Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์27 พฤษภาคม 2548
เปิดใจ"สุรเธียร จักรธรานนท์" ก่อนทิ้งหมวก CEO เอส ซีฯใต้ปีกชินวัตร             
 


   
www resources

โฮมเพจ เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น

   
search resources

เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
สุรเธียร จักรธรานนท์
Real Estate




เป็นข่าวดังและช็อกวงการอสังหาริมทรัพย์ เมื่อแม่ทัพใหญ่ แห่งบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC) ในเครือชินวัตร สุรเธียร จักรธรานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในเอส ซี ฯ อย่างเป็นทางการเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลอย่างเป็นทางการวันที่ 30 มิ.ย.ที่จะถึงนี้

การลาออกของสุรเธียรครั้งนี้ สร้างความมึนงงให้กับวงการพอสมควร ว่า เพราะเหตุใดจึงลาออก ทั้งที่ สุรเธียร เป็นบุคคลที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เป็นเจ้าของอาณาจักรชินวัตร กรุ๊ป ให้ความไว้วางใจคนหนึ่ง ถึงขนาดให้ดูแลทรัพย์สินของเครือชินวัตรที่มีมูลค่านับหมื่นล้านบาท มานานกว่า 10 ปี

กระแสข่าวเกิดขึ้นมากมายกับการประกาศลาออกของสุรเธียร ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ บางกระแสบอกว่า สุรเธียร โดนบีบจากผู้ใหญ่ในเครือชินฯ เพราะไม่ยอมทำตามนโยบายของเจ้าของอาณาจักร และผู้ใหญ่หลายคน บ้างก็บอกว่า การบริหารงานในเอส ซีฯไม่เข้าตาผู้ใหญ่อีกคน ที่นายกฯทักษิณให้ความไว้วางใจดูแลสายงานสื่อสาร ผลงานไม่ดีเท่าที่ควร ยอดขายพลาดเป้า การเติบโตของบริษัทช้าเกินไป ทั้งที่ในช่วง 1-2 ปีก่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในช่วงขาขึ้น หรือบางกระแสบอกว่า การบริหารงานไม่เอื้อประโยชน์ต่อการเมือง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเลือกตั้งทั้งสนามเล็ก และสนามใหญ่ ทั้งที่เป็นบริษัทของผู้นำพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นรัฐบาล มีโอกาสที่จะฉกฉวยประโยชน์จากตรงนี้ช่วยสร้างฐานเสียงได้

บางกระแสบอกว่า สุรเธียรต้องการไปทำธุรกิจอื่นบ้าง รวมทั้งต้องการใช้เวลากับการเขียนหนังสือ ซึ่งการเขียนหนังสือต้องใช้เวลานานพอสมควร ที่ผ่านมา เขียนหนังสือไปแล้ว 2 เล่ม และอยู่ระหว่างการเขียนเล่มที่ 3 ขณะนี้เขียนไปได้ราว 6 บท จากที่จะเขียน 20 บท

อย่างไรก็ตาม สุรเธียร บอกว่า การลาออกของตนครั้งนี้ เพราะได้ทำงานทุกอย่างบรรลุเป้าหมายที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว ตามที่เคยบอกไว้กับเจ้าของบริษัท คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 10 ปีก่อนที่จะเข้ามาช่วยงานในเครือชินวัตร การเข้ามาครั้งนั้น เข้ามาพร้อมกับนโยบายที่จะนำเอส ซีฯเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งมีการวางรากฐานให้มั่นคง กำหนดทิศทางการดำเนินงานอย่างแม่นยำ และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นเช่นใด เอส ซีฯจะต้องไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หากเทียบกับธุรกิจเดียวกัน

นั่นคือ การสร้างฐานรากที่แข็งแกร่ง ด้วยการสร้างรายได้จากค่าเช่าที่มั่นคงเข้าบริษัทอย่างสม่ำเสมอ ส่วนรายได้จากการขายจะมีบ้างแต่ไม่มากนักในช่วงแรก เมื่อวางรากฐากเรียบร้อยแล้ว ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เอส ซีฯจึงได้เพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายมากขึ้น โดยลงทุนโครงการบ้านจัดสรร ซึ่งทุกโครงการล้วนสร้างยอดขายได้ดี ซึ่งอาจจะเป็นเพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในช่วงขาขึ้น หรือมาจากฝีมือของสุรเธียร ที่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้สำเร็จว่าต้องการบ้านในรูปแบบหรือลักษณะใด ทำให้โครงการทุกแห่งสามารถปิดการขายได้ตามกำหนด

