บริษัทรถยนต์ขนาดกลาง-เล็ก เปิดเกมดอกเบี้ย0%

หวังหนีช่วงยอดขายซบ พร้อมล้างสต๊อกในมือดีเลอร์รอรับรถโมเดลใหม่ปลายปี

คอรถชี้ดันยอดได้แค่ช่วงสั้น แต่อาจส่งผลร้ายต่อรามือ 2 และแบรนด์ในอนาคต

0% แคมเปญดอกเบี้ยผ่อนรถยอดฮิตสำหรับธุรกิจรถยนต์กำลังมีแนวโน้มบูมกันอย่างหนักอีกครั้ง หลังมีการวิเคราะห์ยอดขายรถยนต์ในช่วงฤดูฝนอาจหดตัวลง และเมื่อเจอกับภาวะน้ำมันราคาถีบตัว ราคาสินค้าและบริการขยับสูงขึ้น ทำให้บริษัทรถยนต์ขนาดกลางและเล็ก ต้องคิดหาวิธีดันยอดขายเพื่อให้ได้ตามเป้า หรือแม้กระทั้งการเร่งระบายรถที่มีอยู่ของบางญี่ห้อ ก่อนจะมีรถรุ่นใหม่เปิดตัวในช่วงปลายปีนี้

ไม่แน่ชัดว่าค่ายไหนเป็นผู้คิดกลยุทธ์การขายนี้ออกมาเป็นคนแรก แต่แคมเปญดอกเบี้ย 0% ถือว่าเป็นกลยุทธ์ผลักดันยอดขายในช่วงสั้นๆ ได้อย่างเห็นผล ค่ายที่ถือว่าทำแคมเปญนี้มาตลอดคือ เชฟโรเลต รถยนต์รุ่นซาฟิร่าของเชฟโรเลตที่เกิดได้ และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมาก็ถือได้ว่าเกิดจากแคมเปญดอกเบี้ย 0% นี้ด้วยเช่นกัน

เงื่อนไขหลักจองแคมเปญดอกเบี้ย 0% นี้ ส่วนใหญ่จะกำหนดเงินดาวน์ของรถไว้ที่ 15-20% เป็นอย่างต่ำ และจะให้ผ่อนรถในอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลาตั้งแต่ 1 ถึง 3 ปี แล้วแต่ราคาของรถที่ผ่อน หากราคาอยู่ในช่วงมาเกินล้านบาทจนถึงล้านเศษๆ ระยะเวลาการผ่อนจะไม่เกิน 1 ปี แต่หากราคาเกินกว่า 2-3 ล้านบาทขึ้นไปก็อาจผ่อนได้นานถึง 3 ปี หรือ 36 เดือนได้

สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์นิสสัน น่าจะเป็นรายแรกๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยใช้แคมเปญดอกเบี้ย 0% สำหรับรถยนต์เกือบทุกรุ่นที่มี คือ X-Trail, Teana และ Sunny NEO แต่เป็นแคมเปญที่ให้เฉพาะลูกค้าที่ซื้อรถเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคมเท่านั้น ขณะที่รุ่นฟรอนเทียร์นั้น นิสสันใช้แคมเปญแถมทองคำมูลค่า 14,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1

จารุมน ชนะสฤษดิ์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายประชาสัมพันธ์ นิสสันฯ คาดการณ์ว่า แคมเปญนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของนิสสันได้ง่ายขึ้น โดยแคมเปญอัตราดอกเบี้ย 0% นี้ จะช่วยลดภาระในการผ่อนซื้อรถนิสสัน ซึ่งสำหรับรถรุ่น X-Trail และ Teana นั้น สามารถดาวน์ด้วยเงิน 20 % ของราคารถ และรับสิทธิ์ผ่อนดอกเบี้ย0% ได้นาน 12 เดือน ส่วนรุ่น Sunny NEO นั้นดาวน์เพียง 15% และป่อนในอัตรา 0% 12 เดือนเช่นกัน

ขณะ มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)ก็เริ่มแคมเปญดอกเบี้ย 0% ในช่วงเวลาเดียวกันคือเดือน กรกฎาคม แต่เริ่มจากรถปิกอัพรุ่นไฟเตอร์ ดาวน์ 15% ผ่อนดอกเบี้ย 0% ได้นาน 48 เดือน ส่วนมาสด้า ทริบิวต์ นั้น มีให้เลือกทั้งดาวน์ในอัตรา 0% แต่ผ่อนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือจะใช้เงินดาวน์ 20% และรับสิทธิ์ผ่อนในอัตราดอกเบี้ย 0% ได้นานถึง 60 เดือน

ด้านฟอร์ด เพื่อนร่วมสถาบันของมาสด้านั้น ใช้แคมเปญดอกเบี้ย 0% กับรถในรุ่น เอเวอเรสต์ , ปิกอัพ เรนเจอร์ และเอสเคป โดยให้ระยะเวลาการผ่อนนาถึง 48 เดือน และใช้ดาวน์ 20% ขณะที่ซีดานรุ่นเทียร่า นั้นให้ดาวน์เพียง 10% และรับสิทธิ์ผ่อนดอกเบี้ย 0%ได้ ในระยะเวลา 48 เดือนเช่นกัน

