ขสมก.ประเดิมเปลี่ยนเครื่องยนต์รถเมล์ 1,000 คันใช้ก๊าซเอ็นจีวีในสิ้นปีนี้ ลงทุน 600 ล้านบาท คาดลงนามเอ็มโอยูกับ ปตท. ได้สัปดาห์หน้า โดยอาจให้ ปตท. รับภาระต้นทุนให้ก่อนแล้ว ขสมก. ทยอยชำระเงินคืนภายหลัง ประมาณ การเปลี่ยนหมดกว่า 3 พันคันประหยัด น้ำมันได้เดือนละ 250 ล้านบาท

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์-ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะสามารถลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (เอ็มโอยู) เพื่อดำเนินการเปลี่ยนเครื่องยนต์รถ โดยสารสาธารณะจากการใช้น้ำมันดีเซลมาใช้ก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งอยู่ระหว่าง การเจรจารายละเอียด ซึ่งเบื้องต้น จะนำร่องเปลี่ยนเครื่องยนต์กับรถโดยสาร ขสมก. จำนวน 1,000 คันก่อน หลังจากนั้นให้ทำแผนปฏิบัติ-การมาเสนอให้ชัดเจนว่า ขสมก. จะ สามารถเปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะ ให้ใช้ก๊าซเอ็นจีวีได้ทั้งหมดภายในกี่ปี

นายปกศักดิ์ เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ภายใน สัปดาห์นี้ ขสมก. จะหารือกับ ปตท. เพื่อตกลงเรื่องการเปลี่ยนเครื่อง ยนต์ในรถโดยสารสาธารณะจำนวน 1,000 คันให้หันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีภายในสิ้นปี 2548 นี้ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าเรื่องค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่อง ยนต์จะมีหน่วยงานไหนช่วยรับผิด-ชอบบ้าง ทั้งนี้ เดิมกองทุนอนุรักษ์พลังงานเคยระบุว่าจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องยนต์ แต่ล่าสุดกองทุนอนุรักษ์พลังงานได้แจ้งกลับมายัง ขสมก. ว่า ไม่มีงบประมาณให้ ขสมก. จึงต้องเจรจา กับ ปตท. ว่า ปตท. จะช่วยเหลือ อย่างไรได้บ้าง เช่น การปรับเปลี่ยน เครื่องยนต์ให้ก่อน แล้วให้ ขสมก. ทยอยชำระเงินคืน

"การเปลี่ยนเครื่องยนต์รถ ขสมก. 1,000 คันคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่าย ส่วนนี้ ขสมก. ต้องคุยกับ ปตท. ว่า ปตท. จะออกค่าใช้จ่ายให้ก่อนหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะให้ ขสมก. ทยอยชำระคืนเงินอย่างไรจึงจะทำ เอ็มโอยูกันได้ และหากเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้ก๊าซเอ็นจีวีแบบ 100% จะเสียเงินค่าเปลี่ยนเครื่อง ยนต์ประมาณ 5 แสนบาทต่อคัน" นายปกศักดิ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากเปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะให้มาใช้ก๊าซเอ็นจีวีแล้ว คาดว่าแต่ละคันจะคืนทุนภายใน 2 ปี หลังจากนั้น ขสมก. จะทยอยปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถโดยสารสาธารณะที่มีให้บริการอยู่ประมาณ 3,000 คัน ให้มาใช้ก๊าซเอ็นจีวีทั้งหมดภายใน 2 ปี โดยปัจจุบัน ขสมก. มีต้นทุนน้ำมันเดือนละ 250 ล้านบาท สำหรับรถโดยสารสาธารณะที่จะเปลี่ยนมา ใช้ก๊าซเอ็นจีวีนั้นจะเป็นรถที่วิ่งบริการในเขตรังสิต มีนบุรี และสมุทรปราการ