Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์14 มีนาคม 2548
วงการบ้านจัดสรรสะเทือน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพิ่มน้ำหนักลงทุนบ้านราคา 2-3 ล้านบาท             
 


   
www resources

โฮมเพจ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ - แลนด์แอนด์เฮ้าส์

   
search resources

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, บมจ.
Real Estate




จับตาพี่เบิ้มวงการบ้านจัดสรร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โดดเล่นตลาดบ้านระดับกลาง ราคา 2-3 ล้านบาทมากขึ้น

ดีเวลลอปเปอร์ขนาดกลาง รับผลกระทบเต็ม ๆ หากผุดโครงการใกล้ใครมีสิทธิ์ยอดขายร่วง เหตุแบรนด์แลนด์ฯแข็งแกร่ง ครองใจผู้บริโภค

เตือนคู่แข่งปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดก่อนถูกแย่งลูกค้า

ผู้บริโภคได้เฮจากการแข่งขัน ทำให้ได้บ้านคุณภาพดี สถาปัตยกรรมเด่น ในราคาที่เหมาะสม

แม้ว่าตลาดบ้านจัดสรรจะเริ่มชะลอตัว แต่เชื่อว่าปีนี้ตลาดน่าจะยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการคาดการณ์กันว่า ตลาดน่าจะเติบโตได้ราว 15-20% จากปีก่อนที่มียอดจดทะเบียนบ้านใหม่ 62,796 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 42,937 ยูนิต และบ้านสร้างเอง 19,859 ยูนิต

ทั้งนี้ ตลาดบ้านระดับบนน่าจะมีการเติบโตน้อยลง เพราะในช่วง 1-2 ปีก่อน มีการขายบ้านระดับนี้จำนวนมาก จนทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ถูกดูดซับออกไปเกือบหมดจากตลาด ขณะที่บ้านระดับล่างน่าจะมีการขยายตัวได้อีกมาก เพราะมีความต้องการบ้านจำนวนมาก แต่ที่ผ่านมาไม่มีการลงทุนโครงการระดับนี้มากเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า เพราะผู้ประกอบการเกือบทุกรายหันไปสร้างบ้านระดับกลางถึงบนขายกันจำนวนมาก เพราะการลงทุนบ้านระดับนี้นอกจากจะขายได้ดีเป็นเทน้ำเทท่าแล้ว ยังมีกำไรมหาศาล หากเทียบกับการลงทุนสร้างบ้านระดับล่าง

จากการสอบถามผู้ประกอบการที่สร้างบ้านระดับบน ยอมรับว่า ตลาดราคาแพงสร้างผลกำไรเบื้องต้นได้มากถึง 35-40% ขณะที่บ้านราคาถูกมีกำไรเบื้องต้นเพียง10-20% เท่านั้น ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากผู้ประกอบการหลายรายจะหันไปลงทุนบ้านระดับบนขายกันในช่วงที่ผ่านมา

คาดบ้าน 2-3 ล้านขายดี

สำหรับตลาดระดับกลาง ราคาเฉลี่ยที่ 2-3 ล้านบาท แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการทำตลาดบ้าง ไม่มากนัก แต่ส่วนใหญ่โครงการยังกระจายไปไม่ทั่วถึงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งคาดว่าปีนี้ตลาดระดับนี้เป็นตลาดที่น่าจะขยายตัวได้ดีกว่าเซ็กเมนท์อื่น

บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เจ้าตลาดโครงการบ้านจัดสรร ย่อมมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และแน่นอนจะต้องวิเคราะห์ตลาดเป็นว่า ทิศทางตลาดจะไปในทิศทางใด ? และเห็นโอกาสในการสร้างยอดขาย จึงได้วางแผนลงทุนโครงการบ้านจัดสรร ระดับราคาเฉลี่ยที่ 2-3 ล้านบาทมากขึ้น จากปีก่อนที่ได้ทดลองทำตลาดแล้วประมาณ 200 ยูนิต ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

นพร สุนทรจิตต์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า ปีนี้ บริษัทจะลงทุนโครงการใหม่รวม 13 แห่ง คิดเป็นมูลค่า 28,032 ล้านบาท บนพื้นที่ 1,210 ไร่ จำนวน 4,432 ยูนิต ซึ่งจะเปิดโครงการใหม่ในไตรมาสแรก 4 แห่ง ไตรมาสสอง 3 แห่ง ไตรมาสสาม 2 แห่ง และไตรมาสสี่ 4 แห่ง ทั้งนี้ จะลงทุนบ้านราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท เป็นหลักเฉลี่ยที่ 60% และราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ในสัดส่วน 40%