จะเห็นได้ว่า กลยุทธ์แคมเปญดอกเบี้ย 0% นั้นจะวนเวียนกับค่ายรถยนต์ระดับกลางและเล็ก เป็นส่วนใหญ่ เราจะไม่เห็นค่ายใหญ่ๆ อย่างโตโยต้า, อีซูซุ หรือฮอนด้า ก้าวเข้ามาเล่นกลยุทธ์เหล่านี้เลย ซึ่งนักวิเคราะห์วงการรถยนต์ให้ความเห็นว่า กลยุทธ์ดอกเบี้ย 0% แม้จะสามารถดันยอดขายได้ แต่ก็เป็นแค่ช่วงสั้นๆ ผลดีอาจมีในเรื่องการเร่งระบายรถออกจากสต๊อก หรือเป็นแคมเปญช่วยให้รถในมือดีลเลอร์ขายได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเคลียร์รถเก่าก่อนที่จะมีการเปิดตัวรถยนต์โมเดลใหม่ๆ ในช่วงปลายปี ภายในงานมหกรรมยานยนต์

แต่แคมเปญนี้ก็อาจมีผลเสียในเรื่องการสร้างแบรนด์ในอนาคต เนื่องจากรถเหล่านี้เมื่อถูกใช้งานไป 2-3 ปี และมีการขายต่อเป็นรถมือ 2 ราคาจะตกพอสมควร เมื่อราคามือ 2 ตกก็ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่มั่นใน และส่งผลต่อยอดขายรถใหม่ในอนาคตนั้นเอง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ค่ายใหญ่ไม่สามารถลงมาเล่นแคมเปญเหล่านี้ได้เลย

ส่วนค่ายรถยนต์ระดับหรูในกลุ่มผู้นำตลาดทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยูนั้น ทั้ง 2 ต่างมองในเรื่องของแบรนด์ระยะยาวเช่นกัน จึงไม่เคยเห็นเบนซ์ และบีเอ็มฯ ดันยอดขายด้วยแคมเปญดอกเบี้ย 0% เลย ต่างจากแบรนด์หรูอื่นๆ ที่ต้องใช้แคมเปญ 0% ในบางช่วงเพื่อทำยอดขายให้ได้ตามเป้า

สำหรับบีเอ็มฯนั้น ล่าสุดได้ร่วมมือกับ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิซเซส จัดแคมเปญโปรแกรมทางการเงินชื่อ “บีเอ็มดับเบิลยู แวลู พลัส” BMW Value Plus บีเอ็มฯบอกว่า ด้วยโปรแกรมนี้ลูกค้าสามารถที่จะเป็นเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูได้โดยไม่ต้องกังวลกับราคาขายต่อ เรื่องการดูแลรักษารถ ตลอดระยะเวลาการเป็นเจ้าของ

BMW Value Plus เป็นโปรแกรมการเช่าซื้อที่ ทำให้ลูกค้าสามารถ เป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยู ได่ด้วยการวางเงินมัดจำ 25% ของราคารถยนต์ และชำระค่าใช้จ่ายต่อเดือน ตามระยะเวลาสัญญา 36 หรือ 48 เดือน เมื่อสิ้นสุดสัญญาแล้ว ลูกค้าสามารถส่งมอบรถคืน และ เรียกคืนเงินมัดจำ 25% นั้นกลับไปได้

จุดเด่นประการหนึ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากโปรแกรมนี้คือ เงินค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ต่ำกว่า ค่างวดที่มีอยู่ในสัญญาเช่าซื้อทั่วไป โดยค่าใช้จ่ายต่อเดือนสำหรับรถยนต์รุ่น 525iSE นั้นอยู่ที่ 49,900 ต่อเดือน สำหรับสัญญา 48 เดือน 57,300 บาท (สัญญา 36 เดือน) และ เพียง 32,500 บาท ต่อเดือนสำหรับรุ่น 320i (สำหรับสัญญา 48 เดือน)หรือ 38,000 บาท สำหรับสัญญา 36 เดือน โดยลูกค้าไม่มีข้อผูกมัดที่จะต้องซื้อรถคันที่ตนเองขับขี่ระหว่างช่วงสัญญาแม้แต่น้อย

ฟรังค์ เริสเลอร์ ประธานบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยู กล่าวว่า ได้เริ่มต้นนำเอาแนวความคิดนี้ มาใช้ในการทำธุรกิจกับลูกค้าในหลายๆตลาด เช่น ในตลาดเยอรมัน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เป็นเวลาหลายปีแล้ว โปรแกรมนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอโปรแกรมทางการเงินของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิซเซส ในประเทศไทยให้กับลูกค้าในระยะยาวอีกด้วย

ด้านเดมเลอร์ ไครสเลอร์ ประเทศไทยนั้น ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยใช้แคมเปญส่งเสริมยอดขายมากนัก ส่วนใหญ่เป็นลักษณะปล่อยให้ดีลเลอร์เป็นผู้จัดกิจกรรมกันเอง ซึ่งปัจจุบันยอดขายของเบนซ์ ยังสูงกว่าจำนวนการประกอบและนำเข้าในบางรุ่น เรื่องแคมเปญจึงแทบจะไม่มีความจำเป็น อย่างไรก็ดีล่าสุดเดมเลอร์ ไครสเลอร์ มีการจัดงานในชื่อ “You Star, Your Mercedes-Benz” เป็นการฉลองครบรอบเบนซ์ในเมืองไทยครบ 100 ปี แต่ในงานจะมีเฉพาะเงื่อนไขให้ดาวน์ในราคาพิเศษ และผ่อนในระดับที่ต่ำกว่าปกติเล็กน้อยเท่านั้น