|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ภาพลักษณ์แบรนด์และความภักดีในตราสินค้าที่เกิดขึ้นในใจผู้บริโภค หลังจากทำตลาดนมสำหรับเด็กมานานกว่า 50 ปี เป็นปัจจัยสร้างโอกาสสำคัญในการเคลื่อนทัพดูเม็กซ์ไปสู่ยุทธศาสตร์การทำตลาดสินค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งเป็นแผนปรับครั้งใหญ่ รีโพซิชันนิ่งพร้อมกันทั่วโลก
แต่ทว่าก่อนจะขยับขยายแตกไลน์สินค้าใหม่นั้น การวางโครงสร้างเพื่อตอกเสาเข็มแบรนด์ “ดูเม็กซ์” ให้เป็นมาสเตอร์แบรนด์ที่แข็งแกร่ง หนึ่งในใจของผู้บริโภค จึงกลายเป็นก้าวแรกที่เริ่มขึ้น โดยล่าสุดได้ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ และโลโก้ใหม่ โดยใช้ตัวหนังสือสีขาวพื้นสีแดงแถบคาดสีทองด้านล่าง ทั้งนี้เพื่อให้ดูโดดเด่นและสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์มีชีวิตชีวาและทันสมัย
รวมทั้งวางบุคลิกภาพคอร์ปอเรต แบรนด์ ดูเม็กซ์ ให้เป็น 4 ลักษณะคือ 1.Dynamic กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา มีพลังพร้อมที่จะทำงานอย่างมีชีวิตชีวา 2.Empathetic เข้าใจถึงความรู้สึกและความต้องการของลูกค้า 3.Friendly อบอุ่นและเป็นกันเองกับลูกค้า 4.Straight Forward สื่อสารอย่างชัดเจน เปิดเผยและตรงไปตรงมา
สำหรับการเคลื่อนไหวในประเทศไทย เพื่อตอบรับแผนของบริษัทแม่ ล่าสุดก็ได้ทุ่มงบ 500 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดจะนำมาใช้ในการทำตลาดรูปแบบการสื่อสารครบวงจรไปยังกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างการรับรู้ โดยใช้สื่อAbove-the-Line ภาพยนตร์โฆษณาผ่านสื่อทีวี สื่อวิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์ และBelow-the-Line การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด Mother Class ให้ความรู้และคำแนะนำสำหรับคุณแม่ รวมถึงให้ความรู้โรดโชว์ ในสถานที่ต่างเช่นโรงพยาบาล โรงเรียน ร้านค้า อาคารสำนักงาน ซึ่งนับว่าเป็นรูปแบบการตลาดสำเร็จรูป เพราะผู้เล่นในตลาดนมสำหรับเด็กมักนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคของนมสำหรับเด็กที่มีกลุ่มคุณแม่เป็นผู้เลือกซื้อสินค้า
อย่างไรก็ตามในระยะหลังการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของนมสำหรับเด็ก มีรูปแบบใหม่ๆที่เน้นเข้าไปสร้างการรับรู้กับกลุ่มเด็กที่เป็นผู้บริโภคสินค้าโดยตรง เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น เช่นกิจกรรม Kids Club สำหรับเด็กๆของนมดูเม็กซ์ หรือการเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนในการจัดแข่งแข่งกีฬาอนุบาลของอะแล็คต้าเป็นต้น
ทั้งนี้ ดูเม็กซ์คาดหวังว่าการรุกตลาดทุกรูปแบบ 360 องศานั้น จะเป็นเครื่องการตลาดที่สามารถสร้างความเข้าใจให้กับผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาปัจจัยที่มีหลากหลายกลุ่มสินค้านั้น ได้กลายเป็นจุดอ่อนที่สร้างความสับสนในการเลือกซื้อ
เนื่องจากซับแบรนด์ภายใต้มาสเตอร์แบรนด์ “ดูเม็กซ์” มีความหลากหลาย และจับตลาดครบเซ็กเมนต์ คลอบคลุมช่วงอายุตั้งแต่เด็กทารก เด็กโตก่อนเข้าเรียน (Pre-School ) เด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป และนมสำหรับเด็กวัยเรียน (School -Age)โดยมีการวางโครงสร้างให้ซับแบรนด์แต่กลุ่ม มีตำแหน่งทางการตลาดเจาะตลาด 2 ระดับคือกลุ่มผลิตภัณฑ์ Sandard จับกลุ่มตลาดแมส และกลุ่มผลิตภัณฑ์ "ไฮ-คิว" นมผงพรีเมียมจับตลาดระดับบน ซึ่งมีราคาจำหน่ายสูงกว่า 30%
