จีเอฟเอเปิดแผนขยายธุรกิจเชนร้านอาหาร 4 แบรนด์ เป้าหมายอีก 5 ปีครบ 1,000 แห่งทั่วโลก ส่วนแผนบุกตลาดในไทยงัดเกม ควบทุกแบรนด์เปิดในพื้นที่เดียวกัน เพื่อเป็นการสร้างอิมเมจและภาพลักษณ์ ประหยัดพื้นที่ สร้างมูลค่าเพิ่มรายได้ต่อตารางเมตร เปิดตัวแบรนด์ใหม่ พิซซ่าคอร์เนอร์ และ เดอะครีมแอนด์ฟัดจ์

นายเฟรด มูอาวาร์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล แฟรนชายส์ อาคิเทคส์ ประเทศไทย จำกัด (จีเอฟเอ) กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจร้านอาหารในเครือให้ได้ครบ 1,000 สาขาทั่วโลก ภายใน 5 ปีนับจากนี้ ทั้ง 4 แบรนด์คือ ร้านพิซซ่าคอร์เนอร์ ร้านคอฟฟี่เวิลด์ ร้านนิวยอร์กเดลี่ และร้านเดอะครีมแอนด์ฟัดจ์ที่แรกในประเทศไทย จากปัจจุบันมีสาขารวมกันกว่า 108 สาขาทั่วโลก ซึ่งเป็นการเติบโตด้านสาขากว่า 80% ในปีนี้ ขณะที่ปีที่แล้วมีสาขาเติบโตขึ้น 38% และตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้มีประมาณ 150 สาขา

ปัจจุบันบริษัทฯมีสาขาในไทยรวม 63 แห่ง แบ่งเป็น คอฟฟี่เวิลด์ 60 แห่ง นิวยอร์กเดลี่ 1 แห่ง และพิซซ่าคอร์เนอร์ 2 แห่ง ขณะที่ในต่างประเทศคือ อินเดียมีสาขาพิซซ่าคอร์เนอร์ 38 แห่ง คอฟฟี่เวิลด์ 4 แห่ง และจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว บังคลาเทศมีคอฟฟี่เวิลด์ 1 แห่ง อาบูดาบีมีร้านคอฟฟี่เวิลด์ 1 แห่ง ที่หมู่เกาะรียูเนียนมีคอฟฟี่เวิลด์ 1 แห่ง ที่พม่ามีพิซซ่าคอร์เนอร์ 1 แห่ง

โดยบริษัทฯยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจเปิดบริษัทก่อสร้างตกแต่งเองด้วยเพื่อมารับงานาการขยายสาขา เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนดำเนินการ

สำหรับแบรนด์ใหม่คือ พิซซ่าคอร์เนอร์ จะเปิดให้ได้ 10 สาขาในปีนี้ เวลานี้เปิดไปแล้ว 2 แห่ง สำหรับร้านนิวยอร์กเดลี่จะเปิดเพิ่มอีกที่ เพลินจิตเซ็นเตอร์ พัฒนพงษ์ เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน ส่วนร้านไอศกรีมเดอะครีมแอนด์ฟัดจ์ ที่เตรียมจะเปิดตัวปลายปีนี้ตั้งเป้าจะเปิด 6 สาขาในปีนี้ในไทยที่ สยามพารากอน เดอะมอลล์บางกะปิ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต หัวหิน เป็นต้น ส่วนร้านกาแฟคอฟฟี่เวิลด์ก็จะยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเป็นตัวทำรายได้หลัก

กลยุทธ์หลักของการขยายธุรกิจของกลุ่มจีเอฟเอจะเน้นไปที่การสร้างความต่างจากผุ้ประกอบการรายเดิมที่มีอยู่ในท้องตลาด เช่น พิซซ่าคอร์เนอร์ก็จะเป็นร้านขนาดเล็กเน้นความสดทำใหม่ทุกวันเน้นเปิดในทำเลใหม่ๆเช่น ปั๊มน้ำมัน ซูเปอร์มาร์เก็ต ราคา 80-180 บาทไม่เหมือนค่ายพิซซ่าเดิมที่อยู่ในตลาดที่เน้นเปิดร้านขนาดใหญ่ในศูนย์การค้า เป็นต้น หรือร้านเดอะครีมแอนด์ฟัดจ์ที่จะเปิดปลายปีนี้ก็เป็นร้านไอศกรีมพรีเมียม ราคา 60 บาทต่อสกู๊ปขนาด 90 กรัม ที่สามารถเลือกท้อปปิ้งและแต่งหน้าเองได้

นอกจากนั้นจะใช้กลยุทธ์การเปิดร้านทุกแบรนด์ภายใต้พื้นที่เดียวกันเพื่อประหยัดงบลงทุน ทั้งการหาพื้นที่ การใช้บุคลากร และสามารถเป็นจุดดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้ เพราะมีอาหารที่หลากหลายบริการ ซึ่งยังทำให้การสร้างรายได้ต่อพื้นที่ต่อตารางเมตรมีมากกว่าการเปิดแบรนด์เดียว โดยคาดว่าจากแผนการขยายสาขาในไทยจะมีร้านที่เปิดทั้ง 4 แบรนด์รวมกันประมาณ 25% ซึ่งในปลายปีนี้จะเปิดรูปแบบร้านที่รวมทุกแบรนด์ของบริษัทฯในที่เดียวกันเป็นแห่งแรก ที่ โครงการสายลมพาวิลเลียน หัวหิน พื้นที่รวม 200 ตารางเมตร

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาก็เริ่มมีเปิดในพื้นที่เดียวกันบ้างแต่ไม่ครบ 4 แบรนด์เช่น ร้านนิวยอร์กเดลี่กับคอฟฟี่เวิลด์ที่ศาลาแดง ร้านพิซซ่าคอร์เนอร์และคอฟฟี่เวิลด์ที่โรบินสันบางรัก และล่าสุดร้านพิซซ่าคอร์เนอร์กับร้านคอฟฟี่เวิลด์ที่ปั๊มน้ำมันปิโตรนาสถนนศรีนครินทร์

สำหรับพิซซ่าคอร์เนอร์แบรนด์น้องใหม่นั้นในช่วง 3 ปีจากนี้ ตั้งงบลงทุน 150 ล้านบาท จะเปิดให้คร บ 100 สาขา ตามซูเปอร์มาร์เก็ต ปั๊มน้ำมัน อาคารสำนักงาน แบ่งสัดส่วนร้านของบริษัทฯ และขายแฟรนไชส์ เท่ากัน 50% โดยมีอายุสัญญานาน 6 ปี เสียค่าแฟรนไชส์ฟี 6 แสนบาท ค่าอุปกรณ์วัตถุดิบ 1-2.4 ล้านบาท ค่ารอยัลตี้ฟี 6% ค่ามาร์เก็ตติ้งฟี 2% สรุปลงทุนรวม 1.6-3 ล้านบาท เบื้องต้นนี้ใช้งบ 10% จากยอดขายมาทำการตลาด