ซี เวลเนส สบช่องตลาดความงามโต รุกเปิดบริษัทสร้างผลิตภัณฑ์แบรนด์ "ซี เวลเนส" พร้อมรับเป็นที่ปรึกษาธุรกิจความงามและสุขภาพ ตั้งเป้าจำนวนลูกค้ามาใช้บริการ 20 รายต่อเดือน คาดรายได้ปีนี้ 15 ล้านบาท ด้านธุรกิจสปาชี้ภาพรวมปีนี้ตลาดเริ่มดาวน์ลง 20-30% ชี้เทรนด์สปาที่อยู่รอดต้องทำเป็นรูปแบบเวลเนส
นายโกสินทร์ แจ่มเพ็ชรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทซี เวลเนส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตเครื่องสำอางแบรนด์ "ซี เวลเนส" และรับบริการปรึกษาธุรกิจด้านความงาม เปิดเผยว่า บริษัทฯเล็งเห็นช่องว่างธุรกิจเฮลท์ แอนด์ บิวตี้ จึงได้จัดตั้งบริษัทฯขึ้นภายใต้ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดยการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯจะออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ โปรดักส์ ,ด้านบริการ,บริการทางด้านเครื่องมือให้แก่ลูกค้าทั่วไปและกลุ่มแพทย์ รวมถึงการฝึกอบรมหรือการให้ความรู้ทางธุรกิจ
ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท แบ่งออกเป็น กลุ่มแมส โปรดักส์ ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำผลิตภัณฑ์ออกขายเอง โดยผลิตภัณฑ์ตัวแรกเป็นหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คชื่อ "ปฏิบัติการแปลงโฉม" ซึ่งเขียนโดยนพ. โกสินทร์ แจ่มเพ็ชรรัตน์ เพื่อให้ผู้ที่สนใจธุรกิจทางด้านนี้และเป็นมือใหม่ในธุรกิจได้หาความรู้พื้นฐานจากหนังสือดังกล่าวนี้
ผลิตภัณฑ์ตัวที่ 2 เป็น "ซี-เวลเนส ทรีทเมนต์" ราคา 1,400 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า ขณะนี้มียอดขายประมาณ 500-700 ชุดต่อเดือน และตั้งเป้ายอดขายในไตรมาสแรกปีหน้าไว้ที่ 6,000-8,000 บาท และในช่วงปลายปีเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวที่ 3 "ไวท์ ที มิลค์กี้ มูส" สำหรับล้างหน้าและโกนหนวด เจาะกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งในแต่ละปีบริษัทฯจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 รายการ
บริษัทได้ใช้งบทางการตลาด 15% จากยอดขายทั้งหมด ในการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด อาทิ เตรียมทำละครเวทีเพื่อให้ความรู้เชิงสุขภาพ เป็นต้น โดยช่องทางการขายจะขายผ่านร้านบู้ทส์ 60 สาขา และร้านขายยาทั่วประเทศ บริษัทมีแผนขยายช่องทางการขายไปยังร้านขายยาและไฮเปอร์มาร์ทอีกกว่า 100-200 แห่ง รวมถึงรอจังหวะเข้าไปวางขายสินค้าในร้านวัตสันและท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต
ส่วนกลุ่มเอ็กซ์คลูซีฟ จะ เป็นลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการปรึกษาด้านธุรกิจความงาม คลินิกผิวหนัง สปา และต้องการให้บริษัทฯผลิตโปรดักส์ให้ หรือออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯจะทำหน้าที่เหมือนเป็นศูนย์กลางในการบริการด้านธุรกิจความงามไว้แบบครบวงจร ปัจจุบันมีลูกค้ามาใช้บริการกว่า 30 รายในระยะเวลา 4 เดือน อาทิ กลุ่มแพทย์และสถานเสริมความงาม เป็นต้น โดยคิดเป็นมูลค่ารายได้ 5-7 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าจำนวนลูกค้ามาใช้บริการ 20 รายต่อเดือน
สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมียอดรายได้ 12-15 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มแมส โปรดักส์ 60% และกลุ่มเอ็กซ์คลูซีฟ 40% ขณะที่ตลาดรวมของบริการด้านสุขภาพและความงามมีกว่า 1 หมื่นล้านบาท ส่วนมูลค่ารวมของผลิตภัณฑ์มีกว่า 5-8 หมื่นล้านบาท
นายโกสินทร์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนธุรกิจสปาแบบครบวงจรที่เปิดดำเนินการมา 2 ปีแล้ว ภายใต้ชื่อ "ซี -สปา" ตั้งอยู่ที่หาดใหญ่ สงขลา โดยรูปแบบบริการของซี-สปาจะเป็นแบบเวลเนสสปา (การดูแลแบบสมดุลย์) ที่ให้มากกว่าการนวดทั่วไป เช่น มีหมอมาคอยให้บริการในสปา เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันซี -สปามียอดรายได้ปีละ 15 ล้านบาท ล่าสุดขณะนี้มีผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ซี-สปามาดำเนินธุรกิจในย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ ซึ่งการลงทุนสปาต้องใช้งบประมาณกว่า 5 ล้านบาท
ภาพรวมธุรกิจสปาปัจจุบันนี้เริ่มตกลงกว่า 20-30% เนื่องจากการในตลาดมีธุรกิจให้บริการนวดเกิดขึ้นมาก ผู้บริโภคจึงมีทางเลือกมากตามไปด้วย รวมถึงการที่สภาพเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าบางรายมองว่าการนวดเป็นเรื่องสิ้นเปลือง แต่จากการที่ภาครัฐให้การสนับสนุนสปาไทยเพราะเชื่อว่าธุรกิจสปาสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งลูกค้าหลักที่ใช้บริการสปากว่า 70% เป็นคนไทย ส่วนที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ ปัจจุบันผู้ประกอบการสปาในไทยมีกว่า 2,000 ราย โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ สปาเพื่อสุขภาพ,นวดเพื่อเสริมสวยและนวดเพื่อสุขภาพ
|