นอกจากนี้มีการแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 4 กลุ่มตามช่วงอายุคือ 1.จับตลาดกลุ่มทารกแรกเกิดถึง 1 ปีคือแบรนด์ ดูแล็กซ์และไฮ-คิว วัน 2.จับตลาดกลุ่มเด็กเล็ก6 เดือนถึง 1 ปีคือแบรนด์ ดูโปรและไฮ-คิว ทู 3.จับตลาดกลุ่มเด็กวัย 1 ปีขึ้นไปคือแบรนด์ ดูโกร วัน พลัส และไฮ-คิว วัน พลัส 4.จับตลาดกลุ่มเด็กวัย 3 ปีขึ้นไปคือแบรนด์โกร ทรี พลัส และไฮ-คิว ทรี พลัส
ก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ว่า นมดูเม็กซ์ ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ ไฮคิว วัน พลัส และ ทรี พลัส และที่โดดเด่นสามารถสร้างการจดจำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักดีคือโฆษณาชุดที่ “ภราดร ศรีชาพันธุ์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ และเนื้อหาโฆษณาที่เน้น Benefit ในเรื่องของการการสร้าง IQ (Intelligence Quotient) ความเฉลียวฉลาดทางสติปัญญาและ EQ (Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งมีความแตกต่างจากเดิมที่ส่วนใหญ่ตลาดนมสำหรับเด็กเน้นสื่อสารจุดขายในเรื่องความแข็งแรงของร่างกายและความเฉลียวฉลาดทางปัญญาเท่านั้น
ล่าสุด เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้ ดูเม็กซ์ยังได้มีการสร้างอัมเบลล่าแบรนด์ "ไฮ-คิว มาม่า" เพื่อขยายฐานลูกค้าจากนมสำหรับเด็ก มาเปิดตลาดนมสำหรับสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร ซึ่งสอดรับกับอัตราการตั้งครรภ์ของคนไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 5.8% ในปี 2547 จากในปี 2546 มีตัวเลขต่ำกว่า 1%
ที่สำคัญเป็นสินค้าประเภทแรกที่ พยายามจะแตกไลน์เข้าไปปักธงในสินค้ากลุ่มใหม่ ภายใต้สโลแกน Building better people รวมถึงยุทธศาสตร์ ที่ต้องการจะปั้น “ดูเม็กซ์” ให้เป็นแบรนด์ ที่มีสินค้าเกี่ยวกับโภชนาการเหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย โดยล่าสุดที่ประเทศอินเดีย ได้มีการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์เสริมโปรตีนสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นการนำร่องและขยายขอบเขตการทำธุรกิจไปสู่ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กเท่านั้น
สำหรับสภาวะการแข่งขันในตลาดนมสำหรับเด็ก ปัจจุบันมีผู้เล่น 3 แบรนด์หลักๆ โดยแต่ละค่ายมีการทำตลาดใช้กลยุทธ์มัลติแบรนด์ เจาะตลาดแบ่งเป็นเซ็กเม้นต์ที่แยกย่อยมากขึ้นคือเนสท์เล่ มีแบรนด์ 1 Plus,3 Plus และ6 Plus ขณะที่มี้ด จอห์สัน มีแบรนด์เอนฟาโกร เป็นแบรนด์จับตลาดนมสำหรับเด็กตลาดพรีเมี่ยม
โดยนมดูเม็กซ์เป็นเบอร์หนึ่งในตลาดรวม ครองส่วนแบ่งตลาด 30 % จากมูลค่านมสำหรับเด็ก 1หมื่นล้านบาท แต่ในตลาดนมผง ที่มีการแบ่งเป็นสัดส่วนนมผง 60% มูลค่า 6 พันล้านบาท และนมยูเอชที 40% มูลค่า 4 พันล้านบาท ดูเม็กซ์ มีส่วนแบ่งตลาดมี 35% เป็นอันดับสอง ห่างจากผู้นำตลาด ประมาณ 2-3% คริสโตเฟอร์ สแตทตัน กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ดูเม็กซ์ กล่าวว่า ผลจากการรุกตลาด ทั้งการสื่อสารการตลาด การปรับภาพลักษณ์และโลโก้จะผลักดันให้ยอดขายปี 2548 มีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
|
|
|
|
|