ยามธุรกิจรุ่งเรือง สดใส จะหยิบจะจับอะไรล้วนเป็นเงินเป็นทองไปหมด ไม่ว่าจะคิดลงทุนโครงการบ้านจัดสรรเอง หรือรับเป็นตัวแทนนายหน้า รวมถึงรับบริหารโครงการ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนลงทุน การตลาด จัดสรรงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ จนกระทั่งวางแผนการขาย ให้โครงการจบลงด้วยดี

แต่ยามภาวะเศรษฐกิจเริ่มติดขัด ไม่ว่าจะทำอะไรล้วนแล้วแต่มีปัญหา ติดอุปสรรคนานัปการ จนทำให้เกิดปัญหาลุกลามใหญ่โต

2-3ปีก่อน เมื่อธุรกิจบ้านจัดสรรกลับมามีอนาคตสดใสอีกครั้ง ยอดขายพุ่งพรวดทุกโครงการ ส่งผลให้ธุรกิจต่อเนื่องสดใสกันทั่วหน้า รวมถึงธุรกิจการรับบริหารการขายที่มีผู้แห่เข้ามาทำกันเป็นส่ำเป็นสัน ร่ำรวยกันตาม ๆ กัน แม้ว่าจะไม่ได้สร้างรายได้งดงามเท่ากับการลงทุนโครงการเอง แต่ก็เป็นการทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อยมาก เพราะไม่ต้องออกเงินลงทุนเอง หรืออาจจะมีบางรายที่ออกเงินลงทุนบ้าง แต่ก็น้อยมาก หากเทียบกับการลงทุนก่อสร้าง ลักษณะการทำงานจะลงทุนแค่แรงกาย หรือขายความคิดเท่านั้น หรืออาจกล่าวได้ว่า "จับเสือมือเปล่า"

แต่ในยุคนี้ ธุรกิจบ้านจัดสรรอยู่ในช่วงชะลอตัว หรือบางคนบอกว่าอยู่ในช่วงขาลง ทำให้ธุรกิจเกี่ยวข้อง พลอยไม่สดใส สวยงามไปด้วย ซึ่งรวมถึงตังแทนนายหน้า และรับบริหารโครงการหรือการขาย

ปัจจุบันนี้ ผู้ประกอบการรับบริหารการขาย เริ่มประสบปัญหาด้านการเงิน ทั้งที่มีงานเข้ามามากมายกว่าในช่วงอสังหาริมทรัพย์บูม เพราะในช่วงนี้เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า การขายบ้านไม่ง่ายเหมือนในอดีต เนื่องจากการแข่งขันรุนแรง ขณะที่กำลังซื้อมีจำกัด ทำให้เจ้าของโครงการหันมาพึ่งพาบริษัทรับบริหารการขาย ช่วยวางแผนด้านการตลาดและการขายมากขึ้น

สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจรับบริหารการขาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีงานเพิ่มขึ้นจริง แต่เรียกเก็บเงินจากเจ้าของโครงการได้ยากขึ้น เพราะส่วนใหญ่เจ้าของโครงการมักจะมีปัญหาด้านการขายตั้งแต่แรก ทำให้ยอดขายพลาดเป้า ซึ่งกระทบต่อแผนการใช้เงิน ทำให้ขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินมาจ่ายค่าบริการการขาย

ไพโรจน์ สุขจั่น อดีตนายกสมาคมตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยืนยันว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจรับบริหารการขายโครงการจัดสรรไม่สดใสเหมือนในอดีตช่วง 2-3 ปีก่อน เพราะเรียกเก็บเงินจากเจ้าของโครงการไม่ได้ หรือล่าช้าจนทำให้บริษัทผู้ประกอบการรับบริหารการขายการตลาดขาดสภาพคล่อง ต้องพากันปิดตัว หรือเลิกอาชีพนี้ไปหลายราย

ยกเว้นรายใหญ่ที่มีสายป่านยาว ยังสามารถอยู่รอดในธุรกิจได้ แม้ว่าจะประสบปัญหาการเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการไม่ได้ หรือได้ล่าช้ากินไป แต่เชื่อว่า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ หลายบริษัทต้องเจ๊ง และปิดตัวลงอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บรรดาผู้ธุรกิจรับบริหารการขาย และตัวแทนนายหน้าได้รวมตัวกัน เพื่อก่อตั้งสมาคมการขายและการตลาดขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานงานระหว่างสมาชิก มีจุดประสงค์ เพื่อช่วยป้องกัน และแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับสมาชิก และลุกลามใหญ่โตไปถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องอีก และในที่สุดอาจจะทำให้การเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สะดุดลงได้ และหากเลวร้ายกว่า อาจจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในอนาคตได้

สุดท้าย ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันป้องกันไม่ได้เกิดปัญหาอีก เพราะจากปัญหาเล็ก ๆ อาจจะเป็นเชื้อไฟให้เกิดปัญหาใหญ่โตตามมาได้ !!