"ชุมพล ณ ลำเลียง" บอสใหญ่ซิเมนต์ไทย ยันไม่ปรับเป้ายอดขาย แม้ประเทศเผชิญภาวะปัจจัยลบมากมาย ทั้งดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ราคาน้ำมันแพงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมตรึงราคาขายปูนซิเมนต์ถึงกลางปี เผยครึ่งปีหลังทบทวนราคาขายใหม่ ตั้งเป้ายอดขายโต 10%

แม้ว่าสถานการณ์โดยรวมของประเทศจะมีปัจจัยลบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูง ราคาน้ำมันที่แพงมากเป็นประวัติการณ์ ต้นทุนวัตถุดิบปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมของปูนซิเมนต์สูงขึ้น แต่บอสใหญ่ ชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการการผู้จัดใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)(SCC) ยืนยันว่า จะไม่ปรับราคาปูนซิเมนต์อย่างแน่นอนในช่วงไตรมาส2 ปีนี้ แม้ว่าต้นทุนจะสูงขึ้น เพราะสามารถลดต้นทุนในกระบวนการผลิตได้ทดแทนกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยังสามารถขายสินค้าได้ในราคาเดิม นอกจากไม่ปรับราคาขึ้นแล้ว บริษัทยังยืนยันที่จะไม่ปรับประมาณการรายได้ และกำไรอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หากต้นทุนสูงขึ้นจนทำให้กระทบต่อผลการดำเนินงาน บริษัทอาจจะมีแผนปรับขึ้นราคา โดยจะพิจารณาจากหลายองค์ประกอบ ทั้งราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิต ที่สำคัญจะต้องร่วมหารือกับบอร์ดเป็นการภายใน ก่อนที่จะเสนอต่อรัฐบาล หรือหน่วยงานภายนอกองค์กร เพื่อปรับราคาสินค้า

"ต้นทุนที่พุ่งขึ้นตอนนี้ เรารับได้ ที่สำคัญยอดขายและกำไรยังมีอัตราเติบโตในเกณฑ์ที่ดี ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับราคาสินค้า" ชุมพลกล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ สิ้นสุด 31 มีนาคม 48 มีกำไรสุทธิ 9,997 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 57,165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% ยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจปิโตรเคมี 22,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 49% ซึ่งเป็นผลมาจากราคาโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ในตลาดโลก ที่ปรับเพิ่มขึ้นมากตามปริมาณความต้องการ

"ปัจจุบันธุรกิจปิโตรเคมี ยังถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น และน่าจะดีต่อไปอีกอย่างน้อยปี 2549 และเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลงในปี 2550 จากเดิมที่เรามองว่าความต้องการจะเริ่มลดลงในปีนี้ เพราะซัปพลายมีน้อย ขณะที่ดีมานด์ยังมีอีกมาก"

ส่วนธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์มียอดขาย 9,839 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% ธุรกิจซีเมนต์มียอดขายรวม 10,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เนื่องจากงานก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนเติบโตต่อเนื่อง ธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มียอดขายรวม 6,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ธุรกิจจัดจำหน่ายมียอดขายรวม 19,665 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เพราะความต้องการวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น (ดูตารางประกอบ)

ชุมพล กล่าวว่า ปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้น 10% และยังไม่มีแผนปรับประมาณการรายได้ เพราะไตรมาสแรกธุรกิจปูนซิเมนต์เติบโตดี ธุรกิจก่อสร้างจะดีในไตรมาส 2 และธุรกิจปิโตรเคมีจะดีในไตรมาส 3 แต่ยอมรับว่าท่ามกลางปัจจัยลบที่มีหลายด้าน ยังไม่รู้ว่าจะทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ แต่จากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเศรษฐกิจคงจะชะลอตัวบ้าง แต่จะไม่กระทบภาพรวมมากนัก