|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แม็คโคร จับมือซัปพลายเออร์ธุรกิจอาหาร 120 ราย ทุ่ม 16 ล้านบาท จัดงานมหกรรม"แม็คโคร โฮเรก้าเอ็กซ์ตร้าวากานซ่า"สร้างภาพลักษณ์ใหม่ผู้นำตลาดธุรกิจประเภทอาหารสด-แห้ง เจาะกลุ่มโรงแรม ภัตตาคารเสริมรายได้เพิ่ม คาดฐานลูกค้าพุ่ง 25% สิ้นปีดันกลุ่มอาหารโต 50%
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบ 16 ล้านบาท เพื่อเตรียมจัดงานมหกรรม"แม็คโคร โฮเรก้าเอ็กซ์ตร้าวากานซ่า" (Makro HoReCa Extravaganza 1st) ครั้งที่ 1 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคมนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าเมืองทองธานี โดยเป็นการร่วมมือระหว่างบริษัทกับซัปพลายเออร์กว่า 120 ราย ที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ที่ใช้ในธุรกิจอาหาร โดยวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการให้มาร่วมงาน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรม, ร้านอาหาร, ภัตตาคาร
"เป้าหมายของการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แก่แม็คโครฯ ในฐานะผู้นำทางด้านการจัดหาสินค้าจำพวกอุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับป้อนธุรกิจดังกล่าว เพิ่มเติมจากเดิมที่บริษัทฯเป็นผู้นำในฐานะเป็นศูนย์ค้าส่งสินค้าให้แก่ธุรกิจค้าปลีกหรือโชวห่วยในประเทศ"
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในธุรกิจอาหาร จะแตกต่างจากลูกค้ากลุ่มธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากธุรกิจอาหารจะต้องใช้เวลาในการสาธิตและให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าพวกวัตถุดิบ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาหาร ส่วนธุรกิจค้าปลีกนั้นจะอาศัยแบรนด์สินค้าเป็นหลักในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องอาศัยการจัดงานมหกรรมดังกล่าว เพื่อแนะนำสินค้าให้กับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ
โดยบริษัทมียอดขายสินค้าประเภทอาหารคิดเป็น 70% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท ส่วนอาหารแห้งคิดเป็นสัดส่วน 10% เท่านั้น คาดว่าจะการจัดงานดังกล่าวจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งยอดขายของอาหารแห้ง ที่มาจากการขยายฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจอาหารได้อีก 25% โดยคาดว่าในปีนี้กลุ่มอาหารแห้งและอาหารสด จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 50%
ส่วนส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์ 3 แบรนด์ ได้แก่ แอโร่, เซฟแพ็ค และคิวบิส จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากกำลังได้รับความนิยมในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ ไม่คำนึงถึงแบรนด์มากนัก อาทิ ข้าวสารกระสอบละ 50 กิโลกรัม ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจค้าปลีกจะคำนึงถึงแบรนด์ของสินค้ามากกว่า โดยปัจจุบันแม็คโครมีสัดส่วนของสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ 6% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วนเพียง 2%
ปัจจุบันแม็คโครฯมีฐานสมาชิกไม่ต่ำกว่า 1.8 ล้านราย โดยจำนวนนี้มีลูกค้าที่แอคทีฟ 80% แบ่งเป็นกลุ่มค้าปลีก 60% กลุ่มองค์กรและห้างร้านอีก 15% และกลุ่มธุรกิจอาหารอีก 10% ที่เหลือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัว อาทิ ร้านทำผมที่ไม่ได้จดทะเบียนการค้าอย่างถูกต้อง ขณะที่สิ้นปีนี้มีการปรับปรุงสาขาครบ 19 สาขา ส่วนปีหน้าอีก 21 สาขา
|
|
|
|
|