ส่วนโครงการอื่นก็ได้วางแผนการไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน และโครงการที่อยู่ในแผนที่จะลงทุนในอนาคต แต่การดำเนินงานจะเปลี่ยนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับซีอีโอคนใหม่จะตัดสิน

"ทั้งนี้ การลาออกเป็นความตั้งใจมานาน แต่ยังไม่ได้ออกสักที เพราะการลาออกไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ต้องคุยให้เจ้าของบริษัทเข้าใจถึงเหตุผล อาทิ ก่อนหน้านี้จะลาออกแต่ติดปัญหา ตรงที่มีภาระกิจที่จะต้องนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวันนี้ภาระกิจถือว่าสิ้นสุดแล้ว จึงตัดสินใจลาออกตามเป้าหมาย"สุรเธียรอธิบาย

สำหรับอนาคต สุรเธียรบอกว่า ไม่ได้หายไปไหนยังจะอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์เหมือนเดิม แต่จะเปลี่ยนบทบาทใหม่ จากที่อยู่ในวงการมานานกกว่า 20 ปี รับบทบาทเป็นผู้ปฏิบัติ ลงมือทำเอง แต่หลังจากนี้จะเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น ขณะนี้กำลังเจรจากับบริษัทหลายแห่ง เพื่อเป็นที่ปรึกษา เพราะจะได้มีเวลาในการทำธุรกิจอื่น ซึ่งให้ความสนใจเป็นพิเศษคือธุรกิจพลังงาน และมีหุ้นในธุรกิจนี้กับเพื่อน ๆ อยู่ที่เขาใหญ่ และเขียนหนังสือ ซึ่งตั้งใจว่าจะเขียนปีละ 1-2 เล่ม รวมถึงต้องการให้เวลากับสังคม ทำงานเพื่อสาธารณะบ้างประโยชน์

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าไม่มีความคิดเข้าสู่เส้นทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ทั้งสนามเล็กระดับท้องถิ่น สนามใหญ่ระดับประเทศ และสภาสูง ซึ่งหากต้องการเข้าสู่เส้นทางทางการเมืองเข้าไปนานแล้ว เพราะที่ผ่านมา มีผู้ใหญ่ติดต่อให้เข้าสู่สนามการเมือง แต่ไม่สนใจ และที่ไม่สนใจก็ไม่ใช่เพราะเล่นไม่เป็น รู้จักการเมืองดี และมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ในอดีตเกี่ยวกับการเมืองเกือบทุกครั้ง แต่เมื่อหันมาทำธุรกิจจึงหันหลังให้การเมืองอย่างจริงจัง

นั่นคือ สิ่งที่สุรเธียร เปิดเผยต่อสาธารณะชน ถึงที่มาของการลาออกจากทุกตำแหน่งในเอส.ซี.ฯ ใต้ปีกชินวัตรกรุ๊ป ส่วนเบื้องหน้า เบื้องหลัง ผู้ใหญ่ในเครือชินวัตร รวมถึงตัวสุรเธียรเองรู้ดี

จากนี้ไปคงต้องจับตาดูต่อไป ว่าใครจะขึ้นมาเป็นแม่ทัพใหญ่คุมเอส.ซี.ฯให้เดินหน้าต่อไป แต่แว่วมาว่าน่าจะเป็นคนในตระกูลเจ้าของบริษัท ฟากคุณหญิงอ้อ พจมาน ชินวัตร ซึ่งหลังจากที่สุรเธียรหมดวาระ บุษบา ดามาพงศ์จะรักษาการไปก่อนที่จะมีการสรรหาซีอีโอคนใหม่ เพื่อนำพาเอส ซี.ฯไปให้ถึงฝั่ง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us