสนบาท ราคาก็อาจตกลงเหลือ 5 แสนบาทในปีหน้า ขณะที่เบนซ์ รุ่น 190 อี ปีหน้ามีเงินแค่ 2 แสนกว่าบาทก็สามารถหาซื้อมาขับกันได้ ทั้งหมดนี้เป็นผลจากราคา ACEs Car ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 350,000 บาท

“สำหรับตลาดรถมือ 2 ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ทรงตัว คนซื้อส่วนใหญ่รอฟังข่าว โครงการอีโคคาร์ ว่าจะออกมาเมื่อไร ทำให้บางรุ่นการซื้อขายค่อนข้างฝืด โดยรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เครื่องยนต์ไม่เกิน 2000 ซีซี. การซื้อขายมีปริมาณน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนรถยนต์นั่งราคาเกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป ถือว่าซบเซามาก ไม่ต้องพูดถึงรถระดับราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป ที่บางเต็นท์แทบจะขายกันไม่ได้ ยกเว้นรถปิกอัพที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากช่วงปรับโครงสร้างภาษี หรือแม้จะมีรุ่นใหม่ออกมากันตลอดในช่วงนี้ แต่ปิกอัพมือ 2 ยังทำยอดขายกันได้ดี” สุนทร กล่าว

สำหรับการปรับตัวของผู้ประกอบการเต็นท์รถมือ 2 นั้น สุนทร บอกว่า เต็นท์รถมือ 2 ควรต้องหาช่องทางทำรายได้อื่นๆ เกี่ยวกับธุรกิจรถมือ 2 เพื่อเพิ่มทางเลือก และบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้า เช่น ให้บริการขัดสี บ่นกันสนิม ล้างทำความสะอาดเครื่องยนต์ ประกันรถ หรือแม้กระทั่งการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยรถใหม่ป้ายแดง เป็นต้น

สุนทร กล่าวว่า ปัจจุบัน คาร์เซ็นเตอร์เน็ตเวิร์ค ได้จัดคอร์สฝึกอบรมการปรับตัวทางธุรกิจของเต็นท์รถมือ 2 เพื่อช่วยสร้างผู้ประกอบการที่มีอยู่ให้แข็งแรง และสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ โดยทำเป็นเฟรนไชส์ ซึ่งในคอร์ส หนี่งจะเปิดรับเพียง 10 คน คิดค่าเฟรนไชส์ และฝึกอบรมคนละ 99,000 บาท เป็นการสอนเกี่ยวกับการธุรกิจรถมือ 2 แบบครบวงจร รวมถึงการเพิ่มตัวผลิตภัณฑ์รถใหม่ ให้เป็นทางเลือก พร้อมทั้งให้สิทธิเป็นเน็ตเวิร์คในการขายรถมือ 2 ของคาร์เซ็นเตอร์เน็ทเวิร์คที่มีอยู่ด้วย โดยทั้งหมดเป็นรูปแบบของธุรกิจรถมือ 2 ของบริษัทในปัจจุบัน

“เป็นการนำแนวคิดในการทำตลาดรถมือ 2 แบบใหม่ๆ พร้อมกับการจัดการใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ นอกจากการทำกำไรจากการขายรถเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากบริษัท เงินทุนทุน สินอุตสาหกรรม จำกัด ในการปล่อยสินเชื่อวงเงิน 1 ล้านบาทให้กับผู้ร่วมเฟรนไชส์อีกด้วย” สุนทร กล่าว

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเต็นท์รถมือ 2 หลายรายต้องหายไป ทั้งพิษเศรษฐกิจ ผลจากโครงสร้างภาษี อัตราดอกเบี้ย และขาดการจัดการระบบการเงินที่ดี บางรายมีการปรับตัวไปขายรถมือ 2 ในตลาดที่สูงขึ้น เพื่อสร้างความแตกตาก ขณะที่ย่านหรือแหล่งเต็นท์รถมือ 2 ก็เริ่มประจายออกไปในตามพื้นที่ชานเมือง เช่น ถนนพัฒนาการ ถนนศรีนครินทร์ ถนนพระรามเก้า ถนนพระราม 2 ถนนกาญจนาภิเษก ถนนพุทธมณฑล เป็นต้น ขณะที่ถนนรัชดานั้นคาดว่าจะเหลือเต็นท์รถไม่กี่แห่ง และที่เหลือส่วนใหญ่ จะเป็นรถมือ 2 ราคาแพง เป็นระดับหรูเท่านั้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us