เพิ่มน้ำหนักลงทุนเป็น 1,200 ยูนิตปี 49

โครงการที่จะลงทุนมีระดับราคาตั้งแต่ 2- 17 ล้านบาทขึ้นไป โดยในปีนี้จะลงทุนบ้านระดับราคา 2-3 ล้านบาทมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้ ซึ่งจะลงทุนประมาณ 800 ยูนิต บริเวณรังสิต ,พุทธมณฑล สาย 4 และท่าข้าม พระราม 2 เป็นต้น หลังจากที่ปีก่อนทำเพียง 200 ยูนิต และมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเป็น 1,200 ยูนิตในปีหน้า บ้านระดับนี้บริษัทจะใช้การก่อสร้างระบบกึ่งสำเร็จรูป หรือ พรีแฟบมาช่วยในงานก่อสร้าง เพราะจะช่วยย่นระยะเวลาในการก่อสร้างบ้านให้เร็วขึ้น

การโดดเข้ามาเล่นตลาดบ้านระดับนี้ แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวกับ"ผู้จัดการรายสัปดาห์" ว่า จะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการหลายราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการขนาดกลาง ที่ทำบ้านในระดับเดียวกัน และมีสายป่านสั้นกว่าแลนด์ฯ รวมถึงแบรนด์ของแลนด์ฯเป็นแบรนด์ที่แข็งมาก ผู้บริโภคให้การยอมรับ รวมทั้งเป็นผู้ปลุกกระแสบ้านไม่ได้เห็นอย่าซื้อ และเป็นผู้กำหนดทิศทางตลาดให้สร้างบ้านเสร็จก่อนขาย จนทำให้ผู้ประกอบการรายอื่น ต้องหันมาสร้างบ้านสร้างเสร็จก่อนขายกันทุกรายในช่วงวิกฤต

แนะสร้างจุดขายดึงลูกค้า

แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวอีกว่า หากโครงการของแลนด์ฯไปตั้งอยู่ใกล้โครงการของใคร ก็ขอให้เจ้าของโครงการดังกล่าวเร่งปรับตัวอย่างรวดเร็ว จะต้องสร้างจุดขายให้กับตัวเองให้ได้ เพราะหากยังขายด้วยวิธีการเดิมจะเสียเปรียบแลนด์ฯอย่างมาก ซึ่งอาจจะต้องดีไซน์รูปแบบบ้านให้โดดเด่น ออกแบบโครงการให้น่าอยู่ เพียบพร้อมด้วยสาธารณูปโภคภายในโครงการ ราคาไม่แพง ระบบการรักษาความปลอดภัยต้องดี ที่สำคัญการดูแลโครงการต้องจัดการให้ได้มาตรฐาน ค่าส่วนกลางควรจะต่ำกว่าของแลนด์ฯ เพื่อเป็นสิ่งจูงใจให้เลือกซื้อโครงการของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม การที่แลนด์ฯลงมาเล่นตลาดระดับ 2-3 ล้านบาทมากขึ้น จะส่งผลดีต่อผู้ซื้อบ้าน เพราะจากการแข่งขันที่สูงขึ้น จะทำให้ผู้ประกอบการทุกราย รวมทั้งแลนด์ฯจะต้องสร้างบ้านที่ดี มีคุณภาพ ดีไซน์สวยงาม พื้นที่ใช้สอยเหมาะกับการใช้งานจริง จะมีการบริหารจัดการโครงการที่ดีขึ้น อีกทั้งยังไม่กล้าปรับราคาบ้านขึ้นด้วย เพราะกลัวว่าจะกระทบยอดขาย

"การทำตลาดบ้านราคา 2-3 ล้านบาทมากขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเพื่อต้องการเติมเต็มในสิ่งที่ขาดในตลาด รวมถึงต้องการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังแยกเซ็กเมนท์การทำตลาดกันชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย ในบริษัทในเครือแลนด์ โดยบมจ.คิวเฮ้าส์ เน้นเจาะตลาดบ้านราคาแพงเช่นเดิม แม้ว่าตลาดระดับบนจะเริ่มเข้าสู่จุดอิ่มตัวก็ตาม ขณะที่บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ยังคงเน้นทำโครงการบ้านกลางเมือง"

โดยแผนการทำตลาดของคิวเฮ้าส์ ในปีนี้ยังเป็นเช่นเดิม คือเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์ เพราะเชื่อว่ากำลังซื้อยังมีอีก แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับปีก่อน ๆ โดยคิวเฮ้าส์ ยังมีแผนลงทุนโครงการใหม่ 2 แห่ง มูลค่าโครงการรวม 4,140 ล้านบาท ได้แก่โครงการลดารมย์ วัชรพล มูลค่า 3,100 ล้านบาท กำหนดเปิดตัวได้ในปลายเดือนมีนาคมนี้ และโครงการลัดดารมย์ Elegance รามคำแหง มูลค่า 1,040 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 3 ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน 14 แห่ง มูลค่าเหลือขาย 15,300 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีแผนจัดซื้อที่ดินเพื่อลงทุนโครงการใหม่อีกประมาณ 400 ไร่ ทั้งในกรุงเทพฯ และธนบุรี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ไว้ที่ 20% โดยมีรายได้รวม 7,191 ล้านบาท มากกว่าปี 46 ที่มีรายได้เพียง 6,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,147 ล้านบาท ส่วนปี 49 ตั้งเป้าเติบโต 25% และปี 50 ตั้งเป้าเติบโตที่ 20%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us